เราแหวกม่านขี้ตากันขึ้นมาตั้งแต่ตี 4.30...เพื่อไปตักบาตรข้าวเหนียว มาถึงหลวงพระบางไม่ได้ตักบาตรข้าวเหนียวจะได้ไง...พระ เณรที่หลวงพระบางจะออกบิณฑบาตรเป็นเวลาเดียวกัน (นัดกันมา...ว่างั้น...แบบนี้เค้าเรียกนินทาพระรึเปล่าเนี่ยเรา) ถนนที่เราไปตักบาตรมีพระ 12 วัดเดินผ่าน ชาวบ้านจะตักบาตรด้วยข้าวเหนียว (มีขนมบ้างเล็กน้อย แต่เรามีแต่ข้าวเหนียว) ส่วนกับข้าวพวกชาวบ้าน (ที่ตื่นสายกว่าเรา หุ หุ หุ) จะนำไปถวายที่วัดภายหลัง
พระ เณรบิณฑบาตรเหมือนกับเกรงว่าญาติโยมที่ปลายทางจะรอนาน....เดินกันปานจรวด หากเราหยิบข้าวเหนียวช้า...ก็จะเดินเลยไปเหมือนไม่ใส่ใจเรา รูปนี้ตอนไปถึงสถานที่รอใส่บาตร ยังไม่สว่างดี โฮมมี่ brief พลพรรคตักบาตรว่าจะต้องทำไงบ้าง เช่น พระจะมาจากทางไหน ควรหยิบข้าวเหนียวก้อนนึงประมาณพอดีคำ หยิบตรงริมๆ ก่อน เพราะตรงกลางมันจะร้อนนนนน และควรเหลือข้าวเหนียวไว้ 1 คำ เพื่อนำไปทำทานด้วย





หลังจากใส่บาตร ทำบุญเสร็จ เราก็เหลือข้าวเหนียวก้อนเล็กๆ มาวางไว้บนกำแพงวัด เป็นการทำทานให้กับนก มด สัตว์อื่นๆ


รูปด้านขวาตรงกลาง เป็นยายขายขนมหน้าตาเหมือนขนมไช้เท้าทอด น้ำมันดำขนาด...สงสัยใช้มาตั้งแต่ยายยังสาว ส่วนขวาล่างชายหนุ่มคนนี้เค้าขายขนมครก

เราได้ขนมครกมา 3 คู่ ธีร์ถือเองไม่ยอมวาง กินแล้วอร่อยดี ขนมครกทำจากข้าวเหนียว เหนียวๆ หวานๆ มันๆ เหมือนกินขนมเข่งทอด วันถัดมาเหลือเงิน 4,000 กีบ ธีร์ร่ำร้องจะกินขนมครกอีก อี๊บีไปซื้อ คราวนี้แม่ค้าบอกว่า 5 คู่ 2,000 กีบ....ขึ้นราคาซะงั้น (สงสัยคิดว่าเมื่อวานขาดทุน) อี๊บีอุตส่าห์ยืนรอแม่ค้าผลิตสดใหม่จากเตาเพื่อนำไปสังเวยเด็กชายธีร์ ฝนก็ตก...พอเอากลับไปกินที่โรงแรม หม่าม้าอุตส่าห์โฆษณาซะดิบดีว่าอร่อย แต่ผิดคาด คราวนี้ไม่อร่อย มีแต่แป้งไม่มีกะทิเท่าไหร่ นอกจากขึ้นราคาแล้วยังลดคุณภาพซะอีกแน่ะ....แย่จัง
นี่ก็แม่ค้าขายขนมเส้น เฝอ ถั่วงอก น้ำอัดลม (ที่ขวดเขียนภาษาลาวด้วยนา) ส่วนซ้ายล่างสุดเป็นรถคล้ายๆ ตุ๊ก ตุ๊ก แต่ที่นั่งเป็นเหมือนรถสองแถว ที่ลาวเรียกรถประเภทนี้ว่า "สกายแล๊ป"

รูปข้างซ้ายบนที่กองๆ เป็นพะเนินนั่น คือขนมปังฝรั่งเศส...บาแก๊ต ที่หม่าม้าหมายมั่นปั้นมือว่าจะชิมซักกะหน่อย อ่านในเว็บมาเห็นว่าอร่อยนักหนา ตอนไปซื้อถามว่าเนื้อที่ใส่ตรงกลาง ทำกลมๆ เหมือนเนื้อใส่เบอร์เกอร์เป็นเนื้ออะไร...ได้รับคำตอบมาว่า หมูผสมเนื้อ อดกินซะงั้น เห็นว่าเวลาทำจริงๆ เค้าจะใส่ไส้เป็นพวกตับบด ส้มตำ หม่าม้าสั่งไส้นมข้นหวานมาชิม ตอนแรกกะจะเอาไส้แยม แต่เห็นสภาพขวดแยมแล้วไม่เอาดีกว่า (กลัวตาย)...ผิดหวังอย่างแรง แข็งก็แข็ง เหนียวก็เหนียว ชืดๆ เค้าถูกหลอกกกกกกก
ส่วนขวาล่าง ที่กงกินอยู่คือเฝอหมู กงกินแล้วว่าอร่อยดี อี๊บีสั่งมาอีกชาม หม่าม้าแอบชิมแล้วน้ำซุปเค็มไปหน่อย แต่ก็กลมกล่อมดี ส่วนธีร์กำลังแทะเล็มโอวัลตินอยู่

เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแล้วเราก็ไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง แต่เดิมเป็นวังของเจ้ามหาชีวิตมาก่อน พอเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 1975 ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ข้างในประกอบด้วยโรงละคร วัดที่สร้างมา 17 ปียังไม่แล้วเสร็จ (ขวากลาง และซ้ายบน) โฮมมี่บอกว่าเสร็จแล้วจะเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง และซ้ายล่างก็คือส่วนที่เป็นวังเก่า ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างใน
ในวังก็จะมีท้องพระโรงที่ใช้รับแขกบ้านแขกเมือง หอฟังธรรมพร้อมธรรมาสน์ ห้องบรรทมของเจ้ามหาชีวิต เครื่องใช้ ฯลฯ




ชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ เราก็เดินทางไปหมู่บ้านผาโนม และร้านขายเครื่องเงิน ซื้อของส่งท้ายเล็กๆ น้อยๆ ก่อนไปกินอาหารเที่ยง และไปสนามบิน เนื่องจากทำเวลากันได้ดีมาก ไปถึงสนามบินตอนเที่ยง....เครื่องบินออกบ่ายสามโมงครึ่ง....นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ยยยยย
ระหว่างรอเช็คอิน ป๊าเหลือบไปเห็นตาชั่ง เครื่องวัดขนาดกระเป๋าอันนี้เข้า ถ้าเป็นที่เมืองไทยคงถูกดูถูกเหยียดหยาม แต่นี่เป็นลาว....ดูช่างเรียบง่ายและน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน 555

ธีร์กับพาสปอร์ตที่ยืนยันจะต้องถือเอง ยื่นเอง กลัวไม่ได้กลับบ้านรึไง


ภาพถ่ายทางอากาศของหลวงพระบาง บ๊ายบายจ้าหลวงพระบางเมืองริมโขง

เครื่องบินขึ้นไปได้ไม่เท่าไหร่ ธีร์ที่ประกาศกร้าวว่า "ธีร์ไม่น๊อน ธีร์ไม่นอน" ก็หลับไปอย่างสงบเสงี่ยม ปล่อยให้หม่าม้าได้ลิ้มรสอาหารว่าง (สลัดผักน้ำไงเล่า) อย่างเอร็ดอร่อย ไม่น่าบอกเค้าเล้ยยย ว่าเอาแค่ชุดเดียว ยังคงเสียดายอยู่ถึงตอนนี้ (ตะกละมาก)

กลับมาถึงสุวรรณภูมิแล้ว ธีร์ก็ยังไม่ยอมตื่น ระหว่างทางเดินทำชิ้นส่วนหล่นเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมเอย รองเท้าเอย มีคนเก็บมาส่งเป็นระยะๆ อีกเช่นกัน ว่าแล้วก็ถ่ายรูปกับยักษ์ซะหน่อยซิธีร์

แล้วก็จบการเดินทางไปหลวงพระบางแต่เพียงเท่านี้

โดยส่วนตั๊ว ส่วนตัว หม่าม้าว่าหลวงพระบางก็คล้ายๆ เมืองเหนือของไทยนี่แหละ หลายคนบอกว่าผู้คนเค้าน่ารัก เป็นมิตร แหะ แหะ อันนี้ตอบไม่ได้ เพราะว่าคนลาวที่ได้คุยก็โฮมมี่คนเดียว พื้นเพก็เป็นคนเวียงจันทน์ไปซะงั้น แต่ก็อย่างที่เคยบอก เค้าชอบเมืองมรดกโลก เพราะทำให้หลวงพระบางกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีงานทำ มีรายได้กัน ส่วนที่ไม่ชอบก็คงมี แต่ทำอะไรไม่ได้ สงสัยกลัวโดนจับไปอยู่รีสอร์ตริมโขง (นี่เราจะโดนจับไปอยู่ที่นั่นฐานวิพากษ์วิจารณ์รึเปล่าเนี่ย)
ว่าแล้วก็ชิ่ง ชะแว้บจบกันตรงนี้ดีกว่า ถ้าอาทิตย์หน้ายังไม่อัพบล๊อกแสดงว่าไปพักรีสอร์ตแล้น 555
3 comments:
วันนี้ไม่เม้นต์ แวะมาอ่านเฉยๆ :P
ละเอียดลออและสนุกมากค่ะ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวบ้าง ท่านอนน้องธีร์ขาไปและขากลับเหมือนกันเลยเนาะ...
น้องธีร์ครับ ปลาร้าของป้าอยู่ไหนครับ หรือว่าทำไหปลาร้าแตกระหว่างทางครับ
ปล.รูปน้องธีร์หล่อทุกรูปเลยครับ
Post a Comment