Thursday, February 28, 2008

หมอธีร์

เมื่อวานนี้ หม่าม้านอนอยู่บนโซฟา ธีร์กำลังวิ่งเล่นไปมา หม่าม้าบอกธีร์ว่า ธีร์ครับ หม่าม้าไม่สบาย คุณหมอมาตรวจหน่อยครับ

ธีร์วิ่งไปหาอุปกรณ์สำหรับเล่นเป็นคุณหมอที่อยู่ใกล้ๆ หยิบเอาที่ตรวจหัวใจมาใส่คอไว้ เอามาแปะไว้ที่พุงหม่าม้าพร้อมทำเสียงตุ้บๆ ไปด้วย จากนั้นก็ไปค้นๆ เอาไซริงก์สำหรับกินยาจากในถุงมาจ่อปากหม่าม้า บอกหม่าม้าว่า "อ้าปาก....อ้ะกินยา....อ้ะ น้ำ...อย่าดื้อ" แล้วก็วิ่งจากไป หม่าม้าหายรึยังธีร์ก็ไม่สนใจ...

เช้าวันนี้ ธีร์เดินเล่นตรงโน้นทีตรงนี้ธีร์อยู่ในห้องนอน ป๊ากำลังหลับอยู่ ธีร์เดินมาถึงปลายเตียง เท้าป๊าโผล่ออกมา ธีร์ชี้ไปที่ส้นเท้าป๊าตรงส่วนที่ดูแตกๆ แล้วถามว่า "นี่อะไร" หม่าม้าบอกธีร์ว่า "ส้นเท้าแตกครับ" ธีร์ได้ยินว่าป๊าส้นเท้าแตก ก็เขี่ยๆ ดูซักพักแล้วไม่รู้คิดยังไง วิ่งไปหยิบเอาผ้ายางของธีร์มาห่มเท้าป๊าทั้งสองข้างไว้ แล้วก็บอกว่า ธีร์รักษาป๊า มา มา หม่าม้า มารักษาป๊า ธีร์เอายาแก้แพ้ ธีร์เอายาทา บลา บลา บลา...แล้วก็วิ่งไปเล่นที่อื่นตามฟอร์ม ทิ้งให้หม่าม้าขำกลิ้งอยู่คนเดียว...โถๆ คุณหมอธีร์จะรักษาส้นเท้าแตกให้ป๊า 555

Tuesday, February 26, 2008

หู

ธีร์มักจะเกาหูตัวเองเป็นแผลบ่อยๆ ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางทีซ้ายหาย อ้าว! แผลข้างขวามาอีกแล้ววุ้ย หม่าม้าสังเกตเห็นว่าในหูของธีร์มีขี้หูก้อนใหญ่อยู่มานานแล้ว พอตั้งท่าจะเช็ดหูธีร์ด้วยคอตต้อนบัด อาม่าสายสี่ก็บอกว่าไม่ต้องเช็ด อาม่านครปฐมก็เกรงว่าหม่าม้าจะทำร้ายธีร์โดยไม่ได้ตั้งใจ....

วันนี้หม่าม้าส่องดูหูธีร์อีกครั้ง เห็นแล้วอดรนทนไม่ไหว...พยายามเอาขี้หูธีร์ออก ป๊ากลับมาจากข้างนอกพอดี เราสองคนพ่อแม่ก็เริ่มต้นการจับล๊อค และทรมานลูกชายคนเดียวอย่างตั้งอกตั้งใจ ทีแรกป๊าว่ามันลึกไป สมควรไปให้หมอเอาออก แต่ในที่สุดก็ทนแรงพยาบาท เอ้ย! แรงพยายามของหม่าม้าไม่ไหว ต้องช่วยกันอย่างเต็มที่

นี่คือสิ่งที่เราได้ออกมาจากหูของธีร์ เป็นแค่เพียงส่วนเดียวเท่านั้น...ไม่น่าเชื่อ (เทียบกับนิ้วชี้หม่าม้า และขอทำเบลอด้วย)!!!
ธีร์ถูกป๊ากะหม่าม้าล๊อคไปรอบแรก รอบสอง และรอบสาม น้ำหูน้ำตาเล็ดด้วยความตกใจ และเจ็บตามที่ธีร์โวยวายร้องไห้ลั่นบ้าน แต่หม่าม้าเห็นสิ่งที่ออกมาแล้วคิดว่าเราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะคิดว่ามันจะไม่ไหลออกมาเองตามธรรมชาติ และถ้าเนิ่นนานออกไป อาจจะเป็นกรณีเดียวกับพี่บัวตอนเล็กๆ ที่ต้องไปหาหมอ ให้หมอดึงออกมา....
ตัดภาพฉับไปจากการโดนล๊อค พอธีร์เป็นอิสระ ธีร์ก็หน้าหมู....
เริงร่าได้ทั้งที่น้ำตาเล็ด น้ำลายยืดย้อย
และเมื่อได้ของปลอบใจเป็นชอคโกเลต royce แบบ bitter เข้าไปหนึ่งชิ้น...อารมณ์ของธีร์ก็เปลี่ยนไปได้แบบนี้ (ไม่ต้องแปลกใจ สมธีร์สามารถกินชอคโกเลตแบบ bitter ได้ แถมชอบซะด้วยแน่ะ)

มาลองทบทวนดูแล้ว วันนี้เป็นวันที่โหดร้ายวันนึงของสมธีร์เลยทีเดียว ขอโทษค้าบบบบ แต่เพื่อสุขภาพหูที่ดี หม่าม้าจำเป็นจะต้องทำครับ อย่าโกรธหม่าม้าเลยนะธีร์

Sunday, February 24, 2008

นกนางนวล

เนื่องจากใกล้จะถึงวันเกิดเหล่ากง (พ่อของอาม่าบ้านสายสี่นั่นแหละ) วันอาทิตย์นี้ ครอบครัวขยายของเราไปบางปูกัน สำหรับธีร์ คงต้องใช้คำว่า "อีกครั้ง" ไปฉลองวันเกิดให้เหล่ากงกันล่วงหน้า

ธีร์ออกจากบ้านพร้อมกับคำว่า "นกนางนวล" บรรจุอยู่เต็มสมอง ตอนแรกเหล่ากงกะเหล่าม่าจะไม่ไป แต่ก็ถูกล่อลวงให้ไปจนได้ ธีร์ก็เลยได้ดูนกนางนวลสมใจ (เรื่องนี้ลงเป็นมติไปแล้วว่า คราวหน้าจะไปไหน ไม่ควรบอกธีร์แต่เนิ่นๆ เนื่องจากธีร์จะฝังใจ ไม่ไปจะร้องไห้!!!)

บ้านเราประกอบด้วย กง ม่า กู๋คิม ป๊า หม่าม้า แล้วก็ธีร์ไปถึงสะพานสุขตากันก่อน ธีร์เลยได้รับอนุญาตให้ไปกินข้าวโอ๊ต ready meal ของธีร์ก่อนใคร ระหว่างชื่นชมนกนางนวลในอิริยาบถต่างๆ พร้อมกับหมีตั้งท้อง เอ้ย! กู๋คิมที่เตรียมตัวมา "ยิงนก" เต็มที่

รูปถ่ายที่สะพานสุขตาได้มาเท่านี้จากกล้องพอลล่า (ที่หม่าม้าตั้งใจหยิบกลับบ้านมาอีกแล้ว ไหนว่าไม่ใช่ของตัวเอง) ไหนล่ะ ไหน นกนางนวลที่บอกว่าไปดูน่ะ ไม่มีซักกะตัว
พอทุกคนมาถึง เราก็เดินฝ่าเปลวแดดอันร้อนระอุไปกินข้าวเที่ยงกัน กู๋คิมถึงกับบ่นว่า เบื่อเจ้านกพาณิชย์พวกนี้จริงๆ ของกินหมดมันก็เลิกใส่ใจเรา แถมกู๋คิมยังแก่ไปแล้ว...ยิงนกไม่ทัน 555

นี่เป็นรูปส่วนที่ได้จากกล้องไฮโซของกู๋คิม... เริ่มด้วยธีร์กะป๊า ผู้ซึ่งจะเป็นลมด้วยความร้อน
ธีร์เป็นขาใหญ่ตัวจริงเสียงจริง...มีรูปยืนยัน
รูปนี้เหมือนจะน่ารัก...แต่ความจริงเบื้องหลังภาพ ธีร์ทำเนียน เช็ดปากกะแขนเสื้อหม่าม้า!!!
ไม่รู้กินไอติมก้อนนี้ด้วยอารมณ์ไหน...อธิบายไม่ถูก...สงสัยจะซาบซึ้งจัด
กู๋คิมมีการสอดไส้ส่งรูปนกนางนวลมาทางอีเมล์เป็นจำนวนมาก บอกว่ารูปน้องธีร์กะนก commercial....ไม่ได้ประกวดรูปนกนางนวลนะเฟ้ย ทำมาโชว์ หม่าม้าก็เลยเอามายำๆ รวมกันเป็นรูปเดียว เปลืองเนื้อที่บล๊อกเรา เอา 6 รูปรวมเป็นรูปเดียวพอ 555
อ้าปากรอขี้นก หล่นใส่ปากแน่เลย
อาการหลังจากที่ไม่ได้กินขี้นกนางนวล
พอกินข้าวกันเสร็จ เกือบบ่ายสองโมง เราก็ยกขโยง 15 ชีวิตไปดูช้างกันต่อ ที่นี่เค้าติดป้ายไว้บอกว่าสร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาพระพุทธรูป และศิลปวัตถุเอาไว้ ใช้แนวคิดปรัชญาตะวันออก บลา บลา บลา หม่าม้าไม่ประทับใจเท่าไหร่ เนื่องจากอากาศร้อน เข้าไปเดินรอบๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไร นอกจากช้างที่เห็นใหญ่ๆ นั่น เก็บค่าดอกไม้เวียน กับธูป คนละ 50 บาท ทำเหมือนกะเป็นวัด แต่ไม่ใช่... ธีร์กับเหล่ากง แล้วก็เหล่าม่า ธีร์ไม่ให้ความร่วมมือในการถ่ายรูปเลย ดูจากหน้าได้ ง่วงก็ง่วง ร้อนก็ร้อน ยังจะเอาอะไรกะธีร์อีกครับหม่าม้า
ธีร์กะม่า แล้วก็ช้าง ดูๆ ไปหน้าธีร์ก็เหมือนตรูดช้างที่ไม่มีในรูป 555
ธีร์เคาะระฆัง...
ธีร์ยกช้างเสี่ยงทาย....ไม่รู้ธีร์เสี่ยงทายว่าไง...สงสัยจะขอให้เข้าอนุบาลปีหน้าโดยไม่ต้องเสียเงิน (อนุบาลที่คิดว่าจะให้ธีร์ไปเรียน ปีนี้พ่อแม่หลายรายต้องสละทุนทรัพย์กันเป็นเลข 6 หลัก น่ากลัวชะมัด)
ธีร์จบวันอาทิตย์ด้วยการไปกินข้าวเย็นกับกง ม่า กู๋คิม ป๊าและหม่าม้า ก่อนจะกลับสู่บ้านนครปฐมโดยสวัสดิภาพ (ฟังดูเหมือนโปรแกรมทัวร์เลยเนอะ)

Friday, February 22, 2008

หม่าม้าขี้เหนียว

ตอนเช้าวันมาฆบูชา ธีร์ หม่าม้าแล้วก็อาม่าเอาอาหารไปถวายพระที่วัดกัน จริงๆ อาม่า ณ นครปฐมถามว่าจะไปเวียนเทียนมั้ย หม่าม้ามานั่งคิด นอนคิด สะระตะดูแล้ว ไม่ไหวแน่ๆ คราวก่อนที่ไปเวียนเทียนหม่าม้าต้องอุ้มธีร์ อุ้มเทียน ธูปและดอกไม้เดินเวียนไปรอบโบสถ์...ที่พื้นที่กว้างมาก คิดเอาเองว่าประมาณครึ่งสนามฟุตบอลคงไม่เว่อร์ไป ถึง 3 รอบโดยลำพัง ในใจก็ไม่ได้มีหรอก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คิดแค่ว่าเมื่อไหร่จะครบ 3 รอบซักที หนักมากกกก รอบแรกไม่เท่าไหร่ รอบสองกะรอบสนามนี่นรกมาก เป็นการฝึกจิตที่รุนแรงจริงๆ คิดแล้วสยอง...

อย่างที่รู้ว่าธีร์อยู่ในวัยช่างพูดช่างซักช่างถาม บางทีก็พูดอะไรเร็วๆ ขึ้นมา คนรอบตัวที่ไม่ค่อยได้คุยกะธีร์บ่อยๆ ก็จะเกิดอาการฟังไม่ทัน ไม่เก็ตว่าธีร์พูดว่าอะไร บางทีก็ต้องมีล่ามช่วยแปลกันบ่อยๆ (ฟังดูไฮโซชะมัด มีล่ามส่วนตัวด้วยอ่ะ)

"นี่อะไร" เป็นคำถามยอดฮิต ช่วง "ทำไม เพราะอะไร" นี่ยังมาไม่ถึง หม่าม้าก็พยายามตอบธีร์ทุกครั้ง ตอบซ้ำหลายๆ รอบก็ตอบ บางทีก็เหมือนธีร์จะทดสอบความจำหม่าม้าเหมือนกัน เช่น ตอนไปแมคโคร ธีร์เห็นถุงใส่เครื่องต้มยำ ก็ชี้เกือบทุกอย่างถามว่า "นี่อะไร" พอได้คำตอบแล้วก็วนสุ่มชี้ใหม่อีกหลายรอบ หม่าม้าก็ตอบไปเรื่อยๆ ซ้ำๆ นั่นแหละ พอวนได้ที่ซัก 3-4 รอบให้หม่าม้ามึนๆ ว่าเมื่อกี๊บอกธีร์ว่านี่อะไรไปแล้ว ก็ควรกึ่งลากกึ่งจูงธีร์ไปดูอย่างอื่นให้ธีร์ถาม "นี่อะไร" ใหม่

นอกจากนี้ธีร์ยังชอบทำกับข้าวอีกด้วย การทำกับข้าวของธีร์ไม่ต้องการอะไรมาก ต้องมี "อูป ปา กอน" เยอะหน่อย มีชาม มีจาน มีถ้วย มีที่สับอะไรของธีร์ไปตามเรื่อง อันนี้เป็นเรื่องจินตนาการล้วนๆ พอธีร์พูดว่า "ธีร์ทำกับข้าว" ปุ๊บ คนใกล้ตัวควรเตรียมนึกได้แล้วว่าตัวเองจะสั่งอะไร เพราะธีร์จะวิ่งมาพร้อมกับคำถามว่า "หม่าม้า (หรือใครก็แล้วแต่ที่ธีร์พุ่งเข้าไปชนอย่างแรง) เอาอาไรอ่ะ" หม่าม้าสั่งผัดผักบุ้งไปประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว ยังไม่เคยได้กินเลย 555 พอได้คำตอบว่าจะเอาอะไร ธีร์จะพูดตาม ทำทีเป็นทำอาหาร เสร็จแล้วก็พุ่งชนเหยื่อรายต่อไปพร้อมคำถามเดิมโดยไม่มีการเอาของที่สั่งมาส่งคุณลูกค้า กระบวนการเช่นนี้อาจจะซ้ำไปคนละหลายรอบจนเรานีกไม่ออกนั่นแหละว่าจะสั่งอะไรดี แล้วธีร์ก็จะเบื่อไปหาของเล่นใหม่ต่อไป

บางที นั่งๆ รถกัน อยู่ๆ ธีร์ก็จะพูดว่า "หม่าม้าเป็นอะไร" คำถามนี้ tricky นิดหน่อย ต้องเริ่มจากที่ว่าธีร์ชอบดูมะหมาสี่ขามาก (ใครยังไม่ได้ดูขอกระซิบว่าไปหาในยูทู้ปดูได้...ธีร์ดูบ่อยมาก) ก่อนหน้านี้ธีร์สามารถเห่าได้ด้วย พักนี้ซาๆ ไป แต่ยังเห่าได้อยู่ พูดเลียนแบบ dialogue ในหนังได้ ประโยคฮิตได้แก่ "อย่าบอก" พูดไปก็ขำคิกคักอยู่คนเดียว หลังๆ นี่อินมากขนาดที่เล่นๆ กันอยู่ก็จะพูดโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยว่า "ธีร์เป็นมะขาม หม่าม้าเป็นอะไร" ต่อมาคำถามเริ่มสั้นลง เหลือแค่ "หม่าม้าเป็นอะไร" หม่าม้าก็ต้องนึกชื่อตัวละครในหนังมาบอกว่า ณ ขณะนั้นหม่าม้าจะเป็น มะขาม พิกุล ลุงกาแฟ ฯลฯ พอบอกเสร็จ ธีร์ก็จะถามว่า "ป๊า/เฮียปรานต์/อึ้ม/อาม่า/โมอิ๊ ฯลฯ เป็นอะไร" เรียกว่าไล่กันมาครบทั้งครอบครัวว่างั้นเถอะ

ล่าสุด ก่อนนอนวันนี้ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากอ่านนิทานก่อนนอนเสร็จ ปิดไฟ อยู่ดีๆ ธีร์ก็พูดว่า "หม่าม้าเป็นขี้เหนียว ธีร์เป็นมะม่วง" เอ่อ...ธีร์ครับ ธีร์หมายความว่าหม่าม้าเป็นข้าวเหนียวนี่ครับ...พูดจาให้มันถูกต้องหน่อยเซ่

รูปทรงผมใหม่ธีร์ค้าบ ม้าเต่อเล็กน้อย...อยากทำผมม้าโค้งๆ กว่านี้อ่ะ แต่ธีร์ไม่ให้ความร่วมมือแค่นี้เอง เลยเต่อได้แค่นี้ 555

Tuesday, February 19, 2008

ช่างพูด

ธีร์เป็นเด็กช่างพูดมาแต่ไหนแต่ไร ช่างพูดเกินเด็ก มีคราวนึงหม่าม้าแต่งตัวจะออกไปงานแต่งงาน ธีร์เห็นเข้าก็พูดว่า "หม่าม้าสวยยยย" สาบานได้ว่าไม่เคยสอนให้ธีร์พูดว่าหม่าม้าสวย เนื่องจากธีร์เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรพูดจาโกหก .... 555

ล่าสุด ธีร์ตื่นจากนอนกลางวัน นอนไปนานตื่นมาก็เกือบจะได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว เจอหน้าอาม่า ณ นครปฐม อาม่าใจดีถามธีร์ว่าธีร์จะกินกล้วยมั้ย...ธีร์ส่ายหัวแล้วตอบว่า ไม่กิน เดี๋ยวหม่าม้าว่า อาม่าถามว่า หม่าม้าว่าธีร์ว่าอะไร ธีร์ตอบได้ทันใดว่าหม่าม้าจะพูดว่า "ธีร์ กินอะไรอยู่"....

นอกจากจะรู้ว่าหม่าม้าไม่ชอบให้กินอะไรก่อนกินข้าวแล้ว ธีร์ก็ยังรู้ว่าหม่าม้าไม่นิยมให้ธีร์กินทอฟฟี่ ชอคโกแลต ขนมหวานทั้งหลายแหล่ที่ใครๆ ชอบแจกธีร์นัก หลายๆ ครั้งที่ธีร์ตอบคนที่ยื่นขนมให้กินว่า "เดี๋ยวหม่าม้าด่าๆ" แล้วก็อ้าปากงับขนมอมไว้แน่นไม่ยอมอ้าปากให้ขนมหลุดออกมาอีกเลย

ช่วงนี้ธีร์ขึ้นรถแล้วมักจะ request ขอฟังเพลง "พี่เบิร์ด" (เพลงที่มันร้องว่ามีแต่คิดถึง ได้แต่คิดถึง ประมาณนี้) เป็นประจำ หม่าม้าฟังแล้วก็ขำๆ ธีร์ขอฟังเพลง "พี่เบิร์ด" เลยเหรอลูก...

นึกไม่ออกว่าจะเล่าอะไรดี ไว้มีมุขเด็ดๆ แล้วค่อยมาเล่าใหม่ อันนี้เป็นเรื่องขัดตาทัพ ไม่ให้บล๊อกเหงาไปก่อนในอาทิตย์นี้ก็แล้วกัน

อ้อ! อาทิตย์นี้จะส่งรูปอะไรมาประกวดกันอีกล่ะทุกคน...555 (เป็นมุขไม่ต้องหารูปเอง)

Tuesday, February 12, 2008

แมงกะพรุน

มากันใหญ่ๆ

หลังจากที่บุคคลนิรนามส่งแมงกะพรุน MK เข้าประกวดแล้ว กู๋คิมเกิดอาการของขึ้น ยอมไม่ได้ จะส่งเข้าประกวดบ้าง...เอากันเข้าไป นี่มันบล๊อกของเด็กชายธีร์นะเฟ้ยยย ไม่ใช่เว็บส่งภาพถ่ายมาประกวด อีกหน่อยมิมีแมงกะพรุนเต็มธีร์ไปหมดเหรอเนี่ย...

where where ก็ where where แมงกะพรุนจากโอซาก้ามาละ....หลังจากอี๊บีส่งรูปแมงกะพรุนเข้าร่วมประกวดตามเรื่องข้างล่าง
ก็มีอีเมล์ขอส่งรูปแมงกะพรุนเข้าประกวดไปถึงหม่าม้าอีกเช่นกัน แต่หม่าม้าพิจารณาแล้วไม่ผ่านหลักเกณฑ์ ป๊าเห็นแล้วขำๆ เลยจิ๊กมาแบ่งกันดู รูปนี้เป็นของใครไว้รอให้เจ้าของรูปเค้ามาเฉลยเองดีกว่า อิอิ
แมงกะพรุนรูปนี้อี๊บีขอส่งเข้าประกวด แข่งกะ canon-er ทั้งสอง บอกว่าถ่ายด้วยมือถือจาก aquarium ในเมลเบิร์น หม่าม้าว่ามันจะชนะก็ตรงที่มันมาจากเมลเบิร์นนี่ละม๊าง คริ คริ คริ (อี๊บีบอกอย่าเอามาลงเลย เดี๋ยวโดนจิกกัด... 555)
เมื่ออยู่บ้าน ธีร์ก็วิ่งเล่นไปทั่วบ้าน ไม่ว่าจะบ้านไหน ธีร์ก็วิ่งไปทั่ว เมื่อวานเย็นระหว่างที่หม่าม้าทำกับข้าวอยู่ ป๊าเดินมาที่ครัวเล่าให้หม่าม้าฟังว่า ธีร์วิ่งไปวิ่งมา เดินขึ้นไปบนตาชั่งเพื่อชั่งน้ำหนัก (ที่เล่นปกติ) แต่คราวนี้เกิดพลาด ล้มจากตาชั่งลงมา หม่าม้าคาดว่าคงลงท่ารอดมาตรฐาน คือเอามือ 2 ข้างยันพื้นได้ทัน แล้วธีร์ก็พูดว่า "เกือบไปแล้ว"

เย็นกว่านั้น ธีร์กะเฮียปรานต์เล่นรถกันอยู่ เกิดอาการหงุดหงิดกัน ธีร์ไปทำร้ายของเล่นเฮียปรานต์เข้า เฮียปรานต์ลืมตัวไปชั่วแล่น ธีร์ล้มลงไปชนตู้ ตกใจร้องไห้ขึ้นมาวิ่งมาให้หม่าม้าโอ๋...พอโอ๋กันเสร็จสรรพ ธีร์ตัวแสบก็วิ่งกลับไปที่เกิดเหตุ ชี้ไปที่เฮียปรานต์ แล้วก็พูดว่า "อย่าทำอีกนะ" หนอยๆ แกล้งเค้าก่อนยังมีหน้าไปชี้หน้าเฮียปรานต์อีกนะธีร์

ช่วงก่อนหน้านี้ธีร์แพ้อะไรไม่รู้ ถึงวันนี้ธีร์ก็ยังแพ้อยู่ หม่าม้าพยายามหาแล้วยังไม่เจอจะๆ คิดว่าแพ้น้ำยาซักผ้าเด็กยี่ห้อที่ใช้อยู่ เปลี่ยนมาซักผ้าด้วยสบู่ handmade แล้วก็ยังแพ้อยู่ ต่อไปหม่าม้าว่าจะหยุดสบู่เด็กชั่วคราว...เล่าให้อี๊บีฟัง อี๊บีบอกธีร์นี่ขี้แพ้จริงๆ...แถมด้วยภาษาอังกฤษว่า ธีร์เป็น loser!!! ชิ

Sunday, February 10, 2008

Siam Ocean World

หม่าม้าบอกธีร์ไว้ตั้งแต่คืนวันเสาร์ หลังจากอ่านหนังสือซีรียส์สัตว์น้ำ (ปลาเหาฉลามจอมเกาะ ม้าน้ำพรางตัว และปลาหมึกแปลงกาย) จบไปอย่างละรอบ ว่า ธีร์รีบนอนนะครับ พรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) หม่าม้าจะพาไปดูปลา ธีร์ยอมนอนโดยดี ไม่รู้ดีใจจะได้ไปดูปลา หรือว่าง่วงนอนจะแย่แล้ว

หม่าม้าซื้อบัตรมาได้ซัก 2 อาทิตย์แล้วในราคาเป็นมิตร มีบัตร 6 ใบ หมดอายุสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ตอนแรกว่าจะรออี๊บีไปดูด้วยกัน แต่อี๊บีกลับมาช้าเกินแกง เราไปดูกันก่อน อนุมานว่าอี๊บีคงเห็นสัตว์น้ำมาในชีวิตมากโขแล้ว ไปดูเอาเองทีหลังได้....เช้าวันอาทิตย์ ระหว่างที่ธีร์แต่งตัว หม่าม้าก็บอกธีร์ว่าเราจะไปดูปลากัน ธีร์อยากดูปลาอะไร...ปลากระเบนครับ โอเค! ปลากระเบน แต่งตัวเสร็จธีร์รีบวิ่งไปตะโกนปลุกโมอิ๊ กะกู๋คิม บอกว่า "โมอิ๊ตื่นครับ ไปดูปลาทูกัน" !!!

ขึ้นรถ ออกจากบ้าน เวร! หม่าม้าลืมมือถือ ต้องวนรถกลับไปหยิบ ธีร์ที่ชอบถามทุกครั้งที่ขึ้นรถว่า "น้องธีร์ไปไหนอ่ะ" พอบอกว่ากลับบ้าน...รถวนไปถึงหน้าบ้าน ธีร์ถึงกับร้องไห้น้ำตาหยดเผาะๆ บอกจะไปดูปลา ไม่กลับบ้าน...น่าสงสารยิ่งนัก

ออกจากบ้านอีกครั้ง คราวนี้มุ่งหน้าไปที่วัดเทพฯ ก่อน ไปกราบหลวงตา เอาของกินนิดหน่อยไปถวาย รอหลวงตาฉันเพลเสร็จ เราก็ไปกินข้าวเที่ยงกัน ธีร์ผู้อยากไปดูปลา ก็ได้ไปดูหมา เต่า ปลาวัดไปก่อน สงสัยดูมากไป ต้องกลับไปนอนที่บ้านเหล่าม่าเอาแรงกันก่อน แล้วก็รอป๊ามาสมทบด้วย

บ่าย 2 โมงเกือบครึ่ง ธีร์ถูกปลุกขึ้นมาเตรียมตัวไปดูปลากัน ที่พารากอนอาทิตย์นี้มีงาน ComWorld ด้วย รถและคนเยอะสุดๆ

พอโชคดีหาที่จอดรถได้ เราทุกคนก็มุ่งหน้าไปดูปลากันเป็นอันดับแรก แต่สัตว์น้ำชนิดแรกที่ธีร์ได้ดูคือปูยักษ์... พาธีร์ไปถ่ายรูปด้วย ได้ธีร์ทำหน้าสยองดังรูป เหมือนโดนแมงมุมเกาะหลังมาแทน

พวกสัตว์น้ำใน Siam Ocean World ก็น่าตื่นตาตื่นใจมากสำหรับธีร์ ปลาที่เคยเห็นแต่ในหนังสือ คราวนี้ก็ได้มาเห็นตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นฉลาม ปลาเหาฉลาม ปลากระเบน ปลาการ์ตูน (ที่เดี๋ยวนี้เด็กเกือบทั้งโลกรู้จักในชื่อ "นีโม่" ไปซะแล้ว) หรือว่าปลาดาว ที่มีตัวจริงมาให้จับได้ด้วย (ตัวแข็งๆ เนาะ ตอนแรกนึกว่าจะตัวนิ่มๆ ซะอีก) แมงกระพรุนพวกนี้ ป๊ากะกู๋คิม "ยิง" มาได้ เพราะมันอยู่นิ่งพอควร ป๊าออกจะชื่นชมรูปมากถึงขนาดบอกว่า "สวยใช่มั้ย...ป๊าดำน้ำลงไปถ่ายตั้งนาน กลั้นหายใจแทบแย่แน่ะ" กล้าพูดนะเนี่ย!เต่าทะเลที่เห็นนี่มันดู friendly มากๆ หม่าม้าบอกว่ามี 3 ตัว ป๊าเถียงว่ามีแค่ 2 ตัวไปดูรูปสิ...ก็ถ่ายมาแค่ไม่กี่ตัว ไม่ได้ดูในแทงค์จริงๆ จะเห็นครบมั้ยเนี่ย มาเรื่องเต่าต่อ เจ้าเต่า 3 ตัวนี้มันต้องว่ายน้ำกันไปเป็นพรวน ไปไหนไปกัน แถมยังว่ายมาริมๆ ยกขาโบกๆ ชูๆ ขึ้นมา เหมือนกับจะให้เด็กๆ จับ หรือไม่ก็บ๊ายบายกัน น่ารักดีอันนี้เป็นตู้ปลาที่ตรงกลางตู้ทำเป็นเว้าเข้าไป ให้เด็กๆ (และผู้ใหญ่ที่มีความจำเป็นบางส่วน เช่นหม่าม้า) มุดเข้าไปถ่ายรูปตรงกลางได้....ธีร์ดูเหมือนจะชอบมาก อยากเข้าไปอีก แต่ต้องให้หม่าม้าเข้าไปด้วย กลัวโดนดูดไปเป็นพลพรรคปลารึเปล่าก็ไม่รู้
ไฮไลท์ของการไปดู aquarium คงเป็น tunnel ประมาณนี้ คราวนี้ธีร์ได้เห็นฉลามอย่างใกล้ชิด เห็นปลากระเบน "บิน" ผ่านหัวไป หรือนั่งรอฉลามมากัดพร้อมกะหม่าม้า!?! เป็นที่ตื่นตาตื่นใจ
สุดท้ายก่อนออกจากที่นั่น มีการถ่ายรูปกับของที่เค้าห้ามถ่ายรูป ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน กลัวว่าถ่ายแล้วจะไม่ซื้อของ หรือว่ากลัวเราจะเอาไปลอกเลียนแบบหรือไงก็ไม่รู้ได้ แถมท้ายด้วยรูปหมู่ที่ป๊าบอกว่าไม่ค่อยมีรูปตัวเองเลย (มีแค่ 2 รูปที่มีป๊านั่นแหละ แถมรูปนึงเป็นรูปด้านหลังซะอีก 555) กินข้าวเย็นกันเสร็จ เราก็กลับบ้านกัน ระหว่างทางกลับมานครปฐม ผ่านโลตัส ธีร์บอกว่าจะไปโลตัส....

พูดถึงโลตัส นอกเรื่องซักหน่อย มีครั้งนึงป๊าจะไปแมคโครซื้อของ หม่าม้าบอกธีร์ว่า เราจะไปแมคโครกันนะครับป๊าจะซื้อของ ธีร์พูดว่า "ไปโลตัสดีกว่า" ธีร์ถือว่าเป็นสาวกของโลตัสเหมือนกัน เนื่องจากถ้าหม่าม้าจะพาไปซื้อของ เราก็จะไปโลตัสกัน ถ้าไปกะม่าจากบ้านสายสี่ เราก็จะไปคาร์ฟูร์....โลตัสจับใจธีร์เป็นพิเศษเพราะข้างๆ โลตัสนครปฐม มีร้านอาหารร้านนึงที่มีเป็ดตัวใหญ่มากกกก อยู่บนหลังคา เราเรียกกันว่า เป็ดยักษ์ และจะต้องบ๊ายบายกันทุกครั้งที่รถผ่าน...

เล่าต่อเรื่องโลตัส....ป๊าที่นั่งอยู่ด้านหลังกับธีร์ถามธีร์ว่า จะไปโลตัสเหรอ ไปพารากอนดีกว่ามั้ย มีปลาด้วยนะ ธีร์รีบตอนว่า "ไปพายาอ้อน ดูปลา..." ต้องมีการสอนพูดพารากอนกันหลายที หลังจากนั้นถามอีกสองสามที ก็ได้คำตอบเหมือนเดิม...อืมมมม เริ่มจะไฮโซแล้วเนาะ....

สุดท้าย ถามธีร์ว่าวันนี้สนุกมั้ยครับ...ธีร์ตอบว่า "สนุกมาก" ดีจังครับที่ธีร์ชอบ ไว้เราไปกันใหม่เนาะ (ตอนมีบัตรราคาถูกคราวหน้า...ถ้ามี)

Sunday, Thee went to Siam Ocean World, the world largest aquarium "in department store", in Siam Paragon. Thee was very excited and well prepared to see all the water creatures since early morning.

We went to the temple to offer some food the Luangta then had lunch...Thee who was over excited went off to his afternoon nap before the fishy trip will start!

At Siam Paragon, there was also "ComWorld", the computer showcase and reasonable price accessories on sale, so there were heaps of cars and people. We finally parked the car and started our fishy trip.

A lot for Thee to see and we had good time pointing at this, those and that for Thee to look at.

On the way back to Nakornpathom home, Thee saidthat he had great time today and wants to go again. Mama was glad that Thee like it...we sure will go there again when Mama get hold to the friendly price tickets!

Tuesday, February 05, 2008

ซินเจียยู่อี่

Dajia, Xin zheng ru yi. Xin nian fa cai!

แหะๆ กระแดะมาภาษาต่างด้าวแสดงพื้นเพดั้งเดิมอย่างเต็มที่ (ทั้งๆ ที่อากงมาจากซัวเถา ไม่ใช่ปักกิ่ง แต่ล่อจีนกลางมาเชียว)

ตรุษจีนปีมิคกี้เมาส์นี้ ธีร์ก็ขอซินเจียยู่อี่ (ปากหมูมั่กๆ) แปลเป็นไทย ก็คิดอะไรให้สมปรารถนา (ถูกมั้ยเนี่ย มั่วรึเปล่าเรา) แถมด้วยแฮปปี้เบิร์ธเดย์กันทุกคนเลยค้าบบบบบ

สำหรับสมาชิกคอมฯ พัง...ธีร์เค้าพูดว่า ซินเจียยู่อี่ กะร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ในวีดิโอ...รู้แล้วไปจินตนาการต่อเอาเองเนาะ

Happy Chinese New Year to you all!


แถมอีกนิดหน่อย เห็นอี๊เจี๊ยบเค้าเล่นขึ้นปก "ม่าซิ่ม" ธีร์เลยขอไปเป็นปกฟอร์จูนบ้าง...ซ้อมไว้ก่อนจะได้รวยๆ ได้ขึ้นปกจริงๆ ตอนโต หม่าม้าเลือกรูปได้ "อิ่ม" มั่กๆ

สวดมนต์

วีดิโอนี้ดูแล้วอาจจะชวนแหวะเล็กน้อย ป๊าเอามือถือหม่าม้าถ่ายมาจากในรถ (ฮั่นแน่ เราสามารถเอาไฟล์จากมือถือมาอัพบล๊อกได้แล้ววุ้ย)

เล่าคร่าวๆ นิดนึง ธีร์ก็นั่งรถ เนื่องจากรถเต็ม กู๋คิมไม่ยอมมาขับรถ ทำให้ธีร์ไม่สามารถเอาคาร์ซีทไปด้วยได้...เพราะกู๋คิมกะอี๊โมจะนั่งไม่ได้ ระหว่างทางกลับบ้าน เกิดอะไรขึ้นซักอย่างทำให้ธีร์ลุกขึ้นมานั่งสวดมนต์อย่างตั้งใจ กู๋คิมที่นั่งข้างๆ สวดด้วย ธีร์ก็บอกว่า "กู๋คิมสึกแล้ว ไม่ต้อง..."ประมาณว่าอย่ามายุ่งได้ป่ะ ธีร์สวดเอง แล้วก็สวดๆ อย่างตั้งใจ ซักพักเหมือนจะเหนื่อย อยู่ๆ ก็บอกว่า "ธีร์สึกละ..." แล้วก็แกล้งหลับเอากะเค้าสิ

ถ้าดูแล้วชวนแหวะมากไป...ฟังแต่เสียงเอาก็แล้วกันเนาะ...

The video clip was captured in the car on the way to Sai4 home last Sunday. In the vdo, Thee was praying. Uncle Kim tried to pray with him but Thee said "Uncle Kim wasn't monk anymore...no need!" and Thee just continued it on his own. Then Thee was bored or something...he said he isn't a monk...and pretended to sleep!

Saturday, February 02, 2008

ก๋วยเตี๋ยวแม่

ไม่ได้อัพบล๊อกหลายวัน...ถูกใส่ร้ายป้ายสีกันไปใหญ่ คอมพิวเตอร์บ้านเรามีหลายเครื่องเฟ้ย...และที่สำคัญมานึกๆ ดูแล้ว หม่าม้าอาจจะรับบาปมหันต์ (ที่ว่าทำคอมฯ เจ๊ง) ไปโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำก็ได้...ตัวการใหญ่อาจจะงุบงิบเงียบไปไม่บอกกล่าวก็เป็นได้...

ที่ไม่ได้อัพบล๊อกอาทิตย์นี้ก็เพราะไม่มีมุขอะไรเด็ดๆ มาเล่าน่ะเซ่

วันอังคารที่ผ่านมา ธีร์ก็กลับไปที่บ้านนครปฐม ไปร่วมงานวันเกิดเฮียปรานต์สุดที่เลิฟ กลับไปคราวนี้ทำให้ธีร์เห็นเค้กทีไร ต้องร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์แบบยานคางทุกที ขอให้เฮียปรานต์สุขภาพแข็งแรง ฉลาดเริงร่าสมวัย ... รูปงานวันเกิดเฮียปรานต์ ขอมอบหมายให้ป๊าเป็นผู้ผลิตและแปะๆ ในบล๊อกมา ณ ที่นี้โตย

วันพฤหัสฯ เราก็หอบกันกลับมาที่บ้านสายสี่ เนื่องจากป๊าเป็นเหยื่อหวัดนก เอ้ย! หวัดผู้ใหญ่รายสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ในบ้านนครปฐม ป๊ากลัวว่าธีร์จะติดหวัด ส่งมาอยู่บ้านสายสี่ไปก่อน วันอาทิตย์คาดว่าป๊าจะหายดีค่อยเจอกันใหม่

วันนี้กง ม่า โมอิ๊ แล้วก็หม่าม้าพาธีร์ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวแม่" ในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มา หม่าม้าจำได้ว่าเมื่อก่อนร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากท่าพระอาทิตย์เท่าไหร่ รู้สึกจะขายดิบขายดีจนเจ้าของตึกแถวไม่ให้เช่าที่ต่อ ต้องอพยพกันมาอยู่ในมหิดลเป็นการถาวร...จริงๆ ร้านนี้เราไปกินกันหลายรอบแล้ว ธีร์เคยไปถูกยุงกัดเท้าจนเท้าปูดตุ่ยไปเป็นอาทิตย์ก็มี วันนี้ได้นั่งโต๊ะริมน้ำ อากาศดี มีลมเย็นๆ พัดมา แล้วหม่าม้าก็รำลึกได้ว่าไม่ได้อัพบล๊อกมานาน เอาเรื่องนี้ก็แล้วกันเนาะ...
โต๊ะก๋วยเตี๋ยวในร้าน
บรรยากาศสวนๆ ท้องร่องๆ น้ำไม่เน่า
ธีร์หันมาให้ถ่ายรูป หม่าม้าบอกให้ทำหน้าน่ารัก นี่น่ารักรึยังครับหม่าม้า?
ของธีร์มาแล้วววว
นั่งรอด้วยใจจดจ่อ
นี่ไง...นมชมพูของธีร์ อร่อย ชื่นนนนนใจ

ถามว่าอาหารอร่อยรึเปล่า...ในความเห็นส่วนตัวของหม่าม้า ก็ไม่ได้โดดเด่นมากมาย พอกินได้ บรรยากาศในร้านเค้าก็ประมาณย้อนยุคเล็กน้อย มีอาหารแปลกๆ อย่างเช่น ปลาแห้งแตงโม (เค้าขายเป็นขนมหวาน...จริงๆ แล้วมันเป็นกับข้าวไม่ใช่เหรอ?) หรือขนมโบราณๆ แบบมะนาวดองห่อๆ ขายด้วย เนื่องจากหม่าม้าไม่เคยกินขนมพวกนี้ตอนเด็กๆ เลยไม่ค่อยอินกะร้านเค้าเท่าไหร่ แหะ แหะ

We went back to Nakornpathom place on Tuesday to celebrate Pran's birthday. (Papa will post the photos soon, I hope!)

Thursday, we came back to Sai4 place. Papa had cold and still not recovered. See you again on Sunday....Hope (again) that Papa will be ok by that time.

Today, we went to had lunch at a noodle shop called "Kuay Tiew Mae (mother's noodle)" in Mahidol University, Salaya. This is not the first time but the weather today is good and we got a good tabel near the water....just nice to take some shots to share with people....