ตื่นเช้ามา ธีร์ทำอะไร....
หลังจากที่ตอนกลางคืนนอนดิ้นไปฝากรอยเท้าเล็กๆ ไว้บนแก้มโมอิ๊ ได้ยินเสียงร้องเจี๊ยกของโมอิ๊เข้า สลบสไลไปด้วยกลัวความผิดจะติดตัวอยู่ นอนซะไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว ตื่นมาอีกทีตอน 6 โมงเช้า เห็นว่ายังมัวซัวไม่สว่างเท่าไหร่ ธีร์ก็เลยนอนต่อไป กู๋คิมกะอี๊บีก็ตื่นกันแต่เช้า จะบอกว่าแต่ไก่โห่ไม่ได้ เพราะหม่าม้าได้ยินเสียงไก่ขันตอนตี 3 ครึ่ง 555 ไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นกัน สงสัยตื่นเช้าเกินจริง กู๋คิม ณ มุมมหาชนเลยหน้าตาโทรมมากกว่าปกติ (ทำรูปเล็กๆ จะได้พอดูเป็นผู้เป็นคนกะเค้าบ้าง)
อี๊บีให้การว่า หลังจากไปถ่ายรูปกะกู๋คิมแล้ว ก็ไปวิ่งรอบๆ ออกกำลังกายตอนเช้ามาหนึ่งรอบ พอถึงเวลาอาหารเช้า อี๊บีกินแหลก ดูท่าทางอดอยากมาก!
หลังจากธีร์ตื่นนอนเรียบร้อย เราสองคนแม่ลูกก็รบรากันในห้องน้ำอยู่พักนึง ผ่านช่วงเวลา "ธีร์ไม่แปรงฟัน ธีร์ไม่ล้างก้น" (หนาวนะ จะอาบน้ำเลยเหรอ...สงสารธีร์ ขนาดยืนในห้องน้ำยังเขย่งปลายเท้าเลย คิดดู๊) ธีร์ก็ไปกินอาหารเช้า เป็นหมูแฮมพันไส้กรอกจิ้มแยมสตรอเบอรี่ เมนูที่คุณชายคิดค้นเอาเอง
อี๊บีให้การว่า หลังจากไปถ่ายรูปกะกู๋คิมแล้ว ก็ไปวิ่งรอบๆ ออกกำลังกายตอนเช้ามาหนึ่งรอบ พอถึงเวลาอาหารเช้า อี๊บีกินแหลก ดูท่าทางอดอยากมาก!
หลังจากธีร์ตื่นนอนเรียบร้อย เราสองคนแม่ลูกก็รบรากันในห้องน้ำอยู่พักนึง ผ่านช่วงเวลา "ธีร์ไม่แปรงฟัน ธีร์ไม่ล้างก้น" (หนาวนะ จะอาบน้ำเลยเหรอ...สงสารธีร์ ขนาดยืนในห้องน้ำยังเขย่งปลายเท้าเลย คิดดู๊) ธีร์ก็ไปกินอาหารเช้า เป็นหมูแฮมพันไส้กรอกจิ้มแยมสตรอเบอรี่ เมนูที่คุณชายคิดค้นเอาเอง
ไปคราวนี้โมอิ๊เค้าลืมเอาชุดนอนไป ทุกคืนเค้าจะพร้อมออกเดินทางเสมอด้วยเสื้อยืดกะกางเกงยีนส์ 555
ธีร์ก็บอกมาหลายทีว่าจะถ่ายรูปมั่งซี่ ธีร์ถ่ายมั่ง มาดูกันซิ ธีร์ถ่ายอะไรมาได้บ้าง (นี่เป็นรูปบางส่วน ถ่ายหลายๆ ที่ไม่ใช่แค่ที่สวนแม่ฟ้าหลวง)
นี่ไง บรรดารูปถ่ายฝีมือธีร์แบบคัดแล้ว
พอเดินดูสวนแม่ฟ้าหลวง ถ่ายรูปกับดอกไม้ ต้นไม้เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินไปชมพระตำหนักดอยตุงกันต่อ เวลาก็เกือบเที่ยง อากาศก็ร้อน เดินก็ไกล ดูหน้ากงซะก่อน
ในพระตำหนักงดถ่ายภาพ ถ่ายได้แต่บริเวณโดยรอบ เลยไม่ได้เอารูปมาใส่ไว้ เสร็จสรรพเดินกลับลงมากินอาหารเที่ยงที่ครัวดอยตุงเหมือนเดิม แต่คราวนี้รออาหารนานชะมัด ทัวร์ลง เมื่อวานเย็นคนน้อยๆ แบบนั้นปรากฎว่าทุกคนมาเที่ยวกันตอนกลางวัน ส่วนตอนเย็นก็ไปพักที่อื่นกัน ตอนเย็นๆ ที่ดอยตุงจะสงบกว่ากันมาก
กินอาหารเที่ยงเรียบร้อยเราก็ไปไหว้พระธาตุดอยตุงกัน แล้วก็ไปดูกุหลาบพันปีกันที่ดอยช้างวูบ เอ้ย ดอยช้างมูบ...ธีร์งอแงหงุงหงิงตั้งแต่เที่ยง หลับไปในรถอีกเหมือนเดิมตั้งแต่ที่ทุกคนไปไหว้พระธาตุฯ กัน หม่าม้าคิดว่าตอนไปเดินดูกุหลาบพันปี หม่าม้ากับธีร์จะรอในรถ ม่ากลัวหม่าม้าจะไม่เห็นกุหลาบพันปี สอบถามคนขับรถว่ามีที่ทางจะเข็นรถเข็นได้บ้างก็สั่งการให้เอาธีร์ใส่รถเข็นไปเดินชมสวน....
ขอบอกว่าเป็นความคิดที่ผิดอย่างร้ายกาจ ทางเป็นบันไดขึ้นเขาลงห้วย มีที่ให้เข็นรถเข็นได้ประมาณ 10 ก้าวแล้วก็ต้องยกรถเข็นกัน...ม่า คราวนี้ไม่มีการเข็นรถเข็นชมสวน โอเค๊...รูปนี้ถ่ายมาหน้าตาทุกคนยังพอยิ้มแย้ม แต่โมอิ๊ อี๊บีและหม่าม้าคิดว่าใกล้ตายแล้วเฟ้ยยยย เหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน แบกรถเข็นเนี่ย ส่วนกู๋คิมสมัครใจแบกกล้องต่อไป หลังๆ คงสงสารคิดว่าอี 3 ตัวนี้ตายแน่ ให้อี๊บีถือกล้อง ส่วนโมอิ๊กะหม่าม้ายกรถกันต่อปาย
ที่เจ็บปวดมากไปกว่านั้นคือ เมื่อเดินดูดอกไม้แบบเหนื่อยหอบกันเสร็จสรรพ ถึงรถ ธีร์ก็ตื่นขึ้นมาทันที เวลกัมจริงๆ
จบจากนี้ก็ไม่มีอะไร เราก็ไปดูเอาท์เล็ตของสินค้าดอยตุงกัน เข้าเมืองไปซื้อของฝาก แล้วก็ขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน
ทริปนี้ก็ต้องขอบคุณกงและม่า สปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการของลูกๆ และหลานธีร์
นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณทุกๆ คนโดยเฉพาะอี๊บีที่ช่วยกันโอบอุ้มธีร์เป็นระยะ (ทางอันไกลโพ้น) ฟ้องกันด้วยภาพถ่าย (โมอิ๊ไม่มีรูปถ่ายตอนอุ้มธีร์...ทำไมล่ะ ไม่ได้อุ้มธีร์เหรอโมอิ๊)
ลากันไปด้วยรูปถ่ายของเรา 2 คนแม่ลูกที่ดูเหมือนรักกันดี แต่จริงๆ แล้วมีความโหดร้ายซ่อนอยู่ด้วย 555
No comments:
Post a Comment