Tuesday, January 30, 2007

หน้าเป็น...

วันนี้หม่าม้าใช้เวลาอัพบล๊อกยาวนานมาก พิมพ์มาแล้วครั้งนึงเมื่อบ่าย ปรากฏว่า publish ไม่ได้ซะงั้น ฮ่วย.. พิมพ์ใหม่

รูปเหล่านี้ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนที่จะไปหาหมอ ถ่ายที่ร้านอาหารชื่อ "สายลม...สายน้ำ" อยู่แถวศาลายา เขียวๆ เป็นทิวนั่นก็คือต้นข้าว นั่งกินไปซักพักก็จะมีรถไฟวิ่งผ่าน เป็นวิวที่ไม่ธรรมดาจริงๆ หน้าตาท่าทางของธีร์ในรูปก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน กู๋คิมกะหม่าม้าถ่ายมาได้ เลยเอามาแบ่งกันดู

ไปหาหมอแล้ว หลักใหญ่ใจความก็ให้คงการดัดเท้า ดึงนิ้วโป้งต่อไป โรคนี้หมอเป็นแค่คนให้คำแนะนำ พ่อแม่ต่างหากที่เป็นหมอลงมือรักษาลูก (สงสัยจะแปลว่าไม่หายก็พ่อแม่นั่นแหละ ไม่ตั้งใจ)

คราวก่อนหมอพูดถึงรองเท้า คราวนี้ทำท่าว่าจะหลงลืม พอหม่าม้าทักเข้าหน่อย หมอก็จัดแจงนัดวัน เวลา ให้เบอร์โทร กะชื่อคนที่ต้องติดต่อที่ศิริราชให้ไปตัดรองเท้าให้ธีร์ได้ เหมือนกับว่าอยากได้เราก็จัดให้ ถ้าหม่าม้าปากหนักไม่ถามก็คงไม่ต้องใส่เหมือนกันนะเนี่ย ตอนนี้หม่าม้ายังตัดสินใจไม่ได้ ป๊าบอกว่าใส่ก็ดีจะได้หายชัวร์ ไว้หลังวันเกิดธีร์ พิจารณา "ทีน" น้อยๆ (ปัจจุบันขนาดน่าจะมากกว่า 11 ซม แล้ว) แล้วค่อยคิดอีกทีละกัน




The pictures were taken last Sunday at a restaurant. Green leaves at the background are rice. Once in a while during our dinner, there were trains passed by. Quite an extraordinary view heh!

The foot doctor we went to see after dinner advised us to continue the foot excercises. Thee's feet got better but not normal yet. The doctor said that bones and tendons problem in babies, mainly, the parents are the doctor...who have to spend their time and enery to cure their child. The doctor will only be the advisor.

Being one's mother is not easy eh!

Sunday, January 28, 2007

ขำกลิ้ง...ลิงกะธีร์


ตั้งชื่อเรื่องไปงั้นๆ แหละครับ ไม่มีไรขำกลิ้งหรอกครับ แต่ลิงกะธีร์น่ะมีแน่ๆ

เมื่อวันศุกร์ธีร์ไปเที่ยวตลาดนัดที่มหาวิทยาลับมหิดล ศาลายามาครับ ไปไม่ไกลแบบนี้ หม่าม้าเค้าอนุญาตให้ไม่ต้องนั่งคาร์ซีทไปก็ได้ จริงๆ ไม่ควร แต่เพราะมันวุ่นวาย แล้วเราก็รีบไปรีบกลับ ไปกันหลายคนอยู่ ธีร์เลยได้เด้งดึ๋งๆ ไประหว่างทาง

ถ้าได้ยืนๆ เกาะๆ ที่นั่งคนขับไปแบบนี้ ธีร์จะชอบจับที่จับด้านบนเหนือประตูมากๆ ไม่รู้ว่าจะหัดขึ้นรถเมล์ไว้แต่เนิ่นๆ หรือไงกันแน่ คราวล่าสุด อี๊โมพยายามจะทำให้ธีร์เลิกเกาะ โดยการเอาตุ๊กตาลิงมาแขวนไว้ แล้วก็เอา writst band มาให้ธีร์เล่น แต่ไปๆ มาๆ ของทั้งสองอย่างกลับกลายมาเป็นอุปกรณ์ช่วยให้ธีร์ไม่ต้องเอื้อมแขนป้อมๆ ไปสูงมาก เลยเป็นอย่างที่เห็นในรูปนี่แหละครับ...

อ้อ...จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ดไปนะครับ เจ้าของรถเค้าเห็นทั้งลิง ทั้ง writst band แบบนี้ เค้าต้องรู้แน่เลยครับว่าเราเอารถเค้าไปซิ่งหางหยอยๆ เล่นกันระหว่างที่เค้าโกอินเตอร์ จริงๆ แล้วเราช่วยเค้าหรอกครับ กลัวเค้ากลับมาแล้วรถสตาร์ทไม่ติด อิ อิ อิ

Auntie Mo's new invention to keep Thee busy during his ride to Friday market at Mahidol University, Salaya.

เปลใคร


เปล (แบบนี้เค้าเรียกเปลกันใช่ไหมเนี่ย ชักสับสน) อันนี้มีที่มายาวไกลยิ่งนัก อากงบอกว่า มันทำด้วยไม้สัก สมัยนี้คงหาแบบนี้ไม่ได้แล้ว ไม่รู้เพราะมันเป็นแบบเก่ามาก หรือว่าสมัยนี้เค้าไม่ทำเปลเด็กด้วยไม้สักก็ไม่รู้ มีความทนทานเป็นยอด เพราะเจ้าของคนแรก กับเจ้าของคนล่าสุดเข้าไปรวมกันอยู่ในเปลได้ด้วย....

ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบ เปลอันนี้เป็นเปลสมัยแรกเกิดของหม่าม้านั่นเอง ถือเป็นมรดกตกทอดของตระกูลเลยก็ว่าได้ (ว่าไปนั่น) ในครอบครัวฝั่งของหม่าม้า ถ้านับรุ่นเดียวกัน หม่าม้าเป็นคนแรกไปถึงคนสุดท้าย (สงสัยคงไม่มีเพิ่มอีกแล้วมั้งนะ) อายุห่างกัน(หลาย)สิบปีอยู่ (อย่ารู้เลยว่ากี่สิบ 555) ส่วนใหญ่ก็ผ่านเปลนี้มาแล้วทั้งนั้น

ส่วนธีร์นั้นถือเป็นอีกรุ่นนึงแล้ว ธีร์เป็นเจ้าของคนล่าสุด แล้วอย่างงี้จะเรียกเปลนี้ว่าเป็นเปลของใครดีล่ะเนี่ย...

This crib is an antique and has long history. It made of teak wood (by grandpa's word). The picture shows the first and the latest owner of it. ha! ha! ha! Yes, mama is the first owner of this crib...and it was handed down in her generation....90% of Thee's aunties and uncles on mama's side used to sleep in this crib before. Thee is counted as another generation and be the latest owner! Then, whose crib it should be!

Wednesday, January 24, 2007

เรียบโร้ยยยยย

555 ในที่สุด น้ำลูกพรุนที่หม่าม้าให้ธีร์กินไปตอนเที่ยงครึ่งก็ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องพาธีร์ไปขึ้นรถคันไหนแต่อย่างใด (ธีร์เค้าชอบไปอึในรถ ไปใกล้ไปไกล ธีร์ก็อึทุกเที่ยว ไม่รู้ว่าคิดยังไง คาร์บอมม์ของแท้ต้องธีร์เท่านั้น)

พอพาธีร์ไปล้างก้นเสร็จ ตุ๊แหน่วววว เสื้อก็เลอะวุ้ย ป๊ากลับมาพอดี เลยได้รูปนู๊ดเด็กมาฝากดังนี้


หลังจากที่เรานู๊ดดี้กันอยู่ซักพัก ธีร์ก็กลับมากินนมต่อ (กะมะขิ่น หน้าตาบ้านนอกบ้านนาจริงๆ)

กินนมไป ต้องมีของเล่นไปด้วย คราวนี้มาแรง เล่นแว่นขยาย (ว่าไปงั้น จริงๆ มะขิ่นแหละ หยิบให้ธีร์เล่น)

แล้วมันก็หล่นใส่ธีร์ ใต้คิ้วด้านขวาของธีร์ บวมฉึ่งขึ้นมาเล็กน้อยพองาม

เลิกๆ ไม่เล่นแว่นขยาย อ้ะ เอารีโมตของเลิฟของธีร์ไป...ปุ้ก...หล่นใส่กลางดั้งธีร์อีกรอบ
ยับเยินๆ จริงๆ แล้วก็หลับไปพร้อมน้ำตา...

Yeah...Finally, Thee made it (baby poo without h at the end!). This is why we have nude baby. After change diaper and cloth, we returned to finish the milk...Thee has to have something interesting in his hands while he drinks his milk....and both things in the pictures above hit his face. All the blames go to mama for giving them to Thee!

เรื่องกลุ้มของหม่าม้า...ช่วงนี้




ธีร์ไม่อึมาสองวันแล้ว ตั้งแต่เป็นแม่ธีร์มา เรื่องกลุ้มใจก็มีหลายเรื่อง เช่น เรื่องนอนไม่นอน เรื่องกิน ไอ้นั่นก็ไม่กิน ไอ้นี่ก็ไม่กิน เห็นของกินของคนอื่นแล้วน้ำลายไหลติ๋งๆ อีกเรื่องก็คือเรื่องอึนี่แหละ อึหลายครั้งก็เครียด ท้องเสียรึเปล่า ไม่อึเลยก็เครียด ทำไมไม่อึฟระ ถ้ายังไม่อึอีกต่อไป จะทำไงดีเนี่ย...ส้มก็กินไปหลายแล้ว น้ำส้มคั้นเอย ส้มเล็กของเมืองจีนที่ธีร์กินได้ทีละกลีบเอย...สงสัยบ่ายนี้ถ้ายังไม่ได้เรื่อง ต้องเจอกันกะน้ำลูกพรุนซะหน่อย

ป.ล. อย่าส่งเสียงดังให้อากงกะอาม่าที่สายสี่ได้รู้นะว่าธีร์ไม่อึ เดี๋ยวเค้าจะร่วมมือกันสวน-ทะ-วานน้อยๆ ของธีร์เป็นที่น่าสงสารยิ่งนักอีก...

Thee doesn't have bowel movement for two days. Sound disgusting huh! Since I became a mama of this big boy, there are so many things to worry about such as food, sleep and bowel movement! Several bowel movements ...diaarhea? Not producing any....why why why?

Monday, January 22, 2007

เป็ด




ธีร์ล่ะไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของหม่าม้าเลยครับ เค้าจะทำแบบนี้ไปทำไม สงสัยไม่มีอะไรจะทำ เล่นเองขำเองคนเดียว...เบื๊อเบื่อครับ มีแม่ต๊องๆ แบบนี้

เห็นเม็ดๆ ข้างๆ เป็ดมั้ยครับ ฝีมือหม่าม้าอีกนั่นแหละ แอร์ในห้องหม่าม้าที่บ้านสายสี่เสีย ต้องหอบหิ้วธีร์ไปนอนห้องน้าบีกลางดึก สงสัยเดินเข้าไปพร้อมยุงหลายตัว หัวธีร์เลยพรุน กลายเป็นสิวเด็ก เอ้ย! รอยยุงกัดปรุ หมดหล่อไปเลย ไม่ได้มีแค่ 2 เม็ดนะครับ ที่หน้าผากธีร์มี 5 เม็ดแน่ะ แต่ที่หม่าม้าเค้าสงสัยสุดๆ คือ ตรงต้นขาธีร์ก็มีรอยยุงกัดด้วย 2 เม็ด ไม่รู้ยุงมันกัดได้ไง ผ้าห่มก็ห่มกันมิดชิด หม่าม้าต้องห่มผ้าให้ธีร์พร้อมกับขังยุงไว้ด้วยแหงเลยครับ

(หลังจากที่กู๋คิมมาดูบล๊อกเมื่อคืนวาน กู๋คิมบอกมาทาง msn ว่าจริงๆ แล้วไอ้จุดๆ 2 อันที่หน้าผากธีร์น่ะ "ขี้เป็ด" แป่ววววววว)

Thee just don't understand why Mama has to put this little ducky on his forehead!

That two little pimples on Thee's forehead is also because of Mama. Last Friday, the air-con in Mama's room broke down. Two of us had to move to Auntie Be's room. Mama probably let so many mosquitos in with her...as a result, Thee got five bites on his forehead and two on his leg...The bites on the leg are strange because Thee was wearing bodysuit and Mama put a blanket over Thee....how the mosquito got in to bite Thee!?!

(After Uncle Kim seen this update last night, he told Mama in msn that...the two spots are not pimples. They are ducky poo!!!)

Sunday, January 21, 2007

มันคือ....

วัตถุสีชมพูในมือเล็กๆ ของธีร์คืออารายยยยย (What is in Thee's hand???)

มันคือ ไมโครโฟนของเล่นนั่นเอง หน้าตาธีร์มีฟามสุขเป็นอย่างยิ่งที่ได้ถือไมโครโฟนสีชมพูอันนี้ เหอ เหอ เหอ (It is a pink microphone toy- ...Thee looks sooooo enjoy it! ha!ha!ha!)

เห็นวิวด้านหลังอาจจะพอเดาได้ว่าธีร์ไปเที่ยวที่ไหนมาเมื่อวันเสาร์เย็นๆ ช่วงนี้ธีร์ติดเที่ยวมากๆ เอะอะก็ร้องงอแง พยายามเอื้อมแขนป้อมๆ ไปที่ประตูหรือไม่ก็พยายามจะชี้ไปทางประตู จะให้พาออกไปเที่ยวนอกบ้าน ไม่หวั่นไหวกับสภาพอากาศที่จะทำให้หมูระอุ หรือที่จะทำให้แก้มกลมๆ ของธีร์เปลี่ยนสีจากขาวเป็นชมพู เหมือนทาบลัชได้อย่างรวดเร็ว (จริงๆ แล้วหม่าม้าแต่งหน้าให้ธีร์ตลอดเวลา ทาอายไลน์เนอร์กะบลัชออนให้ตลอด 555)

ก็ไม่รู้ไปได้นิสัยชอบออกนอกบ้านมาจากครายยยย สงสัยได้มาจากหม่าม้านั่นเอง เนื่องจากตอนท้อง ถูกหมอสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน ป๊าก็ปฏิบัติตามคำสั่งหมออย่างเคร่งครัด ทำให้หม่าม้าเก็บกด และคงทำให้ธีร์เก็บกดไปด้วย ต้องหาเรื่องออกไปเที่ยวตลอด (มีเหตุผล มีเหตุผล)

นอกจากจะชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้ว ธีร์ก็ยังฤทธิ์มาก แหกปากและดีดดิ้นได้อย่างรุนแรงตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น (11 กิโลกรัมแล้วครับผม เจี๊ยกกกก....เมื่อไหร่ธีร์จะเดินเองได้ซะที)

ธีร์ไปหาหมอมาเมื่อวันเสาร์ เพราะเป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลนานเกือบอาทิตย์แล้วไม่หายซักที หม่าม้าถูกกดดันให้พาธีร์ไปหาหมอ ได้เสียเงินอีกซัก 500 บาทไทยสบายใจกันทุกคน (ส่วนหม่าม้าก็สบายกระเป๋า กระเป๋าไม่อึดอัดไปด้วยเงิน เหอ เหอ) วันรุ่งขึ้นน้ำมูกก็ไม่ไหลแล้ว ทั้งๆ ที่กินแค่ยาละลายเสมหะไปครั้งเดียว ไม่รู้ว่าธีร์ใกล้หายแล้ว หรือยาคุณหมอดี๊ ดีกันแน่...เนาะ

Recently, Thee really likes to go outside. He always points his arm toward the door and tries to lure whoever close-by to take him outside for a walk....no matter how hot it is out there.

It used to be that Thee quite scares when he goes outside...not anymore. Thee probably takes this after his mama. At early stage of pragnancy, mama was in some condition called "threaten abortion" and only two things can be done at that time: eat and sleep at home. Mama probably depressed too much and this affects Thee as well!?! It might explains why Thee loves to go out that much recently. (Really???)

BTW, Thee is now 11 kgs. We took him to see the doctor on Saturday. He caught cold for a week and no sign of recovering. Everyone kept telling mama to take Thee to the hospital....it ended up that mama had to pay 500 baht (for peace of mind?) and Thee suddenly got better on the next day! It must be that the doctor and the medicine are real good! (Mama is trying real hard to console herself!!!)

Wednesday, January 17, 2007

ป๊ากะธีร์ครับ


ดูท่าธีร์ซะก่อน เอี้ยวจนเกือบมีเอวแน่ะ
ไม่รู้คราวนี้ป๊าจะป๊อด (น่าจะเป็นคำย่อของคำว่า ปอดแหก) อีกรึเปล่า เปลี่ยนรูปธีร์กะป๊าไปเป็นรูปอื่นๆ แทน (เหมือนคราวก่อน)

รูปพวกนี้ถ่ายเมื่อบ่ายนี้เอง หม่าม้าว่ามันก็น่ารักดี เว้นเสียแต่ป๊าจะรับความอ้วนของตัวเองไม่ได้ ริ้วรอยบนใบหน้าหม่าม้าทำการลบเลือนให้แล้ว (จริงใจ จริงจริ๊งเลยตรู)

[ป๊าเดินมาแอบมาอ่านแล้วบอกว่าให้ทำหน้าตอบให้ด้วยสิ แหม๊...ว่าแล้วป๊าก็เดินไปทอดไส้กรอกกินตอน 5 ทุ่ม เอากะเค้าสิ]

รูปเลือกมาแต่หน้าตาธีร์ยิ้มแย้ม แต่จริงๆ ธีร์กำลังอารมณ์บ่จอยสุดๆ อยากให้ป๊าพาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน แต่ป๊าจะรีบออกไปธุระ ธีร์ก็เลยงอแงหงุงหงิงสุดๆ สงสัยนอนไม่พอ เพราะตี 3 คืนก่อนหน้าตื่นมาร้องไห้งอแงโดยไร้สาเหตุอยู่เป็นชั่วโมง คืนนี้อย่าตื่นมาอีกนะอ้วนนนนน ม้าเหนื่อย

Thee and his papa. Photos are taken today...afternoon. Last time I tried to put photos of Thee and his papa on this blog, Papa couldn't believe how "large" his face can expand and decided to change the photo to Saint Seiya Thee....Have to wait and see whether this second attempt will last as long as it should be or not!!!

Tuesday, January 16, 2007

กลับบ้านซักที

และแล้วธีร์ก็ได้ฤกษ์กลับบ้านที่นครปฐมมาอยู่กะป๊าซักทีครับ อาทิตย์นี้กลับมาวันอังคาร เพราะเมื่อวานป๊ากะม้าได้รับตั๋วฟรีจากธนาคารให้ไปดูลุงอีริค แคลปตันที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เราก็เลยค้างอยู่ที่บ้านสายสี่กัน

เล่าถึงเรื่องคอนเสิร์ตซักกะหน่อย ป๊ากะม้าไม่ได้เป็นแฟนเพลงของลุงอีริคเค้าหรอกครับ เห็นว่ารู้จักอยู่แค่ 2-3 เพลงเท่านั้นเอง แต่เห็นว่าบัตรฟรี เลยไปดูเป็นขวัญตาซักกะหน่อย เท่าที่ธีร์แอบฟังป๊ากะม้าคุยกันทางโทรจิต ลุงเค้ามาแสดงคอนเสิร์ตอย่างจริงจังมากครับ ไม่ค่อยคุย เล่นเพลงอย่างเดียว เปลี่ยนกีตาร์ไปประมาณร้อยตัวเห็นจะได้ สมกับเป็นนักกีตาร์ระดับโลกเจรงๆ

ที่นั่งดูคอนเสิร์ตของป๊ากะม้าก็ไม่ค่อยไกลครับ เห็นบอกว่าลุงอีริคสูงประมาณ 2 เซ็นติเมตรจากมุมที่นั่งดู นี่ถ้าเราเป็นลูกหนี้ธนาคารมากกว่านี้ ลุงอีริคอาจจะตัวโตขึ้นเป็นประมาณ 5 หรือ 10 เซ็นติเมตรก็ได้ 555

กลับมาเรื่องของธีร์ดีกว่านะครับ เราไม่คุยเรื่องป๊ากะม้าที่ทิ้งธีร์ไปอย่างไม่ใยดีกันแล้ว

เนื่องจากธีร์ยังเป็นเด็ก ม้าเค้าว่าธีร์สามารถใช้มือและเท้าได้ดีเท่าๆ กัน ดูรูปสิครับ มือเอื้อมไม่ถึงลูกโป่ง เท้าก็ไปด้วย...พยายามจริงๆ
พอกลับถึงบ้าน นอนหลับไปซักตื่น หม่าม้าก็ให้มานั่งเล่นรถ แล้วก็เห็นว่าแดดส่อง คิดว่าถ่ายรูปแล้วจะสวย รูปก็ออกมาประมาณมืดเท่านี้แหละครับ เลยเอามาแบ่งๆ กันดู

ช่วงนี้ธีร์เป็นหวัด ขี้มูกย้อย ดื้อรั้นไม่ยอมให้จับจมูก เช็ดหรือดูดน้ำมูก ล่าสุด หม่าม้าไม่รู้จะทำไง ต้องใช้วิธีสุดท้าย เอาปากหม่าม้านี่แหละดูดขี้มูกธีร์ออกมา (อืมมม ฟังดูอี๋ๆ ใช่มะ แต่ว่าทำไปแล้วอ่ะ) ธีร์ร้องไห้แทบตาย ไม่รู้ตกใจ กลัว หรือว่าไงก็ไม่รู้ สะอึกสะอื้นอยู่นาน ต้องปลอบนานเป็น 2 เท่าของการดูดน้ำมูกถึงจะหาย โอมเพี้ยง ธีร์จงหายหวัดเร็วๆ (เพราะหม่าม้าไม่อยากดูดน้ำมูกธีร์ มันเค็มมมมมม)





We just came back from Mama's home at Phuttamonton Sai 4. Yesterday Papa and Mama left Thee with Grandma and Aunt Mo to see Eric Clapton's concert.

Thee came back, slept about an hour and woke up to play his car! Mama thought that the light is good....Photos taken looks like those above....dark!!!

Saturday, January 13, 2007

จับฉ่ายหลายๆ เรื่อง

หม่าม้าให้ธีร์ฉลองวันครบ 10 เดือนด้วยการกินวิปครีมอย่างเอร็ดอร่อย 555 ธีร์ชอบม๊าก มาก ครับ อร่อยกว่านมหม่าม้าตั้งเยอะ หวานมัน หวานมัน นี่ก็รออยู่ครับว่าเมื่อไหร่หม่าม้าจะกินชอคโกเลตเย็นอีก ธีร์จะได้กินวิปครีมอีก

Thee celebrated his 10 months with whipped cream. It seems that he really like it. Have to wait until Mama has her next iced chocolate!
รูปล่างนี่ถ่ายเมื่อคืนนี้เอง ก่อนธีร์นอน ตอนแรกหม่าม้าตั้งใจว่าจะโชว์ว่าธีร์เค้าวัยรุ่น ใส่เสื้อหลายๆ S แบบนักศึกษาสาวได้ด้วย ถ่ายออกมาไหงกลายเป็นธีร์จะบีบคอหม่าม้าไปซะได้ก็ไม่รู้ (วิปครีม วิปครีมอยู่หนายยยยย....)

This dark photo was taken last night. Looks like Thee tried to reach for Mama's neck and command for more whipped cream!

ส่วนนี่ เป็นท่านอนสุดเดิ้นของธีร์เอง ท่าทางนอนสบาย หลับอย่างเป็นสุข ทั้งๆ ที่นอนทับหมอนข้างของตัวเองอยู่แท้ๆ

Here is Thee's very comfy sleeping pose!


ปิดท้ายกันด้วยรูปถ่ายวันปีใหม่ มีลำแสงวิ้งๆ ของตอนเช้าหลังตักบาตรด้วย นานๆ จะมีรูปแบบนี้ที หม่าม้าเพิ่งไปขุดออกจากมือถือ เอามาโชว์ซะหน่อย จบด้วยความนุ่มนวลคร้าบผม

End this post with a photo taken on New Year's morning. As we never wake up early enough to catch the early morning with soft sun, this is the good start for year 2007!

Wednesday, January 10, 2007

หก ตก หล่น

และแล้วหม่าม้าก็อัพบล๊อกเป็นครั้งที่ 3 ของวันนี้ อัพมันเผื่อไว้เลยละกัน เผื่อมีใครคิดจะทวงให้อัพบล๊อกซักที จะได้อ้างได้ว่าอัพแล้วตั้ง 3 ครั้งแน่ะ

ป๊าเองก็ช่างกระไร แทนที่จะช่วยๆ กัน ดันทวงด้วยเหมือนกันซะนี่ว่าเมื่อไหร่จะอัพบล๊อก...อ้าว อ้าว อ้าว

ช่วงนี้ธีร์เค้าฮิตทำของตก พอทำตกแล้วก็มองเมียง เมียงมอง หม่าม้าคาดว่าธีร์คงพยายามใช้พลังจิตเก็บของขึ้นมาจากพื้นอยู่เป็นแน่แท้

เริ่มต้นด้วยการยืนในเปลอย่างมั่นจายยยยย

พอยืนได้พักนึง เราก็ลงไปนั่งใหม่ เอาอะไรดีน๊า

หาของติดไม้ติดมือขึ้นมาได้แล้ว เราก็ยืนขึ้นมาใหม่

แกว่งซ้าย แกว่งขวา ลั๊นลันลา

อ้าว หล่นไปซะละ จงขึ้น จงขึ้น จงขึ้น

เพื่อเป็นการยืนยันว่า พฤติกรรมเยี่ยงนี้ไม่ได้เป็นแค่ครั้งเดียว สองรูปล่างนี่คือหลักฐานจ้า

เมื่อตอนเย็น ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ซ้อมดึงเอาก้านมะยมมาทำความคุ้นเคยกันไว้ก่อน...

มันหล่นไปแล้วครับม้า....มันหล่นอยู่ที่พื้นครับม้า ธีร์เห็น
(แม่โหด: ไม่เอาอ่ะ ไม่เก็บแล้ว ทิ้งมันไว้ที่พื้นนั่นแหละธีร์)

Thee often drops things on the floor and keeps on watching it. I guess that he is practising his telepathy skill!

กระต่าย/แกตาย

ธีร์คร๊าบบบบ นี่ๆ กระต่ายหูยาว เพื่อนหม่าม้ากะป๊าส่งของขวัญปีใหม่มาให้ มีของธีร์ด้วยครับ

เหรอครับม้า...หน้าตามันดูน่าอร่อยดีเหมือนกันนะครับ หงึกๆ เดี๋ยวธีร์เคลื่อนตัวไปครับ

ฮึบๆ ถึงแล้วครับม้า แล้วไงต่อครับ กินได้เลยมั้ยครับ

จบกันดื้อๆ แบบนี้แหละครับ ตั้งชื่อให้ดูโหดร้ายไปงั้นๆ จริงๆ ไม่มีไรครับ ธีร์คว้าได้ก็ปาลงพื้น ไม่รู้จะดิ้นรนกระดืบๆ มาหยิบทำไม๊ 555

Thee! A little bunny from mama+papa's friend for you!
OK! OK! I am coming mama...Bunny! wait for me na...
Here I got it...what should I do with it...is it edible? No?...
(then the poor bunny went to the floor!)
EOC.

Tuesday, January 09, 2007

ไม่กิน

ธีร์จะเล่าให้ฟังครับ....


เมื่อวานนี้ ตอนเกือบๆ เที่ยง หม่าม้าทำซีรีแล็คข้าวกล้องใส่ไข่ต้มให้ธีร์กินครับ กินไปได้นิดหน่อย ธีร์ก็ไม่อยากกินแล้ว...ทีหม่าม้ายังไม่กินอาหารแบบธีร์เลย ทำไมธีร์ต้องกินเยอะๆ ด้วยใช่มั้ยครับ...

ขั้นแรก เราก็ต้องบ่ายเบี่ยงก่อน แต่มุขนี้ใช้หลายทีแล้ว ไม่ได้ผล ขั้นต่อไป เราก็ปล่อยน้ำตาเม็ดๆ ไหลออกมาซักเม็ด พร้อมกับทำน้ำลายฟูมปากด้วยเล็กน้อย ดูน่าสงสารแล้วใช่มั้ยครับ กับป๊า มันเวิร์คหน่อยๆ แล้วครับ แต่กับนังแม่ใจยักษ์ของธีร์ มันไม่ได้ผลครับ ป๊าช่วยธีร์ม่ายด้ายยยยย


ขั้นที่สาม มุขน่าสงสารไม่ได้ผล เราก็ต้องแว้กหม่าม้า ทำหน้าตารังเกียจคนใจโหด...แต่มันก็ไม่ได้ผลอยู่ดี สรุปกินข้าวเคล้าน้ำตานี่ ไม่อร่อยเลยครับ


Thee doesn't like his lunch really much. First he tried to act pity which is not work with his cruel mama....then he switched to mad mode. That also didn't work, my dear! You have to finish your meal!!! (What's a cruel mama!)

Tuesday, January 02, 2007

วันเกิดอาม่าปีใหม่...???

วันปีใหม่นี้เป็นวันปีใหม่ครั้งแรกของธีร์ แล้วก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของอาม่าด้วยครับ (คนที่อุ้มธีร์อย่างแข็งขันนั่นแหละครับ) เริ่มต้นด้วยการไปพุทธมณฑลใส่บาตรตอนเช้า แล้วก็รับพรจากพระครับ


พอใส่บาตรเสร็จ ก็กินนมระหว่างทางเดินกลับไปที่รถ ดูสิครับหม่าม้าต้องอุ้มไปป้อนนมธีร์ไป ก้นห้อยเลยครับ


กลับบ้านแล้ว ก็ออกมาใหม่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดอาม่าด้วย (สุขสันต์วันเกิดปีใหม่ครับอาม่าครับ) อากง กู๋คิม อี๊โม แล้วก็หม่าม้าก็เลยไปอยุธยา ไปกินข้าวเที่ยงกันที่นั่น อันนี้เป็นรูประหว่างรออาหารมา อี๊โมกะธีร์ทำหน้าตารอกินกันอย่างจริงจัง

พอกินเสร็จอี๊โมก็พาธีร์ไปเดินเล่น หัวธีร์เก๊าะกลายเป็นหัวช้างไปซะนี่

จากนั้นก็ไปเที่ยวกันต่อที่วัดไชยวัฒนาราม อากาศร้อนมั่กๆ ครับ และเนื่องจากเราลืมเอารถเข็นไป ทุกคนก็ต้องผลัดๆ กันอุ้มชูธีร์ ทำให้อากาศร้อนเริ่มเลวร้ายลงไปเล็กน้อย และไม่มีอารมณ์จะละเมียดถ่ายรูปตามที่กู๋คิมต้องการ (มือนึงอุ้มธีร์ไปอีกมือก็ถือกล้องถ่ายรูปไปด้วยเซ่ จะได้รู้ว่าละเมียดกันม่ายหวายยยย)



กลับจากอยุธยา เราทุกคนก็ไปเยี่ยมอาเหล่าม่ากันอีกที เอาของไปฝาก แล้วก็ไปกินข้าวเย็นกัน (ทำไมมันกินกันท๊างวันแบบนี้นะ) ที่บ้านน้ำเคียงดิน

อี๊โมป้อนน้ำมะนาวให้ธีร์ชิม....หน้าเปรี้ยวเป็นแบบนี้ครับ

หมดแล้วครับ วันปีใหม่ของธีร์ รูปล่างนี่ไม่รู้ธีร์มีวัตถุประสงค์อะไรในการทำหน้าตาแบบนี้ให้กับหม่าม้ากันแน่ สงสัยทำไปด้วยความรักอันสุดซึ้ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า

On the new year day which is also grandma's birthday, Thee went to offer foods to the monks at Bhuddhamonthon in the morning. Then we went to Ayuddhaya to have lunch, to Wat Chaiwattanaram to walk around for a while amid the heat of early afternoon sun! In the evening after went to see great grandmothers and great grandpa, we had dinner! What an eating day! Happy New Year again! xxx (from Thee!)