Friday, September 26, 2008

ช่วยด้วยยยย

เมื่อวานนี้ ป๊า หม่าม้า และธีร์ ไปกินข้าวเที่ยงที่เซ็นทรัลกันก่อนที่จะมาบ้านสายสี่...

กินข้าวเสร็จแล้ว ป๊าก็พาธีร์ไปห้องน้ำชิ้งฉ่อง เพราะหลังๆ มานี่ ตอนกลางวันธีร์ก็เลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แล้วก็พยายามหัดให้บอกตอนปวดฉี่แล้วพาไปห้องน้ำซะ ธีร์ก็บอกได้บ้างไม่ได้บ้าง บางทีก็มีกะปริดกะปรอยออกมาเล็กน้อยก่อนจะบอก

แต่ที่แน่ๆ ธีร์สามารถบอกตอนปวดอึได้แล้ว ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้บอกออกมาเป็นภาษาพูด จะแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า ท่าเดินกระมิดกระเมี้ยน บิดๆ มา (ซึ่งทุกครั้งจะบอกหม่าม้าคนเดียว) กระซิบกันเบาๆ ว่าปวดอึ๊....

ป๊าพาธีร์ไปห้องน้ำเสร็จ กลับมาหาหม่าม้าที่กำลังกินข้าวเที่ยงของตัวเองอยู่ กินผลไม้อยู่ซักพัก ธีร์ก็บิดตัวไปมา กระดุ๊กกระดิ๊ก กระซิบกระซาบมาว่าปวดอึ...หม่าม้าได้รับเกียรติพาธีร์ไปห้องน้ำ ป๊าพาไปมักจะไม่ได้ผลที่ดี (แหวะ) 

หลังจากธีร์ทำธุระในห้องน้ำเสร็จแล้ว หม่าม้าก็บอกให้ธีร์รอซักครู่ อย่าเพิ่งเปิดประตูออกไป ธีร์เชื่อฟังโดยดี แต่มือก็แตะที่กลอนประตูอยู่เป็นระยะ...และระหว่างรอ ธีร์คงว่างเกินไป ธีร์ก็ตะโกนออกมาว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย ชั้นอยู่ในนี้ มีใครอยู่ข้างนอกมั้ยยยย" !!!!!!

ผลน่ะเหรอ...หม่าม้ารีบพาธีร์ออกจากห้องน้ำโดยไวก่อนที่จะมีใครโผล่มาช่วยธีร์ในห้องน้ำนั่นแหละ...เฮ้อออ! รอดมาได้หวุดหวิด

นอกจากนี้ ธีร์ยังมีทักษะในการดัดแปลงคำพูดให้เป็นของตัวเองอย่างเหมาะสมกับเวลา และสถานการณ์เป็นอย่างยิ่ง ล่าสุด หม่าม้ากะป๊าคุยกัน เรื่องอะไรจำไม่ได้แน่ ป๊าก็บอกหม่าม้าว่า "ทุเรศว่ะ" ธีร์ได้ยินก็หันมาหาหม่าม้าแล้วก็บอกว่า "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้ทุเรศ"...ขอบใจมากลูก!

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ พูด เด็กๆ มักจะได้ยินและนำมาใช้บ้างเหมือนกัน อีกกรณีที่เห็นได้ชัดก็คือ ธีร์ไปรื้อกล่องของเล่นเปล่าๆ ออกมา คุ้ยๆ แคะๆ พยายามแกะกล่องออกมาดูว่าข้างในมีอะไร ระหว่างแกะ ธีร์ก็พูดว่า "แกะยังไงวะ"....หม่าม้าร้องเจี๊๊ยกกกก ในใจ และบอกธีร์ว่า "แกะยังไงนะ" ธีร์พูดผิด...แต่ระดับธีร์แล้ว คงรู้แหละว่าไม่ได้พูดผิดซักกะหน่อย แต่ทำเงียบๆ เอาใจหม่าม้าไปก่อนก็แล้วกัน

Wednesday, September 17, 2008

ไปหาหมอ

สงสัยว่าเรตติ้งเราจะตก ผ่านไปวันกว่าๆ ไม่มีใครมาคอมเมนท์เรื่องคราวก่อนของเราเลยอ่ะ...เศร้า

อาทิตย์ก่อนธีร์ไปฉีดวัคซีน (อายุครบ 30 เดือน หรือ 2 ขวบครึ่ง) คุณหมอถามว่าธีร์ทำอะไรได้เพิ่มมากขึ้นบ้าง...หม่าม้าตอบไม่ค่อยจะได้ เพราะไม่ค่อยได้สนใจ เอ้ย! เพราะอยู่ด้วยกันทุกวัน ทำอะไรๆ ซ้ำๆ เลยไม่รู้สึกว่าธีร์จะทำอะไรได้มากขึ้น 555

ธีร์ชอบปีนป่าย และดื้อ พยายามต่อต้านคำสั่งอยู่ตลอดเวลา (และคิดว่ามากกว่าเด็กทั่วไปอยู่หลายขุมนัก) สามารถพูดได้แบบ non-stop พูดได้ค่อนข้างชัด ยกเว้นคำที่มี ย.ยักษ์ ธีร์จะพูดเป็น ล.ลิง ซะงั้น เช่น ภูผา "ไหล่" กว้าง เป็นต้น

คุณหมอขอตรวจร่างกายทั่วๆ ไป พอจับพุงธีร์ คุณหมอก็บอกว่าพุงแห้ง มีเม็ดๆ ขึ้น ให้หม่าม้าทาครีมให้ธีร์ด้วย เพราะธีร์จะคัน

กลับบ้าน หม่าม้าเชื่อฟังคุณหมอสุดฤทธิ์ หลังอาบน้ำทาเบบี้ออยล์ให้ธีร์ และบอกให้ม่าทำด้วยเช่นกัน...เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นเห็นผล พุงธีร์เป็นผื่นขึ้นมาทะลักทะลาย เราก็เลยเลิกทาพุงธีร์ด้วยเบบี้ออยล์ และหวังว่าการทาคาลาไมด์จะช่วยเราได้ ปรากฎว่าเวลาผ่านไปหลายวัน ธีร์ก็ยังคงคันพุงอย่างต่อเนื่อง

ในที่สุด หม่าม้าก็ทนไม่ไหว พาธีร์ไปหาคุณหมอที่คลินิกเด็กมหาสนุก แค่ชื่อก็กินขาดแล้วใช่ไหมเล่า...ตอนไปถึงทีแรก ธีร์ยังคงงอแงและง่วงมากอยู่ ไม่มีแรงจะทำอะไร ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ให้ขี่ตุ๊กตาควาย ตุ๊กตาม้า ก็ขี่ไปงั้นๆ ประมาณว่าเดี๋ยวป๊ากะหม่าม้าที่คะยั้นคะยอจะเสียใจ

รอหมออยู่นาน...นานจนจำไม่ได้ว่านานแค่ไหน ต่อมสนุกสนานของธีร์ก็ตื่นขึ้นมา ไปปีนโน่น ตะกายนี่ เล่นของเล่นในคลินิก (ที่มีอยู่มากจริงๆ มากกว่าที่โรงเรียนอนุบาลเป้าหมายของเราซะอีก) อย่าเมามัน ไม่ยอมกลับบ้าน ไม่ว่าจะหลอกล่อยังไง ธีร์ก็ไม่ยอม รูปธีร์เล่นของเล่นป๊าถ่ายมาอยู่หลายรูป รอป๊าเอามาใส่ก็แล้วกัน

เนื่องจากหม่าม้าขึ้นชื่อว่าเป็นมารแม่ของธีร์ หม่าม้าก็บัญชาการให้ป๊าจัดการลักพาตัวธีร์ออกจากคลินิกสำเร็จ (ต้องบัญชาการเนื่องจากช่วงนี้หม่าม้าเจ็บตัวอยู่หลายแห่ง ไม่มีเรี่ยวแรงต่อสู้กับธีร์) ธีร์ออกจากคลินิกด้วยน้ำตานองหน้า แต่ไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ที่โดนฉีดยาร้องไห้กลับบ้าน ธีร์ร้องไห้ไม่ยอมกลับบ้าน อยากจะอยู่ที่คลินิกซะงั้น (จนถึงวันนี้ธีร์ก็ยังคงร่ำร้องให้พาไปหาคุณหมออีก...)
แต่ในที่สุดธีร์ก็ยิ้มออกจนได้เพราะเจอเจ้าสิ่งนี้....ที่โลตัสบ้านโป่ง
ดูหน้านักชอปปิ้งหนุ่มน้อยซะก่อนว่าสนุกสนานขนาดไหน...แล้วอย่าไปจับรถเข็นของเค้าเชียวนา เค้าจะปัดมือแปลกปลอมออกโดนทันใดพร้อมกับคำสั่งว่า "ไม่ต้องจับ ธีร์เข็นเอง" การช้อปปิ้งของธีร์มีประสิทธิภาพมาก หม่าม้าหยิบให้ธีร์ ธีร์วางในรถเข็น จนป๊าบอกว่าเราทำงานเป็นทีมดีมาก เราเลือกซื้อของจนเต็มรถเข็นคันเล็กของธีร์แล้วป๊าก็ทำงานเป็นทีมกับเราด้วยเหมือนกันโดยการเป็นผู้จ่ายเงินค่าของในรถเข็น เย้ เย้ เย้ (ไม่ค่อยดีใจจนออกนอกหน้าเท่าไหร่นัก)

จบการไปหาหมอและช้อปปิ้งของธีร์แต่เพียงเท่านี้คร้าบ

Monday, September 15, 2008

หล่อ(ที่สุด)

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา กง ม่า อี๊บี กู๋คิม หม่าม้า และธีร์ไปเที่ยวบอง มาร์เช่กันมาครับ 

ตลาดนี้เป็นตลาดไฮโซอยู่แถวๆ วัดเสมียนนารี บ้านเราอยู่แถวๆ นั้น (มากๆ เลย) แวะไปดูซะหน่อยว่ามีอะไรอร่อยบ้าง ประชาชน ณ บ้านสายสี่เป็นพวกเห็นวัดแล้ว เอิ่มมม ไหว้อยู่ข้างหน้าก็ได้คนเยอะ แต่ถ้าพูดถึงตลาด มีของกินล่ะก็ ถึงไหนถึงกัน เราบ่ยั่น ไปมันทุกตลาด จะนัดหรือไม่นัดเราก็จะไป 555

ไปถึงตลาด โอ้แม่เจ้า รถรอเข้าไปจอดแถวยาวเฟื้อย หม่าม้าับัญชาการให้หาที่จอดรถฝั่งตรงข้ามแล้วเดินข้ามถนนไปกันเถิด พอเข้าไปในตลาดก็เห็นว่าตลาดนี้ไม่เหมือนตลาดบกๆ แถวบ้านเรา ทางเดินก็สะอาดสะอ้าน มีสวน มีบ่อน้ำ มีฝั่งช้อปปิ้งมอลล์ มีฝั่งฟู้ดคอร์ท และตลาดขายของสดของแห้ง ช่างมีการจัดการอย่างเป็นระบบเสียนี่กระไร 

เนื่องจากแต่ละคนหิวโซหัวโตกันมาแต่บ้านสายสี่ (ที่อยู่แถวๆ นั้นนั่นแหละ) ทุกคนเลยมุ่งหน้าไปหาของกินกันก่อน หม่าม้าไปสอยข้าวห่อใบบัวที่เห็นรีวิวในห้องก้นครัวมานานว่าอร่อยนักอร่อยหนามากิน 1 จาน (กินแล้วก็รู้สึกว่างั้นๆ หรือว่าลิ้นเราไม่ถึงหว่า) ส่วนคนอื่นๆ ก็กินกันอย่างเต็มรูปแบบ ธีร์ก็แอบจิ๊กของคนโน้นนิดคนนี้หน่อยมาบำรุงกำลัง 

ระหว่างที่เรากำลังโซ้ยกันอย่างมูมมาม เอ้ย! อย่างอร่อย ก็มีกลุ่มคนใส่เสื้อสีฟ้าพุ่งตรงเข้ามาในบริเวณฟู้ดคอร์ท ไม่มีเวลาได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้น ใครซักคนในโต๊ะเราก็บอกว่าคุณอภิรักษ์มาหาเสียง....ระหว่างที่เค้าแวะทักทายขอคะแนนเสียงโต๊ะอื่นๆ อยู่ เราก็นัดแนะกันว่า อย่าไปบอกเค้านะว่าเราทุกคนเนี่ย บ้านนอก...ไม่ได้เป็นคนกรุงเทพซักคน เดี๋ยวเค้าไม่แวะ 555

นั่งกินกันอีกซักเดี๋ยว คุณอภิรักษ์ก็เดินมาบอกว่า ฝากเบอร์ 5 ด้วยนะครับ พร้อมกับแจกแผ่นกระดาษขนาดนามบัตรที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือจิ๋วหลิวบอกนโยบาย ฯลฯ คนที่มาด้วยบางคนก็ทำตัวเป็นมิตร ทักว่าอร่อยกันเนาะ เค้าเริ่มหาเสียงตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยังไม่ได้กินข้าวเลย หิ๊ว หิว...หม่าม้าก็ยิ้ม พร้อมกับความคิดอันชั่วร้ายในใจ...ไม่ได้เสียมารยาทพูดออกมา กลัวโดนรุมยำทรีน

หลังจากที่คุณอภิรักษ์เดินจากไปโต๊ะอื่น ธีร์ก็ถามว่าเค้าคือใคร (เค้าเบอร์ 5 แล้ว) ธีร์เบอร์อะไรอ่ะ หม่าม้าพยายามอธิบายแต่ธีร์คงไม่เข้าใจนัก อี๊บีบอกธีร์ว่า เค้าเคยเป็นเจ้านายหม่าม้าสมัยที่ยังทำงานที่ออเร้นจ์อยู่ (เอ่อ...เรื่องสมัยพระเจ้าเหามั่กๆ) หลังจากอธิบายกันซักครู่ม่าก็เริ่มรำลึกได้ว่า เราควรพาธีร์ไปถ่ายรูปกับคุณอภิรักษ์เพื่อนำมาลงบล๊อกซักกะหน่อย ทุกคนไม่มีใคร move กับไอเดียบรรเจิดของม่าเลย ในที่สุด ม่าก็จัดแจงอุ้มธีร์เดินเข้าไปหาคุณอภิรักษ์และขอถ่ายรูปหมู่มาได้แบบข้างบนนี่แหละ...หม่าม้าไม่ค่อยแน่ใจว่าม่าเอาธีร์มาเป็นข้ออ้างในการขอเข้าไปถ่ายรูปกับคุณอภิรักษ์รึเปล่า 555

ถ่ายรูปเสร็จม่าการกลับมาที่โต๊ะ เราก็มีมุขเด็ดประจำวัน...หล่อเล็กถ่ายรูปกับหล่อจิ๋ว....ขนาดน้านนนน

อี๊บีบอกกับผองเราว่า นี่ไงมาเที่ยวบอง มาร์เช่ได้เจออภิรักษ์...ถ้าไปอตก. เราจะเจอใคร๊...อะจึ๋ยส์ส์ส์

หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็เดินย่อยกันซักครู่ ระหว่างนั้นก็มีกลุ่มหาเสียงของคุณประพัฒน์ จงสงวนมาหาเสียงป๊ะกันกับพลพรรคสีฟ้า...ตลาดนี้นี่เป็นที่นิยมจริงๆ เลยนะเนี่ยยยยยย 

Friday, September 05, 2008

หม่าม้าจะ...ด้วยไหมล่ะ

ธีร์มีคอนเซปต์ในชีวิตว่า เพื่อนเล่นของธีร์ก็คือหม่าม้านี่แหละ ดังนั้นเวลาธีร์จะทำอะไร อะไร อะไร (สำนวนเค้าแหละ) ธีร์ก็จะต้องให้หม่าม้าทำด้วย

หลายวันก่อนเราอ่านหนังสือเรื่อง "แบ่งกันได้นะแพนด้า" พูดถึงแพนด้าที่เป็นลูกคนเดียว จะไปโรงเรียน เรียนรู้เรื่องการแบ่งปันกัน หน้าแรกหนังสือบอกว่า "แพนด้าเป็นเด็กตัวเล็กๆ ชอบเล่นอยู่บ้านคนเดียว" อ่านจบ ธีร์ก็ถามว่า "หม่าม้าเค้าไปไหนล่ะ ทำไมเค้าถึงเล่นคนเดียว ไม่เล่นกะหม่าม้าเค้า....มิวายที่หม่าม้าจะอธิบายว่าเค้าเป็นลูกคนเดียวเหมือนธีร์นี่แหละ เค้าก็เลยต้องเล่นคนเดียว ธีร์ก็ยังคงยืนยันคำถามเดิมว่า "ทำไมเค้าไม่เล่นกะหม่าม้าเค้าล่ะ"

เมื่อวานนี้ธีร์กำลังทำกิจกรรมส่ายก้นเข้าจังหวะกับป๋องแป๋งและอีกอันมันเรียกอะไรล่ะเนี่ย (หม่าม้าถามทั่วบ้านแล้วไม่มีใครรู้เลยว่ามันเรียกว่าอะไร...ของเล่นบอกเชื้อชาติมากว่าธีร์เป็นกุมารจีน หุ หุ หุ) ธีร์ถือป๋องแป๋งแดนซ์แล้วก็บอกหม่าม้าว่า "หม่าม้าเอาอันนี้" จากนั้นก็สั่งต่อไปว่า "หม่าม้าลุกขึ้น" โอเคลูก แล้วหม่าม้าก็นั่งยองๆ ธีร์ก็บอกว่า "หม่าม้าลุกยาวๆ" (แปลว่ายืนขึ้น) พอหม่าม้ายืน ธีร์ก็ส่ายก้นเข้าจังหวะของตัวเองต่อไปแล้วก็หันมาถามหม่าม้าว่า "หม่าม้าอยากเต้นกับธีร์เหรอ" แน่นอน คำตอบของหม่าม้าคือ "ไม่ครับ หม่าม้าไม่อยากเต้น" แต่ดูเหมือนธีร์จะไม่ได้ยินแฮะ ธีร์บอกหม่าม้าอีกว่า "หม่าม้าอยากเต้นเจ๋งแจ๋วกับธีร์เหรอ" (เจ๋งแจ๋วก็คือเพลงตอนจบของรายการมิคกี้เมาส์คลับเฮาส์เวอร์ชั่นภาษาไทย) และนี่คือประกาศิต ถ้าหม่าม้าไม่ยอมลุกขึ้นมาเต้น หม่าม้าก็จะได้ฟังประโยคนั้นซ้ำๆ ไปจนกว่าจะยอม....มีความมุ่งมั่นมากนอกจากนี้ ความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของธีร์ก็คือ การเล่นเป็นหมา ความสามารถพิเศษนี้พัฒนาไปถึงขั้นเห่าและทำหน้าดุได้เหมือนหมามาก เราไม่ได้เห่าเป็นหมาตัวเล็กตัวน้อยนะเออ เราเห่าเป็นหมาดุตัวใหญ่ (ฟังจากเสียง อย่าดูขนาดตัว) ชอบเล่นเป็นหมามากขนาดยอมให้ล่ามไว้ที่ประตูพร้อมกับป๊อกกี้ด้วย...หาป๊อกกี้ไม่เจอล่ะสิ
ป๊อกกี้อยู่ข้างๆ ธีร์กระโดดย๊อกแย๊กไม่อยู่นิ่ง ถ่ายรูปยากชะมัด ทั้งสองรายนี้ถูกล่ามไว้ที่ประตูเกือบ 20 นาที ไม่รู้ใครทนกว่ากันนะเนี่ย ก่อนจะมาเป็นลักษณะนี้ก็อีหรอบเดิม ธีร์พูดหลังจากสะพายกระเป๋าหมาไว้ด้านหลังว่า "ทำไมหม่าม้าจูงหมาล่ะ" แน่นอน หม่าม้าก็ต้องตอบตามความเป็นจริงว่า "หม่าม้าไม่ได้จูงหมาครับ หม่าม้าไม่จูง" ธีร์ก็จะพูดใหม่อีกทีว่า "หม่าม้าจูงหมา" สรุปว่าประโยคคำถามอันแรกนี่แหละ คือประโยคคำสั่ง....เวลลลล์

เมื่อคืนวานนี้ ก่อนนอน ธีร์ไปคว้าหนังสือมาอ่านเองระหว่างที่หม่าม้าตระเตรียมการนอน (ทั้งของตัวเองและธีร์) แน่นอน สำหรับเด็กช่างพูดอย่างธีร์ การอ่านหนังสือก็ไม่ได้อ่านเงียบๆ คนเดียวแน่ จากการแอบฟังของหม่าม้า ธีร์มีตรรกะในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เปิดไปหน้าที่มีรูป "ส้ม" ธีร์ก็อ่าน (เอาเอง ไม่ได้มีในหนังสือเล้ยยย) เสียงดังว่าแบบนี้

"...ส้มสีส้ม มีใบด้วยนะ ส้มมีเปลือก กินส้มก็มีเปลือก แกะมาก็มีเปลือก เม็ดมันก็มีเปลือก ถุยออกมาก็มีเปลือกที่มือ..."

นี่เป็นตัวอย่างแค่หน้าเดียวที่ธีร์อ่าน ลองจินตนาการเอาเองก็แล้วกัน อ่านมันครบทุกหน้าจะปวดหัวขนาดไหน เหอ เหอ เหอ

Wednesday, September 03, 2008

เป็นอะไรล่ะ....คราวนี้

ธีร์อยู่ในวัย "สมมติ" ตัวเองเป็นโน่นเป็นนี่

พักก่อน ธีร์เป็นเต้าหู้ หม่าม้าเป็นผัก และป๊าเป็นมะเขือเทศอยู่เกือบ 2 อาทิตย์ พอถามถึงสมาชิกรายอื่นๆ ธีร์ก็สามารถหาความเกี่ยวข้องและตั้งชื่อให้คนอื่นได้ทุกคน ตัวอย่างเช่น เหล่าโกว (โกวโกวของธีร์) มักจะให้ "ขมๆ" ซึ่งก็คือกิมจ๊อ (ลูกอมเล็กๆ รสบ๊วย) ให้ธีร์กินเป็นประจำ พอถามธีร์ว่า โกวโกวเป็นอะไรล่ะธีร์ ธีร์ก็บอกว่า โกวโกวเป็นขมๆ ส่วนโมอิ๊นั้นเป็นปลา (เจ้าตัวจะรู้มั้ยเนี่ย) สาเหตุที่โมอิ๊เป็นปลาก็เพราะว่า ช่วงเวลาที่ถามนั้น ตรงกับเวลาอาหารเย็นพอดี ธีร์หมดมุข มองไปเห็นปลาอยู่ข้างหน้าตัวเอง โมอิ๊เลยเป็นปลาด้วยเหตุนี้

อีกหลายครั้งที่หม่าม้าจะต้องเป็นอุลตร้าแมนบ้าง สัตว์ประหลาดบ้าง สารพัดแล้วแต่อารมณ์ของธีร์

ล่าสุด ป๊า หม่าม้าและธีร์กำลังเล่นกันอยู่ ธีร์ก็พูดขึ้นมาว่า "ธีร์เป็นผู้ชาย หม่าม้าเป็นผู้หญิง ป๊าเป็นอุโมงค์" 

ป๊าถึงกับงง...อุโมงค์...มาจากไหนล่ะเนี่ย แล้วทำไมถึงเป็นอุโมงค์....หม่าม้าก็ไม่รู้ครับ มีคนเดียวที่รู้แต่มักจะไม่ยอมอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ...ธีร์นั่นเอง หุ ห ุหุ

Tuesday, September 02, 2008

ไม่รอดแน่

ธีร์....ทำหน้าตาไม่พอใจหม่าม้าแบบนี้มีปัญหาเหรอ
หม่าม้าจะโยนธีร์ให้ปลากิน...นายไม่รอดแน่ ดูปริมาณปลาซะก่อน เผลอๆ นับ1-5 นายก็คงไม่เหลือซากแล้ว 555
แหะ แหะ ฟังดูโหดร้ายชะมัดเลยเนาะ....จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น....เพื่อความสงบ (ชั่วคราว) ในชีวิตของเรา ดูรูปนี้ ทำใจให้สบายกันซักครู่ (แนะนำให้ปิดวิทยุ ทีวี และเปิดเพลงที่ฟังแล้วผ่อนคลายฟังไปด้วย)
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ธีร์ไปรับกงที่บ้านตา "สบง" บ้านตาสบง (ของธีร์) ลุงสบง (ของหม่าม้า) อยู่แถวๆ คลองบางกอกน้อย (ใช่รึเปล่า หม่าม้ามั่วๆ ไม่รู้ถูกรึเปล่า) ประมาณว่าถ้าจะเข้าไปบ้านตาสบงจะต้องลงเรือไป ดูบรรยากาศซะก่อน

คราวก่อนที่เราไปรับกง เราไปยืนรอบนสะพานข้ามคลอง เห็นปลาสวายตัวยาวเมตรกว่าๆ หลายสิบตัวว่ายทวนน้ำอยู่เป็นกลุ่มๆ ตรงนั้นเป็นเขตอภัยทาน ปลาเลยเยอะเป็นพิเศษ พวกเราหมายมาดกันว่าถ้ามาคราวหน้าจะต้องเอาอาหารปลามาด้วยให้ได้

คราวนี้กงไปเยี่ยมเพื่อน บอกให้เราไปรับเรา ก่อนไปเราก็ไม่ลืมซื้ออาหารปลาติดมือไปด้วย ปลาตรงนั้นชุกชุมมาก ขนาดว่าถ้าตกลงไปในน้ำ (เน่าเล็กน้อย) เราอาจจะกลายเป็นอาหารปลาได้ เพราะปลาอาจจะหิวแล้วลืมไปว่าตัวเองเป็นมังสวิรัติ มีอะไรกินได้ก็น่าจะกินประทังชีพ

รอกันซักพัก กงที่นัดกันไว้ว่ามารับแล้วก็ไม่มาซักที ได้ยินเสียงเรือหางยาวมาแต่ไกล ปรากฏว่าคุณลุงคนขับซิ่งเรือมาบอกว่า ทั้งกงแล้วก็ตาสบงตกน้ำ เปลี่ยนเสื้อกันอยู่เดี๋ยวมา พอกงมาถึงก็ได้ความว่าขณะจะลงเรือ เรือหางยาวลำใหญ่ซิ่งผ่านมาทำให้เรือหางยาวลำเล็กที่กงกำลังก้าวเท้าลงไปนั้นโคลงเคลง ตกน้ำกันทั้งคู่ ขนาดตาสบงบอกว่า ดีนะเนี่ย น้ำขึ้น น้ำใหม่ แต่กงก็ยังบอกว่าน้ำเน่าเหม็นเชียว....

จบข่าวกงลงไปว่ายน้ำเล่นในคลอง และการให้อาหารปลาของธีร์แต่เพียงเท่านี้ (จะโดนกงด่ามั้ยเนี่ย เอามาแฉซะ)

เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ธีร์ขึ้นรถอึ้มกลับจากงานวันแม่ที่โรงเรียนเฮียปรานต์ ได้ฟังซีดีเพลงชุดชมสวน เป็นซีดีของเสถียรธรรมสถาน มีเพลงทำสมาธิ เพลงที่ฟังแล้วผ่อนคลายร้องโดยเด็กๆ หลายเพลง ธีร์ฟังแล้วพอลงรถก็ร้องมั่วๆ คลอๆ จนหม่าม้าต้องไปขออึ้มมาให้ธีร์ฟังบ้าง

วันนี้เฮียปรานต์กลับมาจากโรงเรียน ธีร์อยู่ในสภาพคึกจัด ร้อง (หรืออีกนัยหนึ่งแหกปาก) โวยวายเสียงดังลั่นบ้าน....เฮียปรานต์บอกธีร์ว่า "ธีร์เงียบหน่อย ไม่งั้นเฮียปรานต์จะเปิดเพลงผ่อนคลายให้ธีร์ฟังนะ" รู้สึกว่าจะได้ผล เพราะนอกจากผู้ใหญ่ที่ได้ฟังปรานต์พูดจะหัวเราะขำ ธีร์ก็คงกลัวว่าจะได้ฟังเพลงจากซีดีให้ผ่อนคลายก็เลยรีบเงียบ ทำการผ่อนคลายตัวเองโดยทันที....