Friday, February 27, 2009

จำไม่ได้ว่า...ตกเตียง

วันไหนซักวันในอาทิตย์นี้นี่แหละ ดึกดื่นท้องฟ้ามืดมิด ธีร์นอนกลิ้ง โวยวายตามประสาธีร์...เป็นปกติ 

มีเสียงนุ่มๆ ของป๊าบอกธีร์ว่า "นอนดีๆ สิลูก" หรือไม่ก็ "ธีร์หยุดซะที" สลับกับเสียงหงุดหงิดง่วงนอนของหม่าม้า "ธีร์นอนซักที จะกลิ้งไปกลิ้งมาทำไมเนี่ย"...เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ สุดท้ายการดิ้นรนของธีร์ เสียงโวยวาย ละเมอเพ้อพกของธีร์ก็จบลง ธีร์นอนทับอยู่บนตัวหม่าม้า ส่วนหม่าม้านั้นหรือ...ก็ง่วงมากเกินกว่าจะผลักไสธีร์ออกไป หลับกันไปอย่างงี้ก็แล้วกัน...

ซักเวลาหลังจากนั้น...ธีร์พลิกตัว หม่าม้าผู้หลับสนิทขยับมือไม่ทันสมอง...ตุ้บ...แง๊ แง๊...ไอ้ (เคย) อ้วน ตกลงไปกองอยู่ที่พื้นข้างเตียง เดชะบุญที่ตรงนั้นไม่ใช่พื้นไม้ หม่าม้ามีแผ่นโฟมแผ่นใหญ่ๆ วางรองไว้ให้ธีร์นั่งเล่น

เสียงป๊าลอยมาว่า เธอก็ไม่ต้องผลักมันอย่างงั้นก็ได้...ไม่ได้ผลัก (โว้ย) ธีร์นอนทับเค้าอยู่แล้วกลิ้งตกลงไปเอง 

ว่าแล้วก็ขยับร่างลงไปโอบอุ้มลูกน้อยขึ้นมาโอ๋ๆ ไม่เป็นไร เจ็บหัวเหรอลูก ไม่ต้องร้องๆ นอนเหอะ เดี๋ยวก็หาย...

เช้าวันต่อมา เมื่อคืนใครตกเตียงเอ่ย...เงียบ หัวยังเจ็บอยู่รึเปล่า เงียบ...คุยโน่นคุยนี่ ก็รู้เรื่องนี่นา สมองยังไม่บุบสลาย สรุปได้ว่า จำไม่ได๊ จำไม่ได้ว่าตัวเองตกเตียง แต่ที่แน่ๆ ธีร์ครับ หม่าม้าบอกธีร์ไว้แล้วนะครับ ห้ามมานอนทับบนตัวหม่าม้าอีก เดี๋ยวตกเตียง ช่วยไม่ได้นะเออ

ป.ล. ไม่ต้องสงสาร หรือพยายามปลอบโยนธีร์นะครับ เพราะธีร์จำไม่ได้ มันผ่านมาหลายวันแล้ว และธีร์ก็โอเค ไม่ได้เจ็บอะไรตรงไหนแล้วครับ

จบข่าว

Monday, February 23, 2009

โครงการไข่....มหัศจรรย์

วันศุกร์ที่ผ่านมา ห้องเรียนของธีร์มีนิทรรศการเล็กๆ เรื่อง "โครงการไข่มหัศจรรย์" ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมแบบ project approach เรียน-สอนในเรื่องที่เด็กสนใจอยากเรียนรู้จริงๆ (ฟังดูดีมาก...) เด็กๆ ห้องธีร์ลงคะแนนเลือกเรื่องที่ตัวเองสนใจมากที่สุด ซึ่งก็คือเรื่อง "ไข่" นี่เอง

ตอนบ่ายวันศุกร์ ไปถึงโรงเรียนธีร์ ห้องเรียนต่า่งๆ ก็มีนิทรรศการเรื่องต่างๆ กัน มีเรื่องไข่ มะพร้าว มะม่วง แล้วก็อะไรอีกเรื่อง หม่าม้าจำไม่ได้แล้ว...มีการตกแต่งห้องเรียนให้เข้ากับหัวเรื่องด้วย

ห้องเรียนธีร์ พอเข้าไปก็จะมีสาวน้อยพริตตี้คอยทักทายผู้ปกครองเข้าสู่ "โครงการไข่มหัศจรรย์" แจกโบรชัวร์ และมอบของที่ระลึกให้....ซึ่งทั้งหมดนี้มาตามคำเตือนของคุณครู มาเป็นระยะๆ ด้วยความวุ่นวายตามประสาเด็กเล็กๆ แต่ก็เป็นความพยายามที่น่ารักดี (เห็นอะไรมันสะกดผิดก็เมินๆ มันไปบ้างเนาะ)
3 อาทิตย์ที่ผ่านมา คุณครูก็สอนเรื่องไข่หลายๆ อย่าง เช่นว่า มีอาหารหรือขนมอะไรบ้างที่ทำจากไข่ ไข่จม-ไข่ลอยเป็นไง มีการดองไข่เค็ม มีงานศิลปะจากครอบครัว (ซึ่งไม่มีผลงานจากครอบครัวเรา....เพราะเราไม่เห็นรู้เรื่องว่าต้องทำ แล้วทำไมเราถึงไม่รู้....ก็ไม่รู้เหมือนกัน....หลายไม่รู้จริงๆ) แล้วก็มีงานศิลปะของเด็กๆ ที่ทำกันที่โรงเรียน เช่นการขดเชือกเป็นรูปไข่ วาดรูป ระบายสี ทำกรอบรูปด้วยเปลือกไข่ ฯลฯ
นี่เป็นรูปเจ้าของกับผลงานศิลเปรอะ หม่าม้าเลือกมาเฉพาะรูปของธีร์เนื่องจากของคนอื่นสวยงาม ไม่เละเทะ กลัวการเปรียบเทียบแล้วธีร์จะเสียใจ 555
ของที่ระลึกเป็นรูปไข่ในรังทำจากแป้งปั้น (จะดูกันออกมั้ยเนี่ย) ดูหน้าตาแล้วน่าจะเป็นผลงานของเด็กๆ เอง โดยคุณครูนำไปทำแพคเกจจิ้งให้ 

ในโบรชัวร์ คุณครูให้รายละเอียดว่าผลที่ปรากฎแก่เด็กก็คือ ด้านร่างกาย จะมีการพัฒนากล้ามเนื้อ เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะ ด้านจิตใจและสังคม  เด็กๆ ก็จะสนุกสนานในการทำกิจกรรม รู้จักการมีน้ำใจ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักทำงานเป็นกลุ่ม ฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตาม ส่วนด้านสติปัญญา เด็กๆ ก็จะรู้จักการสนทนา ถามคำถาม แสดงความคิดเห็น ใช้ภาษาสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจ 

อ่านแล้วทีแรกหม่าม้าก็คิดว่า จริงเร้อ...เด็กเล็กๆ ตัวแค่นี้เนี่ยนะ...ทำกิจกรรมแล้วได้ผลแบบนี้เลยเหรอ...แต่ฝคิดอีกที อย่างน้อยๆ นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ดีนะ...ซึ่งอาจจะส่งผลในระยะยาววววววว ก็ได้ ใครจะไปรู้ 555

วันเสาร์ที่ผ่านมา ธีร์ไปหาคุณหมอฟันเป็นครั้งแรก หม่าม้าตั้งใจว่าจะให้คุณหมอตรวจฟัน แล้วถ้าเป็นไปได้อาจจะเคลือบฟลูออไรด์กัน

ผลปรากฎว่า ทำแค่ให้คุณหมอดูฟันอย่างรวดเร็ว เพราะธีร์แหกปากด้วยความตกใจปนหวาดกลัว คุณหมอแนะนำให้เปลี่ยนกลับมากินนมจืด (หลังจากที่ต้องไปกินนมน้ำผึ้ง ไมโล โอวัลตินอยู่นาน...คนใจดีในบ้านเราเยอะ และของหวานมักจะอร่อยกว่าเสมอ 555) กินยาคูลท์ได้ แต่ไม่ควรกินนมเปรี้ยวกล่องๆ เพราะน้ำตาลเยอะ นมน้อยมาก ไม่เหมาะๆ เพราะนอกจากจะทำให้ฟันผุแล้ว ยังทำให้ธีร์เป็นเด็กงอแง หงุดหงิดง่าย เพราะระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงบ่อย ขนม ทอฟฟี่ ของหวานต่างๆ ควรให้กินเป็นเวลา และแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหารโดยผู้ใหญ่เป็นคนทำให้ คุณหมอว่าเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบยังคงต้องให้ผู้ใหญ่ดูแลฟันให้ ถ้าดูแลฟันได้ดี การเคลือบฟลูออไรด์อาจจะไม่จำเป็น....อีก 3 เดือนมาดูฟันกันใหม่

อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรตื่นเต้น ธีร์ไม่งอแง ดื้อรั้นเท่าอาทิตย์ก่อน สงสัยเป็นผลจากการลดน้ำตาล และวิธีการควบคุมอารมณ์ขั้นสูงของหม่าม้า 555

คราวนี้มาแนวจริงจังซะมาก อากาศมันร้อนอ่ะ ขำไม่ค่อยออก หุ หุ หุ (แก้ตัวไปได้เนาะ)

Thursday, February 19, 2009

ทิวลิป...แดง

วันจันทร์-พุธที่ผ่านมา โรงเรียนธีร์หยุด 3 วัน คุณครูขอลาพักไม่อยากดูแลเด็กๆ หลายวันหน่อย จดหมายที่ส่งมากับกระเป๋านักเรียนบอกว่าคุณครูจะไปสัมมนาดูงานหลายวัน...(จริงๆ แล้วคุณครูลาพักกันทั้งโรงเรียน เหนื่อยใจกับธีร์ 555)

เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ธีร์ดื้อมากกว่าปกติอีกเท่าตัว วันเสาร์ม่ามีนัดกับเพื่อนไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่วันวาเลนไทน์ อี๊บี หม่าม้า แล้วก็ธีร์ก็ออกไปรอรับม่ากลับบ้านที่เซ็นทรัลเวิร์ลดกัน

ระหว่ารอม่า เราก็ไปเดินที่อาณาจักรของเล่นเด็กกัน หม่าม้าน่ะไม่อยากจะพาธีร์เข้าไปเล้ย เพราะรู้ว่าเราจะต้องมีการเสียเลือดเนื้อและน้ำตาเป็นแน่แท้ ซึ่งก็จริง ธีร์ร่ำร้องจะซื้อ "สไปเดอร์มังกี้ส์" ซึ่งเป็นหุ่นรุ่นใหม่ของเบนเทน ตอนหยิบมาได้จากดงเบนเทน (ต้องใช้คำว่า "ดง" เพราะมันเยอะเหลือคณา) ธีร์ก็พร่ำเพ้อพรรณาว่า นี่เป็นตัวใหม่ ถ้าได้ตัวนี้แล้วธีร์ก็จะมีสัตว์ประหลาดเบนเทนครบเซทใหม่แล้ว ธีร์สนใจเบนเทนมากเลยนะ และไม่สนใจของเล่นอย่างอื่นอีกเลย เด็กคนอื่นๆ เห็นธีร์หยิบของเล่น ดูนาฬิกาที่ข้อมือของธีร์แล้วก็ร้องเฮ้ยกันหลายราย แล้ววิ่งกลับไปหาแม่...สงสัยจะบอกว่าไอ้ตัวเล็กนั่นมันยังมีเลยแม่ ซื้อให้บ้างเซ่...

ถึงทางออก หม่าม้าทำหน้าที่ยักษ์ ไม่อนุญาตให้ซื้อของเล่นใหม่ เนื่องจากธีร์ได้หุ่นสัตว์ประหลาดนี่ไป 6 ตัวแล้วภายในเวลาไม่ถึง 2 อาทิตย์ อี๊บีซื้อให้ 4 ตัว กงซื้ออีก 2 ซึ่งแน่นอน มีการร่ำร้องเสียน้ำตากันที่หน้าทางออก (พนักงานเค้าคงชินแล้วแหละ คงเป็นแบบนี้กันเยอะ 555) เล่าให้ป๊าฟัง ป๊ามีการบอกให้ซื้อแล้วเก็บไว้ก่อน ไว้ค่อยให้ธีร์วันเกิด หรือจะซื้อให้เลยก็ได้ เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์....เอากันเข้าไป

ก่อนจะกลับ หม่าม้าไปเข้าห้องน้ำ ธีร์ถือโอกาสวิ่งนำอี๊บีมุ่งหน้ากลับไปซื้อของที่อยากได้มาก แต่ก็โดนหม่าม้าสกัดดาวรุ่งได้เพียงเสี้ยวนาที พร้อมกับแผลเจาะ ผลจากการตกบันไดเลื่อนของหม่าม้า และน้ำตาร่วงผลอยของธีร์...หม่าม้าเดาว่าพอถึงวันเกิดธีร์ เจ้าตุ๊กตาที่ว่านี่พร้อมกับผองเพื่อนคงดาหน้ากันมาปรนเปรอธีร์เป็นแน่แท้...

วันอาทิตย์ กงไปอ่านเจอในเน็ตว่าแถวแจ้งวัฒนะมีงานสวนทิวลิปนนท์ เราก็เลยแวะไปดูกันหน่อย ต่อแถวกันยาวนาน ปรากฏว่าทิวลิปที่ว่าปลูกอยู่ในเต้นท์ควบคุมอุณหภูมิ มีทิวลิปอยู่ประมาณหนึ่ง (แค่ข้างหลังกงในรูปนั่นแหละ) ถ่ายรูปกันมานิดหน่อย

prop ของงานพรั่งพร้อมมากๆ มีทั้งกังหัน รองเท้าไม้ขนาดยักษ์ สมเป็นงานทิวลิปจริงๆ
ขากลับ เราแวะกินข้าวที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ให้ธีร์ได้กินอาหารที่แท้จริง นอกเหนือไปจากการกินขนม ของหวานเป็นอาหารหลักมาหลายมื้อ

ป๊าใจดี ปล่อยให้ธีร์ดำรงชีพอยู่ที่บ้านสายสี่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากอาทิตย์นี้หม่าม้าดุร้ายมากกว่าปกติ (ปกติก็ดุร้ายมากแล้ว มากกว่าปกตินี่น่ากลัวกว่าเดิมหลายเท่านัก) ทำให้ธีร์ตกอยู่ในภาวะหวาดหวั่น หันไปรักกะป๊าจี๋จ๋ามากขึ้น

เย็นวันพุธ อารมณ์ไหนไม่แน่ใจ ป๊าขับรถพา ม่า ธีร์ หม่าม้า แล้วก็ตัวเองไปกินข้าวนอกบ้านกัน ระหว่างทางป๊าก็พูดว่าไกลจัง ตอนแรกนึกว่าใกล้ๆ แป๊บเดียวก็ถึง 555 จากบ้านหนองดินแดง ขับรถไปไม่ถึงชั่วโมง เราก็ถึงร้านแดงอาหารทะเล ร้านที่ป๊าตั้งใจอย่างยิ่งที่จะไปกิน...ข้าวผัดกุ้ง

เนื่องจากเป็นวันธรรมดา คนน้อยเลยล่ะ สั่งอาหารไปแล้ว ธีร์ก็จัดแจงเช็ดจาน ช้อน ส้อม รอกิน...

สั่งอาหารมา 5 อย่าง ผัดผัก ปูเนื้อนึ่ง กุ้งอบเกลือ ข้าวผัดกุ้ง และปลาจาระเม็ดต้มบ๊วย (อย่างหลังนี่ไม่ปรากฏในภาพ แต่ขนาดอย่างยักษ์) พออาหารมาครบ...ผู้ใหญ่อย่างเราแทบจะล้มตึง...เยอะชะมัด จะกินกันหมดมั้ยเนี่ย
ส่วนธีร์คราวนี้มาผิดฟอร์ม ปกติคุณผู้ชายจะชอบกินเนื้อปู คราวนี้ธีร์ปฏิเสธการกินปูอย่างแข็งขัน หันไปคบกับกุ้งแทน ดูรูปซีรีส์การกินกุ้งของธีร์ได้ หน้าตาเค้าหลายอารมณ์มาก 555หน้าตาดีใจ กินตัวกุ้ง กินหางกุ้ง สรุปแล้วกินตั้งนาน กินกุ้งไป 1 ตัว อย่างอื่น ไม่เอาครับหม่าม้า กินกันเสร็จสรรพ เร็วกว่าขับรถจากบ้านมาถึงร้านอีก 555 อิ่มแล้วก็กลับบ้านได้

ก่อนนอน อ่านหนังสือกันก่อน จะอ่านเรื่องไหนดีครับ...อ่านเรื่องนั้นครับหม่าม้า เรื่องที่มีหมาตั้งชันอยู่....ศัพท์แสงคุณผู้ชายใช่ย่อย หม่าม้าฟังแล้วขำกิ๊ก นี่ไงครับ หนังสือเล่มที่ธีร์อ่านก่อนนอน...
วันนี้ไปส่งธีร์ที่โรงเรียน ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นรถ คุณครูบอกว่า "คุณแม่คะ รอบัตรเชิญก่อนค่ะ" แล้วคุณครูก็หยิบบัตรเชิญมาให้...บอกว่าพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนจะมีนิทรรศการ "โครงการไข่" ของเด็กๆ ไว้ไปถ่ายรูปมาโชว์ว่า 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ธีร์เรียนเรื่องไข่ ได้อะไรมาบ้าง

Thursday, February 12, 2009

นกฟลามิงโก้

ตอนเช้าทุกๆ วัน ระหว่างขับรถไปส่งธีร์ไปโรงเรียน ธีร์มักจะบอกหม่าม้าว่าธีร์อยากเล่นเกมส์ เกมส์อะไร...เกมส์สัตว์ เกมอะไรเอ่ย ถือว่าเป็นการสนทนาเล็กๆ น้อยๆ หันเหความสนใจของธีร์จากการคร่ำครวญ "ธีร์ไม่ไปโรงเรียนครับหม่าม้า"

หม่าม้าก็ทายโน่นนี่ไปเรื่อยตามแต่จะคิดออก สัตว์อะไรออกลูกเป็นตัว สัตว์อะไรออกลูกเป็นไข่ สัตว์อะไรกินหญ้าเป็นอาหาร สัตว์อะไรบินได้ สัตว์อะไรตัวสีน้ำตาล ฯลฯ ตามแต่จะนึกออก

เช้าวันนี้ระหว่างทางไปโรงเรียน อยู่ดีๆ เราก็คุยกันดังนี้
ธีร์: หม่าม้าครับ บ้านเราเลี้ยงสัตว์อะไร
หม่าม้า: บ้านที่หนองดินแดงไม่ได้เลี้ยงอะไรครับ มีปลาหน้าบ้านนิดหน่อย ที่บ้านสายสี่เราเลี้ยงหมากับปลาทองไงครับ
ธีร์: ธีร์อยากเลี้ยงอีกครับ
หม่าม้า: ธีร์อยากเลี้ยงอีก หมายถึงธีร์อยากเลี้ยงสัตว์เพิ่มน่ะเหรอครับ
ธีร์: ใช่ครับ
หม่าม้า: แล้วธีร์อยากเลี้ยงตัวอะไรล่ะครับ
ธีร์: นกฟลามิงโกครับ
หม่าม้า: อะไรนะครับ นกฟลามิงโก้ ทำไมธีร์ถึงอยากเลี้ยงนกฟลามิงโกล่ะครับ
ธีร์: ธีร์ก็อยากให้มันรอธีร์อยู่หน้าห้อง พอธีร์เลิกเรียนตอนบ่ายแล้วธีร์ก็ขี่มันกลับบ้าน
หม่าม้า: อ้าว แล้วถ้าหม่าม้าไปรับธีร์ หม่าม้าไม่เจอธีร์หม่าม้าก็ตกใจสิครับ
ธีร์: ธีร์ก็รอหม่าม้า แล้วก็ให้มัน (นกฟลามิงโก้) นั่งข้างๆ คาร์ซีทของธีร์
หม่าม้า: แล้วถ้ามันตัวโตแล้วล่ะ จะนั่งรถพอเหรอครับ
ธีร์: ธีร์ก็ไม่เลี้ยงมัน ธีร์จะเลี้ยงแต่ตัวขนาดกลางเท่านั้น 
หม่าม้า: แล้วธีร์จะเอาอะไรเลี้ยงมันล่ะครับ
ธีร์: เราก็ให้มันกินหนอน (คอนเซปต์ นกกินหนอนเป็นอาหาร)
หม่าม้า: เราเลี้ยงตัวปลอมๆ ได้มั้ยครับ ที่หม่าม้าเคยเห็นนกฟลามิงโก้นี่อยู่ในหนังสือ ทีวีแล้วก็สวนสัตว์เท่านั้นครับ มันไม่ใช่สัตว์ที่มีอยู่ทั่วไปนะครับธีร์
ธีร์: ไม่เอาครับ ธีร์จะเลี้ยงตัวจริงๆ 
หม่าม้า: ครับ ถ้างั้นไว้เราถามป๊า ถามม่า แปะ อึ้ม กะเฮียปรานต์ก่อนนะครับว่าเลี้ยงได้มั้ย ถ้าทุกคนตกลงเราค่อยเลี้ยงนะครับ

พอกลับมาถึงบ้าน ถามเฮียปรานต์ เฮียปรานต์บอกว่า เฮียปรานต์อยากเลี้ยงนกเพนกวินครับ....อืมมม คนละนกสองนก

วันนี้โรงเรียนเป้าหมายของเราประกาศผลแล้ว สรุปว่าธีร์ไม่ได้....ด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่คนตอบจะสรรหามา (ตอบ/ปลอบ) เรา ด้านหนึ่ง หม่าม้าก็โล่งใจว่าในที่สุด เราก็ได้ข้อสรุปกันซักทีหลังจากรีรอ วุ่นวายกันมานานเป็นเดือนๆ  อีกด้านหนึ่งเราก็ผิดหวังเล็กๆ เพราะถ้าด้วยเหตุผลที่เค้าว่ามา บอกกันมาตั้งแต่แรกๆ เลย บอกกันชัดๆ ซะตั้งแต่ต้น เราก็ไม่ต้องวุ่นวายกันแบบที่ผ่านมา สรุปแล้ว ช่างมันเหอะครับ...ยังไงปีนี้ธีร์ก็ไม่ได้เรียนชั้นอนุบาล 1 ที่ไหน ปีหน้าค่อยคิดกันใหม่ว่าจะเอายังไง

มาถึงข่าวใหม่...เปิดเทอมใหม่นี้ ธีร์จะไปเป็นนักเรียนชั้นเตรียมอนุบาล ที่โรงเรียนอนุบาลนครปฐม โครงการ 2 ภาษา 

เราเลือกทางนี้ มีเหตุผลหลักๆ อยู่ 2 ข้อ
1. ที่ราชภัฎฯ ไม่มีอนุบาล 1 ที่เรียนอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นกึ่งๆ เนอร์สเซอรี่ ยังไงปีหน้าก็ต้องหาโรงเรียนเรียนกันอยู่ดี 
2. โรงเรียนอนุบาลนครปฐมมีชั้นอนุบาล-ป.6 ถ้าธีร์ไปได้ดีกับ preschool เราก็เรียนต่ออนุบาล 1 ที่อนุบาลนครปฐมได้ ไม่ต้องมาเครียดเรื่องโรงเรียนกันอีกในปีหน้า และถ้าไม่โอเค เราก็ยังไปสมัครเรียนที่สาธิตศิลปากรปีหน้าได้ หรือถ้าสาธิตศิลปากรเปิดชั้น ป.1 2 ภาษาในอนาคต ธีร์ก็อาจจะย้ายไปเรียนป.1 ที่โรงเรียนเดียวกับเฮียปรานต์ได้

เริ่มเรียนซัมเมอร์ 26 มีนาคม เรียนแค่ครึ่งวันถึง 26 เมษายน เปิดเทอมจริงๆ 18 พฤษภาคม ระหว่างนี้หม่าม้าก็ต้องไปเตรียมหาชุดนักเรียน ฝึกตื่นแต่เช้า...คุณครูบอกว่าควรไปถึงโรงเรียนตั้งแต่ 07.30น. หรือเช้ากว่านั้น เพราะว่าแถวนั้นจะไม่มีที่จอดรถ หรือมีก็หายากมากๆ แต่หม่าม้าไม่อยากจะบอกเล้ยยยย ทุกวันนี้เราตื่นกันมาก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงครึ่งแล้ว สงสัยเราจะมีชื่อติดบอร์ดกันตั้งแต่เตรียมอนุบาลซะแล้ว...บอร์ดคนมาสาย 555

ป.ล. หม่าม้าเล่าเรื่องโรงเรียนซะละเอียดยิบ มาคิดๆ ดู สงสัยจะเป็นความเครียดสะสม หาทางระบาย 555 แต่ก็ป๊ากะหม่าม้าก็ปลอบใจกันเองว่า ที่ผ่านมาเราทำกันดีที่สุดแล้ว (เท่าที่เราจะทำได้ และควรทำ) ช่างมันเหอะ คิดอะไรกันมากมายเนาะ ผ่านไปแล้ว 

Wednesday, February 11, 2009

ทฤษฎี vs ปฏิบัติ

เสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันที่น่าเศร้าอีกวันนึงของธีร์ 

วันเสาร์อาทิตย์ก่อนโน้น ป๊ากะหม่าม้าก็ (หนี/ทิ้ง) ธีร์ไว้กะอาม่าสายสี่ ไปดูคอนเสิร์ตกัน 2 คน ประมาณว่าได้บัตรฟรี ไปดูซะหน่อย ส่วนอี๊บีก็ติดภารกิจทำงานทาส เอ้ย! ทำงาน (ไม่มีคำว่าทาส เผลอไป แหะ แหะ) ธีร์ก็อยู่บ้านเล่นกะม่า และโกวโกว 3 คน 

เสาร์ที่ผ่านมา อี๊บีคู่หูวันหยุดทำงาน (อีกแล้ว) ส่วนหม่าม้าก็ต้องไปงานศพ กู๋คิมกะกงรึก็ไม่เคยอยู่เล่นกะธีร์หรอก ธีร์ก็อยู่กะม่า และโกวโกวตามเดิม...หม่าม้ากลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม ได้รับคำบอกเล่าว่า ตอนเย็นๆ อยู่กัน 3 คน ธีร์ก็บ่นๆ ว่าธีร์จะกลับบ้าน ม่าก็บอกว่าอยู่บ้านแล้วจะไปไหนอีกล่ะ ธีร์บอกม่าว่า ธีร์จะกลับบ้านหนองดินแดงละ ป๊าไม่มารับธีร์ซักที อยู่นี่ไม่เห็นมีใครอยู่เล่นด้วยเลย...หึ หึ หึ ไงล่ะ น้อยใจจะหนีกลับบ้านหนองดินแดงซะแล้ว

วันอาทิตย์ ป๊ามาแต่หัววันเพราะมีนัดจะไปกินข้าวกันวันเกิดเหล่ากง ป๊ามานั่งซักพัก ธีร์ก็โวยวายขึ้นมาว่า "ธีร์ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ป๊ามารับธีร์กลับบ้านแล้วอ่ะ ธีร์ไม่กลับบ้าน..."

นอกจากจะไม่มีใครเล่นด้วย (ยัง) ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ความน่าเศร้าอีกอย่างของธีร์ก็คือ เป็นแผลในปาก ดูๆ แล้วเหมือนว่าธีร์จะพลาดไปกัดปากตัวเองเป็นแผล ทำให้กินอะไรไม่ได้ เจ็บไปหมด เดินไปซื้อยามาทาแล้วก็ไม่รอด ไม่ชอบยาที่ได้มา ต้องกินน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ไอติม และอาหารชิ้นเล็กๆ ประทังชีวิตไป

วันนั้น ตอนแรกม่ากะว่ากินข้าวกับเหล่ากงเสร็จจะไปเที่ยววัดเล่งเน่ยยี่ 2 ที่บางบัวทองกัน แต่พอไปใกล้ๆ ถึงวัดเห็นปริมาณรถที่มุ่งหน้าไปวัดแล้ว ทุกคนในรถถึงกับถอดใจ ให้ม่าโทรไปยกเลิกนัดกับเหล่าอี๊ และเหล่ากู๋โดยด่วน เราไม่สามารถฝ่าฝูงชนเข้าไปในวัดได้แน่ แล้วอี๊บีก็ขับรถมุ่งหน้าต่อไป....ไปไหนก็ไม่รู้ ขับรถไปขับรถมา ในที่สุด เราก็ไปเที่ยวที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะกัน...เหอ เหอ เหอ ไปกันทางไหนอย่าถามเนื่องจากเรามั่วมั่นมาก....เดินชมห้างใหม่ กินไอติม ช้อปปิ้งซุปเปอร์มาร์เก็ตกันแล้ว เราก็มุ่งหน้ากลับบ้านสายสี่กัน 

ระหว่างทางธีร์ปวดท้องต้องการทำธุระหนัก อี๊บีแวะปั๊มให้....ธีร์เห็นห้องน้ำแล้วก็บ่นว่า พื้นเปียก แถมยังเป็นห้องน้ำแบบที่ไม่คุ้นเคย ธีร์เลยไม่ยอมปลดปล่อย....ขึ้นรถมา ม่ากะอี๊บีก็ถามว่าเรียบร้อยมั้ย แล้วก็ตอบกันเองเสร็จสรรพแบบรู้จักคุณชายดีว่า คงไม่ยอมแน่ ขับรถกันไปอีกซักพัก คุณผู้ชายเกิดปวดท้องขึ้นมาอีก...คราวนี้หม่าม้า อี๊บี และม่าช่วยกันคิดว่าจะเป็นที่ไหนดี หม่าม้าเสนอว่าไปแวะโรงพยาบาลมั้ย...แห้ง สะอาดตามสไตล์คุณหนูแน่ ธีร์ออกความเห็นว่า "เดี๋ยวคนไข้ก็เหม็นกันทั้งโรงพยาบาลหรอก"....ในที่สุด แจ็คพอตก็ออกที่บุญถาวร ทีนี้ไม่กลัวคนช้อปปิ้งเค้าเหม็น ชิ ธีร์นี่

วันจันทร์ หม่าม้าเห็นว่าปล่อยทิ้งไว้ธีร์คงผอมแน่ พาธีร์ไปหาคุณหมอ คุณหมอดูแผลในปาก ดูมือ และตรวจตับไตไส้พุงจนแน่ใจว่าไม่ได้เป็นโรคปากเท้าเปื่อยแน่ เลยจ่ายยาฆ่าเชื้อและยาชารสเฮลส์บลูบอยมา ตอนแรกๆ ธีร์ไม่ยอมหยอดยาชา แต่พอได้ลิ้มรสไปแล้ว อร่อยแฮะ หลังๆ เริ่มจะหยอดเอง...นี่ถ้าห้ามไม่ทันธีร์คงกรอกไปทั้งขวดแน่...

วันอังคาร ถามธีร์ว่าปากยังเจ็บมั้ย ธีร์ว่าไม่เจ็บแล้วครับม้า...ยาคุณลุงหมอนี่ยอดไปเลย....เอ่อ ธีร์ครับ อะไรจะหายไวกันขนาดนั้น แต่หายก็ดีแล้วครับ

ตกบ่าย หม่าม้าไปรับธีร์กลับจากโรงเรียน ให้ธีร์ร่ำลาคุณครูเรียบร้อยก็เดินพากันไปขึ้นรถ ขึ้นรถไป อ้าว! ธีร์ฉี่ราดเล็กน้อยซะแล้ว เราเลยต้องเดินกลับไปที่ห้องเรียนให้ธีร์จัดการทำธุระให้เสร็จสรรพ ระหว่างที่คุณครูพาธีร์ไปห้องน้ำ คุณครูอีกคนก็คุยกะหม่าม้า คุณครูบอกหม่าม้าว่า ธีร์เนี่ยรู้ไปหมดเลยนะคะ อะไรๆ ก็รู้ ทฤษฎีนี่ได้หมด เสียอยู่อย่างเดียวปฏิบัติไม่ได้...น่าเสียดาย ฟังแล้วหม่าม้าก็งงๆ สงสัยว่า เอ...นี่คุณครูเค้าชมธีร์รึเปล่าหว่า

ถือซะว่าชมก็แล้วกันเนาะ...คิดมากก็เครียด แค่นี้ชีวิตหม่าม้าก็เครียดพอแล้ว เมื่อไหร่โรงเรียนจะประกาศผลสอบบบบบบบบบบบบ

Wednesday, February 04, 2009

มันยอดมากเลยใช่มั้ยครับหม่าม้า

วันนี้เราไม่มีรูป มีแต่เรื่องประทับใจเป็นการส่วนตัวของหม่าม้า เอามาเขียนไว้ก่อนที่จะลืมๆ ไป

พฤหัสฯ ที่แล้ว หม่าม้าไปรับธีร์กลับจากโรงเรียน ระหว่างทางเราก็คุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ อยู่ดีๆ ก็มีบทสนทนาแบบนี้

ธีร์: หม่าม้าครับ หม่าม้ากันแมลงสาปรึเปล่า
หม่าม้า: กันแมลงสาป กันยังไงเหรอครับธีร์
ธีร์: ก็เอาไอ้ขวดๆ นั่นฉีดไงครับ
หม่าม้า: ขวดๆ ไหนครับ ธีร์เห็นที่ไหนเหรอครับ
ธีร์: ขวดๆ ในโฆษณาไงครับ มันยอดมากเลยใช่มั้ยครับหม่าม้า
หม่าม้า หัวเราะ 555 ขำ: หม่าม้าว่าธีร์ยอดมากกว่าครับ

วันเสาร์ ธีร์ไปสอบเข้าชั้น preschool มา (ฟังดูน่าเศร้า เข้า preschool ยังต้องสอบอีกเหรอ ชีวิต...) ไปลองสอบดูเพราะโรงเรียนเป้าหมายที่อยากให้เรียนจะสอบวันจันทร์ วันเสาร์ก็เลยพาไปลองสอบดูก่อน โรงเรียนที่พาไปสอบเมื่อวันเสาร์เป็นโรงเรียนอนุบาล 2 ภาษา (ไทย-อังกฤษ บ่ใช่ไทย-กะภาษาอื่น) 

ก่อนไปสอบ ธีร์ถามว่าหม่าม้าไปด้วยรึเปล่า ได้รับคำตอบว่าไปด้วย พอไปถึงโรงเรียน ก็มีผู้ปกครองพาเด็กมาสอบกันหลายคน นั่งรอกันอยู่ ธีร์ได้คิวที่ 9 ระหว่างรอ ธีร์ก็พยายามจะไปเดินเล่น แต่การสอบมันรวดเร็วมากๆ ป๊าเลยบอกว่าอย่าไปไหนไกล...ถึงเวลาที่จะต้องเข้าห้องสอบ คุณครูให้เด็กเข้าไปคนเดียว ธีร์เกิดหวาดหวั่นขึ้นมา ไม่ยอมเข้า หม่าม้าต้องไปส่ง แต่คุณครูก็ไม่ยอมให้อยู่ด้วย หม่าม้าเลยเห็นข้อสอบ ว่าเป็นข้อสอบโยงเส้นจับคู่รูปที่เหมือนกัน 555

ก่อนจะสอบได้ คุณครูก็ต้องอุ้มธีร์ไปปลอบอยู่พักนึง แล้วก็บอกว่าพอทำเสร็จแล้วจะให้ออกมาหาหม่าม้าที่นั่งรออยู่หน้าห้อง แป๊บเดียวเท่านั้น ธีร์ก็ออกมา หม่าม้าถามคุณครูว่าทำรึเปล่าคะ คุณครูพยักหน้าว่าทำ....แต่ไม่ได้บอกว่าทำได้รึเปล่า 555

สอบเสร็จ เราก็รอตรวจร่างกาย ธีร์ไม่ยอมเข้าไปโดยลำพัง หม่าม้าก็เลยต้องเข้าไปด้วยพร้อมกับวิตามินซีอีกถุงนึง...คุณหมอถามอะไรก็ไม่ตอบ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย จนหม่าม้าต้องใช้วิธีแมวน้ำ...ธีร์ตอบคำถามแล้วจะได้วิตามินซี...ตรวจเสร็จ ลิ้นส้มไปหมด คุณครูบอกว่าวันเสาร์ที่ 7 ให้ไปมอบตัวซะโดยดี....(สอบไปงั้นๆ ไม่ซีเรียส)

ออกจากโรงเรียน ขับรถไปบ้านสายสี่ ป๊ากับหม่าม้าก็เดินทางด้วยความกังวล...เวรกรรม! แล้ววันจันทร์ธีร์จะยอมพูด ยอมทำ และยอมตอบคำถามคุณครูรึเปล่าหว่า....ธีร์ได้รับการติดสินบนไปด้วยนมเม็ด 1 ซอง ถ้าวันจันทร์ยอมทำทุกอย่าง  ม่าเพิ่มสินบนเป็นทอฟฟี่เปรี้ยวๆ สุดโปรดของธีร์ (เมนทอสรสเปรี้ยวจี๊ด) ส่วนสินบนของอี๊บีเป็นตุ๊กตามนุษย์ไฟในเบน10....ธีร์ทำตาลุกวาวกับสินบนของอี๊บี

คืนวันอาทิตย์ ธีร์เข้านอนแต่หัวค่ำ (สามทุ่ม...หัวค่ำตรงไหนฟระ...แต่เร็วกว่าปกติ นอนดึกแต่เล็กแต่น้อย 555) เพื่อที่ว่าตื่นมาตอนเช้าจะได้สดใส 

เช้าวันจันทร์ ธีร์ยังดูง่วงๆ แต่ก็โอเค ไม่ได้งอแงโวยวายเท่าปกติ อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว เช็คให้แน่ใจว่าหม่าม้าไปโรงเรียนกับธีร์ด้วยแน่ๆ ได้รับคำตอบว่าถ้าคุณครูให้เข้าไปด้วยก็จะไป แต่ถ้าไม่ให้ หม่าม้าจะรออยู่หน้าห้อง คุยกับคุณครูเสร็จแล้วจะเจอกัน ไม่ต้องห่วง ไม่หนีหายไปไหนแน่

ไปถึงโรงเรียน ได้บัตรคิวเบอร์ 7 ไปนั่งเล่นของเล่นรออยู่หน้าห้องสอบด้วยความระทึกขวัญของหม่าม้าและป๊า 

เบอร์ 7 ค่า....ผู้ปกครองเข้าได้แค่คนเดียวนะคะ...หม่าม้าได้รับสิทธิ์นั้นจากป๊าแต่โดยดี ธีร์เข้าไปนั่งสอบ มีคุณครู 2 คน พี่นักศึกษา 1 คน พอไปถึง คุณครูก็เริ่มถามคำถามธีร์ และคุณครูอีกคนก็ให้หม่าม้ากรอกเอกสารพร้อมกับอธิบายให้ชัดเจนแต่เนิ่นๆ ว่า โรงเรียนเรา เด็กอนุบาล 2 จะยังอ่านไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้นะคะ กรุณากรอกเอกสารด้วยว่า...ใครเป็นคนรับ-ส่งลูก ค่าเรียนเทอมละเท่านี้ๆ จ่ายได้มั้ย มีปัญหารึเปล่า เลี้ยงลูกยังไง การพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาเป็นยังไง คาดหวังอะไรบ้างกับการเรียนการสอนของโรงเรียน เซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานด้วย

เนื่องจากข้อสอบของหม่าม้าค่อนข้างยาก...ตรูจะตอบไงดีฟระ ก็เลยละเลยการมองธีร์ไปบ้าง ตอนแรกๆ คุณครูก็ถามชื่อ ธีร์ก็ตอบเสียงเบาๆ คุณครูชวนเล่นอะไรบ้างจำไม่ได้แม่น มีให้นับลูกแก้ว บอกเอา 5 ลูก ธีร์ก็หยิบออกมาทีละลูก คุณครูบอกให้นับด้วย ก็หยิบออกมาแล้ว หลายลูกก็เลยไปเริ่มนับ 1 ที่ลูกที่ 3 สรุป 5 ลูกของธีร์ หยิบออกมาเป็น 10 

ให้วาดวงกลม ธีร์ก็วงกลมยุ่งๆ วาดสี่เหลี่ยมธีร์ก็วาดไม่ได้ ตัดกระดาษตามเส้น...cannot ตัดได้นิดหน่อยขยุกขยุย ไหนลองใส่เสื้อ ใส่กางเกงเองซิ...ทำไม่ได้หรอกครับ 

อ่ะ นี่บล๊อกหยอด เอาสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ครึ่งวงกลม วงกลมหยอดลงไปซิ ธีร์ก็หยอดๆ ไป พอถึงอันที่หยอดไม่ลง ธีร์ก็เปิดฝากล่องออกแล้วก็โยนรูปทรงอันที่หยอดไม่ลง ใส่ลงกล่องไปซะงั้น 555

แต่เรื่องถามว่าสัตว์ในหนังสือเป็นตัวอะไร สีอะไร เดินไต่เส้น รับลูกบอล ทำตามคำสั่งซิ วิ่งไปนั่งรอที่เก้าอี้ เอ้า...เดินกลับมา กล่องไหนหนัก กล่องไหนเบา เอากล่องหนักไปซ่อนใต้โต๊ะ กล่องเบาให้หม่าม้า ดูรูปลูกบอลแล้วบอกซิ ลูกไหนขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ธีร์สามารถ...

แต่ที่หม่าม้าประทับใจที่สุด...คุณครูเอารูปไข่ ลูกเจี๊ยบ และไก่ออกมา ถามธีร์ว่าไหนเรียงซิ อะไรเกิดก่อนอะไร...ลองคิดกันก่อน ถ้าเป็นตัวเราจะเรียงยังไง

ที่ธีร์เรียงก็คือ ลูกเจี๊ยบ โตมาเป็นแม่ไก่ แม่ไก่ออกไข่ พอคุณครูถามต่อมาว่าแล้วจากไข่จะกลายเป็นอะไร ธีร์ก็เรียงไข่มาไว้หน้าลูกเจี๊ยบ...อันนี้น่าสนใจ

คุณครูถามโน่นถามนี่ซักพักใหญ่ก็บอกว่าเสร็จแล้ว หม่าม้าเลยถามคุณครูว่าอย่างงี้ผ่านมั้ยคะ 555 คุณครูตอบว่า ก็เท่าที่คุณแม่เห็น บางอย่างที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กยังทำไม่ได้ดี เพราะอายุยังน้อยเกินไป....คุณครูตอบมาแค่นี้ หม่าม้าก็ไม่แน่ใจว่าผ่านรึเปล่า แต่เท่าที่เห็นก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง 

ออกจากห้องสอบมา ป๊าถามว่าทำไมธีร์วุ่นวายอยู่คนเดียว วิ่งไปโน่น วิ่งมานี่ คนอื่นเค้าไม่เห็นต้องวิ่งไปวิ่งมาเลย...ได้รับคำตอบจากหม่าม้าว่า ธีร์ทำตามคำสั่งของครูครับป๊า

หลังสอบ ป๊าอนุญาตให้ธีร์นอนดูการ์ตูนอยู่บ้านได้ 1 วัน เพราะเครียดมาพอแล้ว (หมายถึงใครเครียดหว่า) แล้วเราก็ต้องร้องเพลง รอ ร๊อ รอกันต่อไปว่าในที่สุดแล้ว ธีร์จะสอบเข้าโรงเรียนอนุบาลเป้าหมายได้รึเปล่า กว่าจะรู้ผลก็คงราวๆ กลางอาทิตย์หน้านี่แหละ ก็ต้องช่วยกันภาวนา สาธุๆ เข้าได้ด้วยเถ๊อะ หม่าม้าเหนื๊อยเหนื่อย ลุ้นมากๆ

ชีวิตอันแสนเศร้า...เดี๋ยวนี้เข้าอนุบาลมันต้องสอบแข่งขันกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย....