Saturday, July 31, 2010

พิพิธภัณฑ์(เปลือก)หอยกรุงเทพฯ

31 กรกฎาคม 2553 ตั้งใจจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หอยฯ กัน 2 ต่อ 2 เนื่องจากครูสอนว่ายน้ำโทรมางดอีก 1 อาทิตย์ ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณครูใกล้สอบมิดเทอมแล้ว จะอยู่บ้านเฉยๆ ธีร์ก็คงไม่พ้นวิ่งไปเล่นเกมส์ที่คอมพิวเตอร์ พาออกไปนอกบ้านดูโน่นดูนี่จะดีกว่า

ขับรถซิตี้ของม่าออกจากบ้านด้วยความมั่นใจ ออกไปได้ 5 นาที ตายห่าน ทำไมรถมีควันขโมงลอยออกมาจากกระโปรงหน้ารถ ด้วยความตระหนก หม่าม้าหักรถเข้าไปจอดในป่า (อันนี้เว่อร์) ข้างทาง เปิดฝากระโปรง (ของรถไม่ใช่ของคนขับ)ดู เห็นควันพร้อมกลิ่นไหม้ลอยฉึ่งออกมาจากเครื่อง โทรกลับบ้านบอกกง...กงบอกว่าให้ (ค่อยๆ) ขับรถกลับมา โอเค กลับก็กลับ ออกจากซอยไปได้เล็กน้อย ม่าโทรมาบอกให้จอด จะไปลากกลับมา ช้าไปแล้วม่า...ขืนจอดล่ะก็ โดนประชาทัณฑ์แน่...รถติดหนึบขนาดนั้น เรา 2 คนดับแอร์ ขับรถกลับถึงบ้านในที่สุด

กงเดินลงมาดูแล้วก็สรุปผลให้ฟังว่า....รถจอดไว้นาน ไม่ได้ขับไปไหน หนูไปทำรังในเครื่องยนต์รถ เศษอะไรต่อมิอะไรหล่นลงไปในช่วงต่อของเครื่องยนต์เกิดอาการไหม้...ก่อให้เกิดควันและกลิ่น....โอ้...หนูเนี่ยนะ!!!!

ในที่สุด หลังจากปรึกษาโมอิ๊ ได้รถคุณโมอิ๊ออกเดินทางไปพิพิธภัณฑ์หอยฯ ได้ในที่สุดตอนเกือบ 11 โมง

ขับรถฝ่าการจราจรไปถึงสีลม เลี้ยวรถขวับเข้าที่จอดรถของพิพิธภัณฑ์ฯ ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ ที่ให้เลี้ยวเข้าไปจากสี่แยกโลด...จอดรถเสร็จ ไม่มีการแจกบัตรจอดรถตามธรรมดาที่จอดรถแถวสีลมแม้แต่น้อย ที่จอดรถว่าง....เป็นพิพิธภัณฑ์ฯ ที่คนนิยมไป 555

ลงจากรถ หม่าม้าบอกให้ธีร์ไปถ่ายรูปกับป้ายซะหน่อย แอ๊คท่าซะดิบดีจนพี่คนขับตุ๊กตุ๊ก มอง...โอ้ธีร์ครับ หม่าม้าลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ เดี๋ยวมาถ่ายใหม่ กลับไปเอาโทรศัพท์(+กล้อง)ก่อน ในที่สุดก็ได้ถ่ายรูปกับป้ายสมใจหม่าม้า
เข้าไปด้านใน ค่าบัตรผ่านประตู 100 บาท มีบัตร happy family day เค้าลดให้ 50 เปอร์เซนต์ เด็กเล็กๆ แบบธีร์เข้าฟรี...เดินดูไปได้ไปถึงอึดใจ หม่าม้าครับ ธีร์ปวดฉี่....วิ่งหาห้องน้ำ เจออยู่ที่ชั้น 3 คุณเจ้าหน้าที่เข้าไปทำธุระหนักอยู่พอดี...ธีร์ก็บ่นอยู่หน้าห้องน้ำ ฉี่จะราดแล้วววววว กรรมและเวรมาเจอกัน 555

เดินดูเปลือกหอยจากด้านบนไล่ลงมา เพิ่งรู้วันนี้ว่าหอยมีทั้งแบบที่กินพืชเป็นอาหาร กินสัตว์อื่นเป็นอาหาร และกินทั้งพืชทั้งสัตว์ หลากหลายมาก ชั้นบนสุดเป็นเปลือกหอยน้ำจืด หอยทาก หอยจากต่างประเทศ หอยลูกกวาด หอยน้ำพริก ภาพวาด งานศิลปะที่เกี่ยวกับหอย จากเปลือกหอย ฯลฯ หอยบางชนิดมีเข็มพิษด้วย ในคำอธิบายแนะนำว่าเวลาไปดำน้ำ หากไม่รู้จักหอยชนิดนั้นๆ อย่าไปจับมัน...เนื่องจากบางชนิดมีพิษมากพอที่จะทำให้เราตายได้ และนักวิทยาศาสตร์บางส่วนพยายามใช้พิษของหอยทำยารักษาอาการปวดในโรคเบาหวานและมะเร็งอยู่ด้วย...รูปนี้เป็นหอยลูกกวาดจากคิวบา เป็นหอยทากชนิดหนึ่ง
ชั้นที่ 2 แสดงเรื่องหอยกับพิธีพรามหมณ์อย่างหอยสังข์ เพิ่งจะรู้ว่าหอยสังข์ที่วนขวา (สังข์ทักษิณวัตร หรือสังข์สุวรรณภูมิ) เป็นหอยที่หาได้ 1 ในล้านเท่านั้น และมีอยู่แถวๆ อินโดนีเซียที่เดียว พอเกิดสึนามิ มันก็หายไปหมดเลย
ถ่ายรูปกับหอยสังข์ยักษ์ บังหอยสังข์ยักษ์ซะมิดชิด
ชั้นนี้ยังมีหอย 2 ฝา ที่เจ๋งคือหอยหัวใจ....หรือหอยแครงหัวใจ อันนี้ใจเดียว
ส่วนรูปนี้หลายใจ หลายสี หลายขนาด
อันนี้เป็นหอยงวงช้างผ่าครึ่ง ถ่ายจากตู้แสดงการเจริญเติบโตของหอยประเภทนี้ ที่มีมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์
ชั้น 1 ชั้นสุดท้ายมีวงศ์หอยจุกพราหมณ์ วงศ์หอยมือเสือ...
รูปนี้ธีร์ถ่ายกับหอยมือเสือยักษ์ เป็นหอยที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากที่สุดในโลกกก
ตามธรรมเนียม ไปไหนก็ตาม คุณหนูธีร์จะต้องซื้อของที่ระทึกติดไม้ติดมือมาซักหนึ่งชิ้น ราคาไม่เกี่ยง ขอให้ได้ของซักชิ้นเหอะ....ได้เปลือกหอยมา 1 ชิ้น
อยู่ในรถ ธีร์บอกว่า "ขอบคุณนะครับหม่าม้าสำหรับเปลือกหอย ธีร์ชอบมากๆ" ไม่อยากจะบอกว่าพอเดี๋ยวได้ของอย่างอื่น อีเปลือกหอยนี่คงทิ้งขว้างเหมือนกับของอื่นๆ แต่ก็ชื่นนนนใจที่ธีร์พูดจาน่ารัก 555 แล้วก็คุยกับธีร์เรื่องเวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เราควรดูเฉยๆ อย่าเอามือไปจับ เพราะจะทำให้ข้าวของเสียหายได้ ของบางอย่างที่มีลายอาจจะไม่มีลาย สึกไปเพราะคนจับเยอะ....ธีร์บอกว่า งั้นเปลือกหอยของธีร์เนี่ย บอกทุกคนด้วยนะว่าอย่าจับมาก!!!

ต่อไป เรามุ่งหน้าไปพารากอนกัน....ธีร์บอกว่าหิวมาก เลือกแล้วว่าจะกินแมคฟิช "อย่าลืมซื้อของเล่นให้ธีร์ด้วยนะครับ ของเล่นนารุโตะน่ะครับ ในทีวีเค้าบอกว่ามี" เหมือนว่านายจะดูทีวีมากเกินไปแล้วนะ พอไปถึง ปรากฏว่าของเล่นที่แมคฯ พารากอนห่วยมาก มีแต่ของรุ่นเก่า มีแค่ 2 แบบเท่านั้น ชิสส์นี่หรือห้างกลางกรุงฯ แต่อย่างว่า ธีร์ก็ขอแค่ได้ของเล่นซักชิ้น อะไรก็ได้ ได้รถมา 1 คัน (มีให้เลือกรถกับแตร จะเลือกอะไรดีล่ะ เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ!!!)

ซื้อใส่ถุงเสร็จ เดินออกจากร้าน ธีร์บอกว่า "อ้าว ไม่นั่งกินที่นี่เลยเหรอครับ ธีร์หิวววว" ได้รับคำตอบว่าไปนั่งกินที่มอสเบอร์เกอร์ก็แล้วกัน ป๊าสั่งซื้อเบอร์เกอร์ 4 ชิ้นไปเป็นเสบียง หม่าม้ากินมอสเบอร์เกอร์ ธีร์กินแมคฯ ตามความต้องการของแต่ละคน เหอ เหอ เหอ กินกันเรียบร้อยก็ไปช้อปปิ้ง ซื้อของไว้ไปใส่บาตรวันจันทร์ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของป๊า....

ขนซื้อข้าวของมากมาย เอากลับไปเก็บที่รถ ระหว่างเก็บต้องคอยโบกมือให้กับรถที่รอจอดว่ายังค่ะ ยังไม่ออก...ที่จอดรถพารากอนตอนบ่ายหายากดั่งทองคำในมหาสมุทรลึก 555

เดินกลับขึ้นไปเพราะนึกขึ้นได้ว่าธีร์ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำ (อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบกลับมาเยือนคุณชายอีกแล้ววันนี้) เข้าห้องน้ำแล้วออกมา ก็แวะซื้อข้าวของส่วนตัวของหม่าม้าเล็กน้อย ก่อนกลับ ธีร์เป็นป้ายสเวนเซ่นส์บอกว่าจะกินไอติม หม่าม้าพยายามชักจูงว่าไปกินไอเบอร์รี่เห๊อะ ธีร์ก็ไม่ยอม แต่ในที่สุดก็ยอมไปชิมซะหน่อย....มีไอติมแปลกๆ เยอะแยะ เช่น ไอติมเงาะ ไอติมมะม่วง ไอติมมะเฟือง ไอติมกระท้อน แต่ที่เด็ดสุดๆ คือ ไอติมรังนกผสมมอลต์!!! ไม่ได้ชิมซะงั้นเพราะมัวแต่วุ่นวายกับธีร์ ที่ในที่สุดก็ได้ไอติมเงาะมาในครอบครอง

เป็นวันที่สนุกอีกหนึ่งวัน แล้วเจอกันใหม่ สงสัยจะเป็นเรื่องทำบุญวันเกิดป๊าแฮะ

Tuesday, July 27, 2010

อาสาฬหบูชา - เข้าพรรษา

27 กรกฏาคม 2553 วันอาสาฬหบูชา ตื่นตี 5 ไปวัดทำบุญกัน ที่วัดคนล้นหลาม ทะลักทะลาย มาจากไหนกันไม่รู้ ทุกคนตั้งใจมาทำบุญกันอย่างเต็มที่ น่าชื่นชมมาก เด็กๆ ไปวัด ทำอะไรกันบ้าง
ก้นโด่ง...ทำงานกันอยู่ งานสิน-ละ-เปรอะ
พี่เขียน...
น้องวาด...
พอเห็นพี่เขียน - น้องวาด สาวน้อยคนนี้ (น้องธัญญ่า) ก็มาร่วมวงไพบูลย์ด้วย นั่งด้วยกัน แต่ต่างคนต่างวาด 555 น้องธัญญ่าวาดรูปได้สวยงาม เทคนิคในการวาดก็เก๋ไก๋มาก
ทำบุญกันเรียบร้อย เราก็ออกจากวัด ขับรถข้ามจังหวัดจากราชบุรีไปกันที่ร้านแดง แม่กลอง สมุทรสงคราม นัดไปกินข้าวกันป้าเป้และพลพรรคคนหน้าตาดี หม่าม้าทำหน้าที่พลขับ ค่อยๆ กระดื๊บๆ ชมทุ่งไป เกรงว่าจะไปถึงเร็วเกิน ปรากฏว่าไปถึง เค้าไปถึงกันเกือบหมดแล้ว 555

ครั้งที่ 2 ที่เจอน้องปัญญ์ ครั้งแรกที่เจอกัน น้องปัญญ์เพิ่งเกิดได้ไม่ถึงเดือน ธีร์บอกว่าธีร์จำน้องปัญญ์ได้....รูปนี้เรา 2 คนแม่ลูกพยายามล่อลวงให้น้องปัญญ์ยิ้มขำ หัวเราะ หรือเปลี่ยนสีหน้าบ้าง...ไม่ประสบความสำเร็จ 555 น้องปัญญ์มาดดีมาก ไม่มีหลุด
ธีร์สนุกสนานกับน้องปัญญ์มาก อารมณ์อยากมีน้อง 555วิ่งไปวิ่งมาในหมู่คนหน้าตาดี ส่งหน้าตี๋ๆ แบบธีร์เข้าไปร่วมกลุ่ม ไปแบบกล้าๆ กลัวๆ
แอ๊คท่าไปงั้น ไม่เล่นกับใครเค้าเลย แต่อยากอยู่เพราะวนเวียนอยู่แถวนั้น
หนึ่ง น้องปัญญ์ หนึ่ง ชูหนึ่งนิ้ว
กินข้าวเสร็จ ตอนแรกว่าจะไปเที่ยวกันแถวนั้นต่อ ปรากฏว่าดูปริมาณคนในร้านอาหาร (และที่มาคอยจิกตามองว่าเมื่อไหร่เราจะกินเสร็จกันซักที) ทุกคนลงมติไปกินไอติมที่โลตัสแถวบางใหญ่ ป๊ากะหม่าม้าก็ตกลงเหมือนกัน...ว่ากลับบ้านดีกว่า

28 กรกฎาคม 2553 วันนี้วันเข้าพรรษา ไปวัดใส่บาตร พระที่วัดไปรับภัตตาหารที่ตามมาในช่วงเข้าพรรษา ญาติโยมต้องไปใส่บาตรหน้าวัด ไปก่อน 7 โมงเช้าโลด ตื่นตี 4

ใส่บาตรเรียบร้อย วันนี้มีภารกิจพาอาม่า ณ หนองดินแดงไปวัดพระแก้ว ปรากฏว่าวันนี้วันดี สมเด็จพระบรมฯ จะเสด็จไปเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ประชาชนทั่วไปสักการะพระแก้วมรกตได้ด้านนอก ด้านในพระอุโบสถห้ามเข้า กำลังจัดเตรียมพระราชพิธีอยู่ ได้รูปพระแก้วมรกตมาแบบนี้
วันนี้ไม่ค่อยมีแดด แต่อากาศร้อนมาก ไหว้พระแก้วมรกตเรียบร้อยเราก็เดินดูภาพเขียนรามเกียรติ์กัน ธีร์เคยอ่านเรื่องรามเกียรติ์แล้ว คราวนี้มาดูภาพเขียน บอกว่าสวยมาก สีสันสวยงาม ตอนแรกไม่ยอมถ่ายรูป พอล่อลวงว่าเดี๋ยวป๊าถามจะไม่มีรูปให้ดูเป็นหลักฐานเลยยอมไปถ่ายรูป
นี่ก็เหมือนกัน ตอนแรกไม่ยอมถ่ายรูปกับยักษ์ ต้องบอกว่าไปถ่ายหน่อย จะเอาไปใส่อัลบั้ม เลยได้รูปถ่ายกับอาม่ามาแบบนี้
อากาศร้อน คุณหนูธีร์ไม่มีอารมณ์จะถ่ายรูป นี่ก็เหมือนกัน ลวงให้ไปถ่ายกับอับเฉา บอกให้ทำท่าเหมือนเค้าขำๆ ก็ไม่ยอม ทำท่ามาตรฐาน
ถ่ายให้เสร็จซะทีหม่าม้า ธีร์ร้อน
ม่ามองดู หลานตรูท่าพิสดารเหลือล้น 555
สุดท้ายก่อนออกจากพระบรมมหาราชวังไปกินข้าวเที่ยงก่อนกลับบ้าน ลั๊นลาสุดละ 555

Saturday, July 24, 2010

พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ Museum Siam

24 กรกฎาคม 2553 วันนี้ไม่ต้องไปเรียนว่ายน้ำอีก 1 วัน ไปเที่ยวกันดีกว่า ไปที่แปลกๆ เหมือนคราวก่อน คราวนี้ไป "พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้" หรือ มิวเซียม สยาม อยู่ตรงท่าเตียน ใกล้ๆ กับสถานีตำรวจพระราชวัง และโรงเรียนราชินี

ตึกนี้เป็นตึกกระทรวงพาณิชย์เก่า ที่ดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ นิทรรศการถาวรเป็นเรื่อง "เรียงความประเทศไทย" แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาก่อนที่จะเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ คนไทยคือใคร มาจากไหน อะไรคือ "ไทยแท้" อันนี้รูปถ่ายหลังตึก
ในสนามหลังตึกมีเรืออยู่หลายลำตั้งไว้ ส่งผู้ชายไปพายเรือหนึ่งคน
เข้าไปชมนิทรรศการกัน ห้องแรก แนะนำตัวละครหลักๆ ที่จะเป็นผู้อรรถาธิบายเรื่องราวในแต่ละห้อง ดูแล้วหลายคนคงสับสนว่าห้องนี้ต้องการสื่ออะไรกันแน่ อี๊บีออกอาการสับสน โดนผีหลอกไป 555

เดินออกจากห้องแรก ก็มาเจอห้องนี้ ตั้งคำถามไว้ว่า ไทยแท้คืออะไร ยังไงถึงเรียกว่าไทยแท้ เห็นคนขับตุ๊กตุ๊กมะ ซ่อนอยู่มิดชิดมาก
เดินต่อกันไปชั้น 3 ก่อนขึ้นบันได เจอเจ้านี่...."คนกบแดง หรือรูปคนทำท่าเป็นกบ เป็นตราสัญลักษณ์ของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เพราะว่ากบเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่เคารพบูชาทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละ) เห็นได้จากลวดลายบนกลองมโหระทึกที่เป็นเครื่องมือใช้ประโรมตีในพิธีกรรมขอฝน"
เลียนแบบคนกบแดง ยังไม่ได้ถือไอโฟน...
นิทรรศการก็ไล่เรียงให้ความรู้มาตั้งแต่ "สุวรรณภูมิ" รากเหง้าของประเทศไทย "พุทธิปัญญา" ศาสนาที่เผยแผ่เข้ามาในดินแดนแห่งนี้ "ก่อกำเนิดสยามประเทศ" แว่นแคว้นต่างๆ ที่ก่อร่างขึ้นมาในดินแดนแถบนี้ "สยามประเทศ" พูดถึงกรุงศรีอยุธยา ความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านการค้า การเกษตร การเดินทางแลกเปลี่ยนสินค้า วัฒนธรรม และความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ในรูปนี่คือรูปเรือจำลอง ด้านหน้าเป็นเรือสำเภา ด้านหลังคือเรือเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส
นอกจากนี้ที่ชั้น 3 ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการรบระหว่างรัฐต่างๆ ในดินแดนแถบนี้ มีเรื่องราวเกี่ยวกับพิชัยสงคราม การจัดทัพสู้ศึก มีปืนใหญ่หน้าตาเหมือนจริงให้เล็งยิงกองทัพฝ่ายตรงข้ามด้วย (ใครอินมากคงสะใจมาก) แสดงถึงเครื่องอาวุธ การแต่งกายของทหาร พวกเสื้อยันต์ เขน เกราะ ลูกปืนใหญ่ขนาดต่างๆ ด้วย

คนกบน้ำเงิน จอมเลียนแบบ
ต่อมาชั้น 2 ก็เป็นเรื่องราวของกรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ ที่ช่วงแรกเป็นการจำลองกรุงศรีอยุธยาขึ้นมาใหม่ และวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาจนถึงยุคสมัยที่อารยธรรมตะวันตกแผ่ขยายเข้ามา เรื่อยมาอีกจนถึงยุคปัจจุบัน

ธีร์กับตู้ไปรษณีย์ตู้แรกของประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5
อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว "เป็นหนังสือพิมพ์ที่ออกบ้างไม่ออกบ้าง ตามบุญตามกรรม" เหมือนบล๊อกเรา อัพบ้างไม่อัพบ้างตามบุญตามกรรม
หลังจากส่วนนี้ก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนจากสยามมาเป็นประเทศไทย เรื่องการเมือง การสื่อสารที่เดินผ่านไปไม่ได้อ่านอะไรมากนัก เพราะผู้ประกาศคณะปฏิวัติฯ ประกาศกร้าว...เราจะไปบอลโลก!?!
ยุค 60's โก๋หลังวังกะน้า (จะบอกป้าก็ใช่ที่)
บาร์เทนเดอร์กับคุณลูกค้าหน้าตาคุ้นๆ
ก่อนจบนิทรรศการ มีส่วนให้แสดงความคิดเห็น ธีร์ตั้งใจเต็มที่
ส่งข้อความขึ้นจอว่า.....
ก่อนจะไปกินข้าว ไปวิ่งวนรอบสนามกับ "พี่แว่น" ของธีร์ซักหน่อย

Tuesday, July 20, 2010

วันเกิดกง

วันเกิดของกงปีนี้ตรงกับวันอังคาร พวกเราไปฉลองวันเกิดให้กงเรียบร้อยตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงวันเกิดของกง เป็นอันรู้กันว่าพวกเราจะต้องเสนอหน้ามาถ่ายรูปหมู่ประจำปีไว้เป็นที่ระทึก (ดูพัฒนาการของธีร์ หรือใครๆ 555) ม่าคาดหวังเอาไว้สู๊งงงงง ว่ารูปหมู่ปีนี้จะออกมางามเลิศถึงขนาดเอาไปอัดขยายประดับฝาบ้านได้กะเค้าบ้าง...

อี๊บีมีภารกิจต้องกลับคอนโดฯ ไปเตรียมตัวทำงานวันจันทร์ ไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง ปีนี้จากที่ถ่ายรูปกับตอนเย็นย่ำค่ำมืด เราก็เปลี่ยนไปถ่ายกันแต่สาย สงสัยพระอาทิตย์จะส่องแสงมากไปหน่อย หน้าส้มใสกันไปโหม้ดดดด
สุขสันต์วันเกิดคร้าบกง ขอให้กงมีสุขภาพแข็งแรง ธีร์คนๆๆๆๆๆ ส่วนผสมได้เป็นบราวนี่ถ้วยในมือส่งมอบให้เป็นที่เรียบร้อย แต่ทำไมอยู่ในมือม่าน้อ....

Monday, July 19, 2010

หม่าม้ารู้ได้ไง

19 กรกฎาคม 2553 ระหว่างทางกลับบ้าน หลังจากโรงเรียนเลิก รถติดไฟแดงอยู่ก่อนถึงทางเข้าองค์พระปฐมเจดีย์ มีป้ายงานวันอาสาฬหบูชาติดไว้

หม่าม้า: ธีร์ อาทิตย์นี้เรียนเรื่องอะไรครับ
ธีร์: เรื่องวันอาสาหะบูชาครับ
หม่าม้า: วัน "อา-สา-ละ-หะ-บู-ชา" ครับลูก เป็นวันแรกที่มีพระสงฆ์ในโลก
ธีร์: ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าบวช
หม่าม้า: ใช่ครับ พระอัญญาโกณฑัญญะไงครับ เค้าฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจนเข้าใจแจ่มแจ้ง เลยขอบวชเป็นพระสงฆ์ครับ
ธีร์: โห...หม่าม้ารู้ได้ไง ธีร์เพิ่งเรียนวันนี้เองนะ....

p(-_- ')q

Sunday, July 18, 2010

นิทรรศรัตนโกสินทร์

18 กรกฎาคม 2553 วันนี้เราไปเที่ยวที่แปลกๆ กันมา

สืบเนื่องมาจากอี๊ปุ๊ (เพื่อนของอี๊บี) ได้ส่งบรรณาการมาเป็นบัตรเข้าชม "นิทรรศรัตนโกสินทร์" (Rattanakosin Exhibition Hall) มาให้หม่าม้า 2 ใบ หลังจากที่หม่าม้าไปเยี่ยมคอมเมนท์ลิงก์ใน fb ของอี๊ปุ๊ไว้ว่าที่นี่น่าพาธีร์ไปดู...วันนี้ได้โอกาสเหมาะ อี๊บี ป๊า หม่าม้า แล้วก็ธีร์เลยไปเที่ยวที่นี่กัน

นิทรรศรัตนโกสินทร์ตั้งอยู่ข้างๆ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง มีที่จอดรถสะดวกสบาย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมไปดูที่ลิงก์นี้

ด้านล่างเป็นรูปถ่ายที่ได้มาจากไอโฟนของเรา 3 คน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าที่นี่เจ๋งดี ไม่ค่อยได้อ่าน หรือดูอะไรละเอียดมากนัก อยู่ในโหมดสับสน ทุกอย่างผ่านไปอย่างคร่าวๆ ถ้ามีเวลาคิดว่าจะไปใหม่ ไปใช้เวลาอ่านโน่นอ่านนี่ให้เต็มที่ สนุกดีเหมือนกัน

รูปนี้เป็นพระบรมมหาราชวังจำลอง นี่คือส่วนของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แค่ส่วนของพระบรมมหาราชวังจำลองนี่ก็อลังการงานสร้างมากๆ ในแผ่นพับบอกว่าเป็นหุ่นจำลองพระบรมมหาราชวังที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
มุมกว้างขึ้นมาอีกหน่อย
มีเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปกรรมในพระบรมมหาราชวัง พระแก้วมรกต แล้วก็มียักษ์จำลองซะด้วย
นี่เป็นรูปในส่วนของพระราชฐานส่วนในที่สมัยก่อนมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่เข้าไปได้ เสียดายไม่มีกลิ่น แต่ได้อารมณ์แม่พลอยจากสี่แผ่นดินขึ้นมานิดๆ เพิ่งเคยได้เห็นเครื่องอัดจีบสไบของจริง...อันที่เป็นแผ่นๆ ด้านหน้าที่มีผ้าเขียวๆ อยู่น่ะ
ส่วนด้านในสุด คิดว่าเป็นเครื่องอัดผ้า แล้วถัดมากลมๆ ก็ตะลุ่มใส่ผ้ามั้ง
มีหุ่นขี้ผึ้งจำลองงานของนางใน งานแกะสลัก งานดอกไม้ ฟ้อนรำ ฯลฯ
ห้องถัดมาเป็นเรื่องราวกับมหรสพแล้วก็การละเล่นต่างๆ นานาในสมัยรัตนโกสินทร์
รูปนี้เป็นท่ารำที่มาจากตำราแม่บทของจริง (ปัจจุบันตำราแม่บทถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ)
หุ่นนี่จำไม่ได้แล้วว่าหุ่นอะไร แต่เป็นของจริง แล้วก็เหลือแค่ตัวเดียวในประเทศไทย
นี่เป็นหุ่นละครเล็กกระมัง เห็นมั้ยว่าไม่ค่อยได้ดูอะไรละเอียดเท่าไหร่ ไปดูแบบงงๆ
อันนี้ก็เจ๋ง ธีร์กลายไปเป็นตัวละครในอะนิเมชั่นท่องเที่ยวทั่วกรุงด้วย
รูปนี้ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ เห็นว่ามันเป็นป้ายที่ตลกดี...
เดินดูนิทรรศการมาหลายห้องแล้ว ก่อนจะไปดู 2 ห้องสุดท้ายก็มีจุดชมวิว และชิมการแฟไว้บริการ ห้องที่จัดไว้ให้ชมวิวนี่ก็เจ๋งมากๆ ได้เห็นภูเขาทอง แล้วก็โลหะปราสาทในมุมที่ใกล้ชิด ไม่มีอะไรมาขวางกั้นให้เกะกะสายตา

รูปนี้เป็นพระสยามเทวาธิราชขนาดเท่าองค์จริง (สูง 8 นิ้ว)
อีกห้องนึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชพิธีต่างๆ ช้างตัวนี้หม่าม้าดูแล้วงงมากถึงขนาดถามเจ้าหน้าที่ว่า "อันนี้เป็นช้างสตัฟฟ์รึเปล่าคะ" ได้รับคำตอบว่า เป็นหุ่นจำลองค่าาาา
เดินดูกันจนทั่ว แต่ไม่ค่อยแจ่มแจ้ง ก็จบสิ้นการเยี่ยมชมของเราแต่เพียงเท่านั้น บอกธีร์ไปถ่ายรูปกับเลขบอกชั้น....ธีร์เลขที่ 2 ไง ไปถ่ายรูปกับเลข 2 เร็ว
ถ่ายรูปเสร็จ ธีร์ก็ดำเนินการ attack อี๊บี

เดินกันไกลหลายชั้น กินกาแฟกันคนละแก้วก็แล้ว เราก็ยังมิวายลงมาชิม coffee beans by dao ซะหน่อยว่าอร่อยสมคำร่ำลือมั้ย สาขานี้คนน้อย เค้ก อาหารมีให้เลือกมากพอสมควร ไม่ได้อลังการงานสร้าง ครบถ้วน แต่รสชาติก็น่าประทับใจนะ...คอมเฟิร์มโดยธีร์ที่กินบลูเบอร์รี่ และชีส จนหมดไปจากชีสเค้ก และลาซานย่าผักโขม
จบข่าวการเล่าเรื่องราวในวันนี้ด้วยรูปครอบครัว นานๆ จะมีกับเค้าซักที โชว์มัน 2 รูปเลยวุ้ย 555
เพิ่มเติม: กลับมาอ่านอีกทีเห็นว่าพลาดไปหลายส่วน เพิ่มข้อมูลซักกะหน่อย

เรื่องนิทรรศรัตนโกสินทร์ จะบอกว่าทำได้ดีมาก ข้อมูลมีทั้งไทย-อังกฤษ มีบริการให้เช่าหูฟังแปลภาษา (ม่ายช่ายยยย) หูฟังที่มีบรรยายภาษาอังกฤษ ผู้ชมชาวต่างชาติก็เดินเสียบหูฟัง เปิดไปฟังตามเบอร์ที่ระบุไว้ตามห้อง ก็จะได้รับข้อมูลประมาณเดียวกัน ส่วนการแสดงนิทรรศการมีลูกเล่นเจ๋งๆ หลายอย่าง แสง สี ขาดกลิ่นไปซักหน่อย ถ้ามีล่ะก็ไปตอนโพล้เพล้คงได้มีวังเวงใจกันบ้าน

ส่วนของธีร์ ช่วงนี้ธีร์ชอบพูดเลียนแบบ เลยโดนแกล้งให้พูดตามด้วยประโยคอย่างเช่น "ทหารถือปืนแบกปูนไปโบกตึก" "ชามเขียวคว่ำเช้า ชามขาวคว่ำค่ำ" ระหว่างนั่งกินคอฟฟี่บีนกันอยู่ ธีร์ก็พูดประโยค "ทหารถือปืนแบกปูนไปโบกตึก" พูดได้ถูกต้องไม่มั่ว แล้วก็บอกว่า "ด่านนี้ผ่านได้แล้ว" สงสัยจะเล่นเกมส์มากไป แต่ไหงฟังไปฟังมาธีร์พูดว่า "ทหารถือปืนแบกปูนไป 'บุก' ตึก" ซะงั้นก็ไม่รู้ 555