Monday, October 27, 2008

เด็กชายธีร์ รักเรียน

27 ตุลาคม 2551 ธีร์เริ่มต้นชีวิตตั้งแต่ก่อน 7 โมงเช้า ง่วงก็ง่วง แต่ก็ถูกหม่าม้าจับไปแปรงฟัน อาบน้ำ กินอาหารเช้า เตรียมตัวไปโรงเรียน

กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เราก็ต้องออกกำลังกายระหว่างดูการ์ตูนไปด้วย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พร้อม....ไปโรงเรียนวันแรก
ออกจากบ้านประมาณ 8.15น. ไปถึงโรงเรียนตอน 8.30น. คุณครูให้ไปเล่นในบ้านเล็กๆ รอเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ

ระหว่างที่ลูกปูน้อยรายอื่นๆ ถูกต้อนไปเข้าแถว สมธีร์ของเราก็ถูกจูงออกมาพร้อมกับสาวน้อยชุดแดง (ทราบชื่อภายหลังว่าน้องมายด์) ไปยืนหน้าเสาธง ไปเชิญธงชาติ ตอนแรกทั้งคู่อิดออดไม่ยอมยืนตรงนั้น เพราะว่า....พื้นเปียก
น้องมายด์พยายามหลบหนีคุณครูไปหาคุณแม่อย่างแข็งขัน (ที่ใส่เสื้อเหลืองยืนอยู่คนเดียวในรูป ถัดจากธีร์...555 น้องมายด์หาแม่ไม่เจอ) ส่วนธีร์...ดูซูมเท้าได้ แสดงความรังเกียจพื้นเปียกอย่างเห็นได้ชัด เขย่งสุดชีพ!!!
แต่หลังจากที่หม่าม้าเข้าไปช่วยคุณปูจัดการลูกปูน้อยเสื้อเหลืองด้วยการชักธงชาติขึ้นให้ดูว่าธงมันขึ้นสูงไปได้นะธีร์ ธีร์ก็ไม่ยอมปล่อยเชือกอีกเลย พอเพลงชาติขึ้นได้ไม่ถึง 2 ประโยค...ธงชาติที่ธีร์กะมายด์ช่วยกันชักก็ลอยละลิ่วขึ้นสู่ยอดเสาไปซะแล้ว (แม่น้องมายด์หันมาบอกธีร์ให้ชักธงช้าๆ หน่อยสิครับ แต่ไม่ทันการณ์ซะแล้ว)
เข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จแล้ว ก็มีการร้องเพลง เต้นเข้าจังหวะเล็กน้อย จากนั้นเด็กๆ ก็ต่อแถวเป็นรถไฟไปห้องน้ำกัน คุณครูร้องเพลง "รถไฟไม่ใช่รถเจ๊ก (หรือรถเล็กหว่า) มันทำด้วยเหล็กฉึกฉัก ฉึกฉัก" ประกอบการเดินไปห้องน้ำ ห้องน้ำก็พื้นเปียกอีกนั้นแหละ แถมคนเต็มห้องน้ำอีกต่างหาก ทั้งเด็ก ทั้งครู ทั้งพ่อแม่บางส่วน พอธีร์เข้าขบวนรถไฟไปถึงห้องน้ำ ก็เขย่งเท้าออกมาจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่ฉ่งไม่ฉี่กะใครทั้งสิ้น เปียก...แฉะ เราไม่ชอบ
ต่อแถวรถไฟกลับห้องเรียน คราวนี้คุณครูให้นั่งล้อมวง จุดเทียน สวดมนต์ ไหว้พระ แนะนำตัว ซึ่งธีร์ก็นั่งสังเกตการณ์อย่างตั้งใจ แต่ไม่ร่วมมืออย่างเต็มที่ คุณครูให้แนะนำตัว เริ่มที่ธีร์คนแรก ธีร์ก็ไม่พูด คุณครูให้เอามือแตะหัว แตะไหล่ แตะเข่าและเท้า ธีร์ก็จับทีนึงแล้วก็สะบัดมือคุณครูออก (คนที่นั่งกะธีร์คือคุณครูยุ้ย เป็นครูประจำชั้นของธีร์...เท่าที่ได้ยินมาว่างั้น) สิ่งที่ธีร์ร่วมมือและเสนอหน้าไปทำอย่างตั้งใจอย่างนึงก็คือ ตอนคุณครูบอกว่าใครอยากเป่าเทียนให้ดับบ้าง ธีร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณครูก็ทำท่ากระตือรือร้นที่จะเป่าเทียนอย่างแข็งขัน...ไม่อยากบอกว่าอันนี้เราทำกันบ่อยๆ ที่บ้าน ธีร์ชอบเป่าเทียนวันเกิด วันไหนๆ ที่มีเค้ก วันนั้นก็เป็นวันเกิดธีร์ ส่วนป๊าที่นั่งสังเกตการณ์ธีร์อยู่ข้างนอกกระซิบกะป๊าว่า ดีนะที่มันไม่ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก่อนเป่าเทียน 555หลังจากนี้คุณครูก็ให้เด็กๆ ไปเล่นของเล่น วาดรูป เท่าที่ดู เด็กๆ ก็มีอายุประมาณธีร์ และน้อยกว่า บางคนแค่ 2 ขวบเองมั้ง อีกหลายคนก็ตัวเล็กเกินธีร์ไปเยอะ หม่าม้าก็เดาไม่ถูกว่าอายุเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ในห้องเป็นเด็กผู้หญิง ธีร์นี่ก็จัดว่าอยู่ใน top 5 ของเด็กที่ตัวโตๆ ในห้องเรียน (หม่าม้าล่ะหวั่นใจว่าธีร์จะไปรังแกเพื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ)

เนื่องจากอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ของการปรับตัว โรงเรียนจะเริ่มตอน 8.45 และเลิกตอน 10 โมง...วันนี้ธีร์ทำได้ดี ไม่ร้องไห้ มีมองหาหม่าม้าบ้างในช่วงแรกๆ หลังๆ ก็ไปหาของเล่นเอง เล่นกับคุณครูบ้าง บอกคุณครูว่าปวดฉี่ได้ แต่ไปห้องน้ำไม่ทัน เปียกไประหว่างทาง

ไปโรงเรียนสนุกมาก 10 โมง คุณครูปล่อยนักเรียนให้กลับบ้านได้ แล้วบอกให้มาเจอกันใหม่พรุ่งนี้ เด็กคนอื่นๆ ก็กลับบ้านโดยดี มีธีร์นี่แหละที่แหกปากระหว่างทางที่ถูกลากไปขึ้นรถ..."ธีร์ไม่กลับบ้าน ธีร์จะอยู่ที่โรงเรียน ธีร์ไม่ไป ธีร์จะอยู่นี่"

ไงล่ะ สมฉายา เด็กชายธีร์ รักเรียนมั้ยล่ะ

ป.ล. น้าหญิง ณ ลอนด้อนค้าบ...ได้รับอีแมวที่หม่าม้าส่งไปรึเปล่า ส่งข่าวด้วยค้าบ...ว่ายังอยู่ดี อย่าทำเฉยเป็นปักกิ่ง!!!

Tuesday, October 21, 2008

โรงเรียน

วันศุกร์ที่แล้ว ศูนย์เด็กเล็ก ที่ราชภัฏนครปฐมโทรมาบอกป๊าว่า วันอังคารที่ 21 08.30 น. ให้ไปที่โรงเรียนพร้อมสูติบัตร และทะเบียนบ้านของธีร์ ไปสมัครเรียน+มอบตัว

ป๊าโทรมาบอกหม่าม้า หม่าม้าได้ยินครั้งแรกก็ตกใจ เฮ้ย! ธีร์จะไปโรงเรียนแล้วเหรอ ยังไม่ได้ทำใจเลย ถามรายละเอียดอื่นๆ ป๊าก็บอกว่า เค้าบอกมาแค่นี้

วันเสาร์ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็โทรมาบอกหม่าม้าว่า ให้เอาเงินติดตัวไปด้วยจำนวนหนึ่ง ไปจ่ายค่าเทอม และค่าบริการ พอหม่าม้าตั้งท่าจะถามรายละเอียด เค้าก็บอกว่า วันอังคารมาแล้วจะบอก

หม่าม้าคุยกะป๊าแล้วก็งงๆ กันทั้ง 2 คน ยังไม่รู้เรื่องอะไรเล้ยยยย เอาไงดี (ฟระ) ป๊าบอกไปดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่โอเคเราก็ไม่เรียน (ง่ายๆ กันแค่นั้นเอง)

วันนี้วันอังคาร เรา (แหกขี้ตา) ตื่นกันมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า เตรียมตัวไปโรงเรียน ก่อนไปมีการวุ่นวายหาเอกสารเล็กน้อย ถึงกับต้องรบกวนโมอิ๊ที่ยังทาหน้าเป็นพม่าเข้านอนอยู่ ให้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงลงไปส่งอีเมล์ไฟล์ทะเบียนบ้านของธีร์มาให้หม่าม้า

ก่อน 8.30 น. เล็กน้อย เราไปถึงโรงเรียนเป็นคนแรก ไปถึงไม่พูดพล่ามทำเพลง เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้กรอก หน้าแรกเป็นการเซ็นยินยอมว่าเราจะไม่แทรกแซงการเรียนการสอน อนุญาตให้เค้าดูแลลูกเรา ฯลฯ หน้าต่อไปเป็นการกรอกรายละเอียดส่วนตัวของเด็กๆ ว่านิสัยส่วนตัวเป็นไง พฤติกรรมการกิน การนอน และอื่นๆ อีกมากมาย) พอกรอกเสร็จเจ้าหน้าที่ก็ให้ย้ายไปจ่ายเงิน...เฮ้ยยย อารายกาน เรายังไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยนา

เราก็เลยต้องสอบถาม ได้ความว่า วันจันทร์ที่จะถึงนี่ธีร์จะต้องเริ่มไปโรงเรียนแล้ว จากเดิมที่คิดว่าคงจะเปิดเทอมต้นเดือนพฤศจิกายน ไปก่อนนี่เห็นว่าจะต้องไปปรับพฤติกรรม ที่นอน-ถ้าบ้านเรามีแล้วก็เอาของที่บ้านไป เวลาไปเรียนให้เอานม แล้วก็ของใช้ที่ติดมากๆ แล้วก็เสื้อผ้า ผ้าอ้อม ของใช้จำเป็นอื่นๆ ไปด้วย ปิดเทอมต้นเดือนมีนาคม โรงเรียนมีอาหารกลางวัน ของว่าง รองเท้าแตะ และแปรงสีฟันให้ อ้อ! เรียนแค่เทอมเดียว ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน ใส่ชุดอะไรก็ได้ไป...รู้แค่นี้แหละ (จะมีใครที่โรงเรียนเค้ามาอ่านเจอเราบ่นมั้ยเนี่ย แหะ แหะ บ่นไปงั้นๆ แหละค่า)

พอจะกลับบ้าน ธีร์ติดใจโรงเรียนขนาดหนักไม่ยอมกลับบ้าน ร้องไห้บนรถอยู่นาน หยุดร้องได้โดยวิตามินซี 3 เม็ด

พี่น้องค้าบ...ธีร์จะไปโรงเรียนแล้วค้าบ pre-school วันจันทร์หน้าจะมารายงานผลค้าบ

ลาไปด้วยรูปถ่ายสุดหรูของกู๋คิม ถ่ายที่ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ ปราจีนบุรีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ เป็นศิลปะแบบบาร๊อค บนเพดานมีรูปวาดแบบเฟรสโก้ด้วย สวยมาก
อันนี้ไปถ่ายที่ไหนไม่รู้ ธีร์แกล้งหลับ
แกล้งหลับอีกมุม
เขย่งสุดปลายทรีนดูงูในโหลยาดอง
หน้าตาอันเลวร้ายของสมธีร์ กะอี๊บี กับไก่ ไก่ และ ไก่
ธีร์จับไก่
มันคงไม่กัดเรา ยิ้มได้...
กับไก่ 3 ตัว
ก่อนกลับก็ช้อปปิ้งสินค้าสมุนไพรซะหน่อย

Monday, October 20, 2008

มะละกอสุกแล้ว

เมื่อวันเสาร์ ธีร์ไปดูความคืบหน้าการตกแต่งคอนโดฯ ของอี๊บี (อีกแล้ว) อาทิตย์หน้าคงจะเสร็จเรียบร้อย ธีร์ร่ำร้องต้องการไปเล่นน้ำในสระทุกทีที่ได้ไป คราวนี้หม่าม้าก็ให้ธีร์ลงไปเล่นน้ำ (คนเดียว...ตรงน้ำตื้น...เล่นอยู่แค่ขอบๆ) วันนั้นน้ำเย็นเหมือนกันเพราะไม่ค่อยมีแดด เล่นตอนเที่ยง น้ำก็ยังเย็น แดดก็ไม่ค่อยมี

ระหว่างที่ธีร์กำลังเริงร่ากลางสายน้ำอยู่ ก็มีผู้คนเดินผ่านไปมาบ้างประปราย ระหว่างนั้นเอง ก็มี "ฝรั่ง" คู่นึง เดินผ่านมา ธีร์หันไปเห็นเข้าก็หันมายิ้มขำกับหม่าม้าแล้วก็พูดว่า "มะละกอสุกแล้ว"....มุขไหนของมันฟระ

ตอนแรกก็คิดว่าธีร์พูดอะไรมั่วซั่วไปเรื่อยเปื่อย ปรากฏว่าเมื่อชาวต่างชาติคู่นั้นเดินผ่านกลับมาอีกรอบ ธีร์ก็พูดแบบเดิม "มะละกอสุกแล้ว"....ตอนหม่าม้าเล่าให้ป๊าฟัง หม่าม้าก็บอกว่า ตอนนั้นในน้ำก็มี "มะเขือเทศลอยน้ำ" อยู่ลูกนึงเหมือนกันแหละ 

ตกเย็นวันเสาร์ ธีร์ก็ต้องแต่งตัวเป็นหนุ่มไปงานแต่งงานของเพื่อนป๊า+หม่าม้า ขากลับบ้าน ธีร์หยิบดอกกล้วยไม้มาหนึ่งดอก เอามาเล่นในรถ...ระหว่างที่หม่าม้ากำลังขับรถ young managing director ของเราก็บอกว่า "อ้ะ หม่าม้า ดอกไม้ เอาไปสิ จับตรงก้านมันนะ" หม่าม้าก็ต้องรับมาถือตรงก้านดอกตามคำสั่ง ป๊าก็ถามธีร์ว่าให้ป๊าบ้างไม่ได้เหรอ ธีร์ตอบว่างี้ "ดอกไม้ให้หม่าม้า ป๊าเป็นผู้ชายไม่ต้องเอาหรอก ดอกไม้เค้าต้องให้ผู้หญิงสิ" ป๊าเจอคำตอบของธีร์เข้าไปถึงกะอึ้งกิมกี่ทีเดียว

ระหว่างทางกลับบ้านมีรถติดเล็กน้อย ธีร์เคยได้ยินคำว่า "จราจรติดขัด" มาแล้ว และธีร์ก็พูดกับป๊าและหม่าม้าว่า "ธีร์พูดจราจรติด 'ขัด' ไม่ได้หรอก ธีร์พูดได้แต่จราจรติด 'ฝัด'" กวนมั้ยล่ะลูกธีร์

วันอาทิตย์ ธีร์ก็ไปงาน "ทอดกระทิง" ที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ถึงแม้ว่าหม่าม้าจะพยายามบอกว่า "ทอดกฐิน" ธีร์ก็ยังมั่นคงอยู่กับการทอดกระทิงต่อไป แถมยังบอกอีกว่า "หลวงตาทวดมีอุปกรณ์ เราไปขอยืมอุปกรณ์ของหลวงตาทวดมาทอดกระทิง"

เนื่องจากคนเยอะสุดๆ อากาศร้อนสุดๆ เราก็เลยออกจากวัดกันมาก่อนที่ธีร์จะสติแตกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ระหว่างทางขากลับ เห็นป้ายบอกว่าโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์อยู่ไม่ไกล เราก็เลยไปแวะดูกันซักหน่อยก่อนกลับ มีรูปที่กู๋คิมถ่ายมา (ตามคำบอกเล่าของพยานในเหตุการณ์) รอกู๋คิมส่งรูปมาก่อนแล้วกันเนาะ อยากดูรูปเร็วๆ ก็ต้องช่วยกันกดดันกู๋คิมค้าบ 555

Thursday, October 16, 2008

ช้ำหมดแล้ว....

หลังจากที่เฮียปรานต์ปิดเทอม สองหนุ่มก็ได้ใช้เวลาเล่นด้วยกันอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้พี่พลอย และพี่หยกก็มาอยู่ที่บ้านโพธารามด้วย ธีร์ก็เลยมีเพื่อนเล่นเพิ่มขึ้นอีกหลายคน

เนื่องจากธีร์ไม่ค่อยจะได้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ เล่นด้วยบ่อยๆ ก็มีแค่เฮียปรานต์คนเดียวเท่านั้น ธีร์ก็เลยเล่นกะคนอื่นๆ เหมือนกับที่เล่นกะเฮียปรานต์ (ใช้กำลังมากหน่อย) ล่าสุดพี่หยกโดนธีร์จิ้มตา แถมด้วยลูกเตะปลายคางไปอีกหนึ่งที พี่หยกถึงกับหลั่งน้ำตา...ถึงแม้ธีร์จะยอมขอโทษพี่หยกโดยดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจอมทะเล้นของเราจะรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรเค้าไปบ้าง

เมื่อวานซืน เด็กๆ เล่นด้วยกันตามปกติ เฮียปรานต์แสดงท่าหยิกแก้มธีร์ (อย่างเมามัน) ให้ดูหลายครั้งพร้อมบอกว่า เฮียปรานต์ชอบหยิกแก้มธีร์แบบนี้มาก หลังจากโดนไปหลายทีต่อเนื่อง ธีร์ก็หลบหนีจากการล๊อคของเฮียปรานต์เดินระทดระทวยออกมาแล้วก็พูดว่า "แก้มธีร์ช้ำไปหมดแล้ววววววววว" 

หม่าม้ากะป๊าได้ยินแล้วก็นั่งขำ ส่วนหม่าม้านึกในใจ นี่ไงล่ะลูก กรรมติดจรวด 555

เรื่องต่อไป เกาะกระแสเมลามีนกันหน่อย

เมลามีนนี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเด็กๆ จริงๆ ผู้ใหญ่ใจร้ายทำไปได้ อี๊บีบอกว่านี่เป็นข่าวแรกที่ส่งผลกระทบต่อชีิวิตของธีร์อย่างจริงจัง ครั้งแรกที่ธีร์ได้ฟังว่าขนมที่กินบ่อยๆ นั้น กินไม่ได้แล้วจนกว่าเค้าจะตรวจว่าไม่มีเมลามีน ธีร์ถึงกับทำหน้าเศร้ามากๆ

หลังๆ ก่อนจะกินอะไร ธีร์ก็จะถามว่ามีเมลามีนรึเปล่า ไม่รู้จะถามทำไม เพราะถ้าอยากกิน ธีร์ก็กินอยู่ดีนั่นแหละ (จริงๆ ควรส่งไปตรวจซักหน่อยนะเนี่ย) 

สดๆ ร้อนๆ เย็นวันนี้ ม่า ณ สายสี่บอกว่าจะให้ธีร์กินมะเขือ (เผา ที่อบในเตาอบ...และระเบิดคาเตา 555) ม่าบอกว่ากินมะเขือเถอะ ธีร์บอกว่าไม่เอา มะเขือไม่มีประโยชน์ (ดูมันพูดเข้า) หม่าม้าและม่าพยายามบอกว่า มะเขือมีประโยชน์ครับลูก จากนั้นธีร์ก็เดินไปเข้าห้องน้ำกับหม่าม้า ระหว่างนั้นเอง ธีร์คงนึกได้ ถามว่า "มะเขือมีเมลามีนรึเปล่า กินแล้วจะตายมั้ย" 

ไม่รู้่ว่าไม่อยากกินมะเขือ หรือว่ากลัวตายนะเนี่ย....

Wednesday, October 08, 2008

หม่าม้าขี้เกียจ (มาก)

หม่าม้าขี้เกียจอัพบล๊อก...ว่ากันซื่อๆ หม่าม้าไม่มีเรื่องอะไรจะมาเล่า เป็นการตีบตันทางความคิด...ไม่ผิดหรอกเนาะ

อาทิตย์ก่อนป๊า หม่าม้า แล้วก็ธีร์ไปทัวร์โรงเรียน/สถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนกันมา 3 ที่ คิดว่าเปิดเทอมอันใกล้นี้จะส่งธีร์ไปทดลอง

ใจจริง หม่าม้าว่าธีร์จะอยู่บ้านไปจนกระทั่ง 3 ขวบ ค่อยไปโรงเรียนก็ได้ แต่ธีร์ก็จะไม่มีเพื่อนเล่น...เท่านั้นเอง ถ้าส่งธีร์ไปโรงเรียนเทอมหน้า ธีร์ก็จะมีเพื่อนเล่น แล้วก็อาจจะมีวินัยและระเบียบในชีวิตขึ้นมาบ้าง หม่าม้าสอนเอง ธีร์ไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าที่ควร

เราไปดูที่ราชภัฏนครปฐม เห็นว่ามีพรีสคูล เด็กที่ไปที่นี่ก็มีระเบียบวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง สถานที่ก็โอเค แต่สนามให้วิ่งเล่นก็เล็กๆ อาจจะเปิดห้องใหม่เทอมหน้านี้ 

ที่ต่อไปเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก ชื่อบ้านคุณครู มีคุณครูจากอนุบาลที่ปิดไปแล้ว 2 คน สถานที่คับแคบมาก แต่เห็นว่าคุณครูสอนเด็กได้ดี เวลาไป-กลับยืดหยุ่นได้มาก ไม่มีที่วิ่งเล่นแน่นอน แต่ธีร์จะมีเพื่อนเล่นหลายๆ วัย 

ส่วนที่สุดท้ายก็เป็นพรีสคูลอีกเช่นกัน ที่นี่คุณครูพูดจาฉับๆๆ มาก ในวงเล็บเป็นคำตอบของหม่าม้า น้องกินข้าวเองได้รึยังคะ (ยังค่ะ) ไม่ได้แล้วนะคะ วัยนี้ต้องกินข้าวเองได้แล้ว (ค่ะๆ) เลือกอาหารรึเปล่าคะ (ไม่ค่ะ แต่ข้าวนี่จะกินข้าวต้มค่ะ ข้าวสวยยังกินไม่ค่อยได้) ไม่ได้แล้วนะคะ ต้องหัดให้กินข้าวสวยกับแกงจืดได้แล้ว จำตัวหนังสือ ตัวเลขได้รึยังคะ (ยังค่ะ ท่องได้แล้ว แต่ตัวอักษรยังไม่ได้) ต้องรีบพามาหัดแล้วนะคะ ต้องหัดซักปีน่ะค่ะ จะได้เก่งๆ จะเริ่มมาโรงเรียนวันที่ 1 นี้เลยก็ได้นะคะ หรือว่าจะไปเริ่มวันจันทร์ก็ได้ (เอ่อ คือว่าถ้ามา คงมาได้แค่ จันทร์-พุธค่ะ วันพฤหัสกะศุกร์จะไปบ้านคุณยาย) ทำไมล่ะคะ ก็ไปวันศุกร์ตอนเย็นก็ได้ ไปโรงเรียนอนุบาลจริงๆ ก็ต้องไปจันทร์ถึงศุกร์เหมือนกัน...บลา บลา บลา 

คุยกับคุณครูที่สุดท้ายนี่แล้วหม่าม้าก็รู้สึกว่า โอ้...มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอพระเจ้าจอร์ช ที่ธีร์ยังทำหลายๆ อย่างไม่ได้ ไอ้ที่คุณครูว่ามันก็จริงอยู่หรอกนะ แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกม๊างงง (เข้าข้างตัวเอง)

ในที่สุดป๊ากะหม่าม้าก็สรุปกันว่า รอดูที่ราชภัฏนครปฐมก่อนแล้วกัน ถ้าเค้าเปิดห้องบริบาล (ชื่อแปลกๆ เนาะ) ใหม่เทอมหน้า ก็จะส่งธีร์ไปทดลองเรียนหนังสือที่นั่นหนึ่งเทอม...ก็ต้องเรียนแค่นั้นแหงแหละ เพราะที่ราชภัฏไม่มีอนุบาล 555 ถ้าที่ราชภัฏไม่เปิด หม่าม้าก็อาจจะพาไปเล่นๆ ที่บ้านคุณครู ไปตามสะดวก ธีร์จะได้มีเพื่อนเล่น แล้วก็ให้คุณครูสอนระเบียบวินัยอะไรนิดหน่อย...ที่สุดท้ายที่ตัดไป เพราะหม่าม้ากลัวคุณครู!!! แป่ว

มาอาทิตย์นี้ หม่าม้าก็เริ่มวิตก เริ่มหัดให้ธีร์กินข้าวด้วยตัวเอง...ตามความสมัครใจ ให้บอกว่าปวดอึปวดฉี่เสียงดังๆ หน่อย วิ่งไปห้องน้ำด้วยตัวเอง ส่วนทางด้านการศึกษาก็สอนบ้างตามความสนใจของผู้เรียน...ซึ่งมักจะไม่ค่อยสนใจเป็นส่วนใหญ่ อยากไปวิ่งเล่นมากกว่า

วันนี้หม่าม้าพาธีร์ไปตลาดนัดมา ระหว่างแวะซื้อถุงเท้า คนขาย (ชาย) ก็ทักทายธีร์แบบผู้ชายๆ ว่า "ชื่ออะไรน่ะเรา" ซึ่งธีร์ก็ไม่ตอบ (เป็นปกติ ไม่คุยกะคนแปลกหน้า) คนขายก็เริ่มรุกรานพื้นที่ส่วนตัวของธีร์ด้วยการยื่นมือมาแตะพุง ธีร์ก็ใช่ย่อย ไม่ยอมอยู่แล้ว ยกขาขึ้นเล็กน้อยประมาณว่าจะเตะ (ซึ่งจริงๆ ก็ยกไปงั้น เตะใครเค้าได้ ตัวเล็กแค่นี้) หม่าม้าก็ดุธีร์ตรงนั้นแหละ แต่ในใจก็คิดว่าอ้วนเอ๊ย....ร้ายนักเชียว ตัวเท่านี้ซ่าขนาดนี้ โตขึ้นคงแสบสนิท ป๊ากะหม่าม้าส่ายหน้าแน่ (และทุกวันนี้เราก็เริ่มส่ายหน้ากันแล้วแหละ)
จบการขี้เกียจของหม่าม้าแต่เพียงเท่านี้ ลากันไปด้วยรูปธีร์กินข้าวเอง ประสบความสำเร็จไปประมาณ 25%...เอาเนอะ ก็ยังดีกว่าไม่กินเลย หรือทำหกหมดนั่นแหละ