Thursday, December 18, 2008

เชียงราย...วันแรก

ธีร์ไปเที่ยวเชียงรายมาครับ เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ที่ผ่านมา (13-15 ธันวาคม 2551)
ธีร์ไม่ค่อยสบายตั้งแต่วันที่ 11 ... หม่าม้าพาไปหาหมอ ปรึกษากันแล้ว คุณหมอว่าโอเค ไปเที่ยวได้...

เรา 2 คนแม่ลูก พร้อมกับคณะพรรคบ้านสายสี่ ประกอบด้วย กง ม่า อี๊บี กู๋คิม และโมอิ๊ก็เลยมุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง ขึ้นเครื่องบินชื่อ "เชียงราย" ไปเที่ยวเชียงรายกัน...

ส่วนป๊านั้นหรือ...ป๊าเป็นโรค S.A.D ประกอบกับเกรงกลัวความหนาวเย็นเลยสมัครใจร้องเพลงรออยู่บ้านหนองดินแดง (โรค S.A.D ก็คือโรคหดหู่ ซึมเศร้าที่เกิดจากสภาวะอากาศในฤดูหนาวที่มีแสงแดดน้อยกว่าปกติ...ต้องไปตากแดดมากๆ ถึงจะหาย 555 ล้อเล่น จริงๆ แล้วป๊าเค้ากลัวหนาวเลยไม่ได้ไปด้วยเท่านั้นแหละ)

เราไปถึงสนามบินกันประมาณ 8 โมงกว่า เครื่่องบินออก 09.40น. ระหว่างรอ ธีร์ก็บอกว่าจะไปกินเบอร์เกอร์คิง...พร้อมตะโกนเรียกอี๊บีว่า "อี๊บี มาเร็วเข้า อย่ามัวลีลา" ตามอี๊บีให้ไปซื้อเฟรนช์ฟรายด์ด้วยกัน

ขึ้นเครื่องบิน เหยื่อรายถัดไปของธีร์นั่งอยู่ด้านหลัง...เล่นกันเสียงดังลั่นเครื่องบินไปหมด อี๊บีให้ข้อสังเกตว่า ไฟลท์นี้เด็กเยอะชะมัด ธีร์ได้ตุ๊กตาคุณกัปตันมาเล่นกะพี่เค้าด้วย
ที่เราไปเชียงรายครั้งนี้ เราซื้อแพคเกจทัวร์ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงจัด จริงๆ มีหลายแพคเกจ หม่าม้าเลือกแพคเกจที่ไม่มีกิจกรรมเสริม เพราะไม่แน่ใจว่า ส.ว. และธีร์จะไหวมั้ย

ที่แรกที่เราไปเยี่ยมชมหลังจากออกจากสนามบินคือร้านอาหาร 555 ก็แหม...กองทัพต้องเดินด้วยท้องสิ เราก็ควรเติมพลังกันก่อนจะไปลุยยยยย (ธีร์กะหม่าม้าไม่ค่อยสบายกันตลอดทริป กินอะไรไม่ค่อยจะลง ทุกคนแซวว่าเรา 2 คนประท้วงที่ป๊าไม่ได้มาด้วย เหอ เหอ เหอ)

อิ่มหนำกันดีแล้ว เราก็ไปเที่ยววัดร่องขุ่นกัน
เที่ยววัดร่องขุ่นกันเสร็จ เราก็ไปไร่แม่ฟ้าหลวง
ส่วนธีร์ก็เข้าญาณ พักผ่อน เนื่องจากแดดร้อน เลยโผล่ออกจากรถเข็นแค่ขาเท่านั้น....และไอ้การที่โผล่มาแต่ขานี่แหละ ทำให้เกิดเรื่องที่ควรเล่าในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ต่อด้วยวัดพระแก้ว ธีร์กะม่าถ่ายรูปกับต้นผีเสื้อกัน...ดูหน้าคุณชายเค้าชื่นชมต้นผีเสื้อกันซะก่อน...จบลงด้วยพระธาตุจอมกิตติ
วันนี้เราไปพักกันที่เกรทเธอร์ แม่โขง ลอดจ์ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับหอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ ก่อนนอนโมอิ๊ขออนุญาตธีร์ว่าวันนี้จะนอนด้วยคนนะ (อย่าทำร้ายเราระหว่างหลับนะจ๊ะ)

อากาศเย็นพอควร แต่ไม่ได้เย็นมาก อี๊บีสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเสื้อยืดเพียงตัวเดียว ส่วนหม่าม้าที่ไม่ค่อยสบายใส่เสื้อกันหนาวอย่างอบอุ่น ไม่สามารถระบุอุณหภูมิที่แน่นอนได้

จบวันก็จบกัน หม่าม้าหมดแรงอัพบล๊อกสำหรับวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาติดตามตอนต่อไปกันก็แล้วกันเนาะ

1 comment:

Anonymous said...

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ... หน้าชื่นชมต้นผีเสื้อ ได้ใจมั่ก ... ดูอ่อนโยน ผิดจากตัวจริง