หม่าม้ากะโมอิ๊เริ่มต้นวันใหม่กันด้วยการที่ธีร์ตื่นขึ้นมาตอน 6 โมงเช้าและบอกว่า "ธีร์หิว ธีร์อยากกินไข่เจียวใส่พิซซ่า" ซึ่งเป็นผลจากการที่ตอนเย็นวันก่อน ธีร์ไม่ค่อยได้กินอะไร หม่าม้าคิดว่าธีร์ยังไม่ค่อยสบาย มีเสมหะในคอเยอะ กินมากก็ท้องอืด อาหารไม่ย่อย พาลจะแหวะออกมาอีก...เลยไม่ได้ให้กินอะไรมาก (เท่าปกติ) ตื่นเช้ามา ธีร์ว่าธีร์หิว
จัดการส่งธีร์ไปกินอาหารเช้ากะกงและม่า ปรากฎว่าคุณชายไม่ยอมกินอะไรอีกแล้ว ไข่เจียวที่ร่ำร้องว่าอยากกินก็ไม่กินซะงั้น (อาการเดียวกะแม่มันเลยแฮะ...เราเลยไม่บังคับกัน 555)
กินอาหารเช้าเสร็จ เรานั่งรถไปไม่ถึงนาทีไปดูหอฝิ่น หม่าม้าเคยอ่านหนังสือ หรือดูทีวีซักรายการ บอกว่าหอฝิ่นนี่ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะฝิ่น ที่ดีมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ข้างในไม่ให้ถ่ายรูป ข้างนอกก็ไม่มีอะไรให้ถ่าย เราเลยไม่มีรูปหอฝิ่นมาให้ใครดู
ข้างในหอฝิ่นแบ่งเป็นส่วนต่างๆ หลักๆ ที่จำได้ก็คือ การเพาะปลูกและสกัดยางฝิ่น การใช้ประโยชน์ฝิ่นในฐานะยาและการแพร่ขยายจากยุโรปมาสู่เอเชีย สงครามฝิ่นในจีน ฝิ่นในประเทศสยาม โทษของยาเสพติด และจบด้วยห้องคิดคำนึง ให้เราสรุปประมวลสิ่งที่เราเห็นทั้งหมด
ในห้องคิดคำนึงนี่ก็จะมีคำคมจากนักคิด นักปราชญ์หลายๆ คนมาให้เราอ่าน มีคำคมของขงจื้อบทนึงที่หม่าม้าชอบมากถึงกับยืนจดมาด้วย ขงจื้อบอกว่า
"เกียรติภูมิ
ที่ยิ่งใหญ่
ไม่ได้อยู่ที่เราไม่เคยล้ม
แต่อยู่ที่เราลุกขึ้น
ทุกครั้งที่เราล้มต่างหาก"
จากหอฝิ่น เราก็ไปถ่ายรูปบริเวณสามเหลี่ยมทองคำกัน ฝั่งซ้ายมือของรูปเป็นพม่า ส่วนฝั่งขวานั้นไซร้คือลาวนั่นเอง จุดที่เรายืนอยู่จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากประเทศไทย 555
ถ่ายรูปเสร็จก็ลงมาไหว้พระองค์ใหญ่ริมน้ำโขงกัน จากนั้นก็ไปกินข้าว (อีกแล้วเหรอ) เพราะพี่คนขับรถของเราบอกว่าแถวๆ แม่สายที่เราจะไปกันไม่มีร้านอาหาร กินซะแถวนี้กันตายกันก่อนจะดีกว่าไหว้พระกันเรียบร้อย เราก็เดินทางไปแม่สายกัน ธีร์ที่ตื่นมาแต่เช้าก็หลับไปในรถ ระหว่างทางที่เราไปแม่สาย และข้ามไปฝั่งพม่า สมธีร์ก็หลับข้ามประเทศไม่มีตื่นมางอแง หงุดหงิดกับคนในตลาดที่คลาคล่ำไปทุกหนทุกแห่ง ตลาดฝั่งพม่ามีสินค้าเลียนแบบมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นดีวีดี วีซีดี เสื้อผ้า กระเป๋า หรือแม้แต่ไวอะกร้า!!!
เดินตลาดกันพักใหญ่ ไม่ค่อยได้อะไรนอกจากดีวีดีปริมาณมหาศาล อุดหนุนโดยกู๋คิม อี๊บี และโมอิ๊ รู้สึกกงจะได้เสื้อมาตัวนึง ม่าได้ผ้าพันคอเล็กๆ ไว้ฝากซัก 4-5 ผืน หม่าม้าได้หมวกมาหนึ่งใบ
ตอนเดินตลาด ธีร์ถูกคลุมผ้าปิดไว้เป็นระยะ แล้วแต่องศาของแดด...ผ่านไปซื้อของร้านนึง เจ๊คนขายชาวพม่าเดินมาดูธีร์แล้วถามหม่าม้าว่า "นี่ลูกเหรอ...หน้าตาดีนะ...หน้าเหมือนพ่อเหมือนแม่มั้ย" แปลว่าอะไรฟระ!
จากนั้น ระหว่างรอกงซื้อเสื้อ อี๊บีเข็นรถเข็นที่เอาผ้าปิดธีร์ไว้โผล่แต่ขาออกมาเพราะแดดส่อง อี๊บีเล่าว่ารู้สึกเหมือนมีคนมามุงๆ หันไปดู ก็มีส.ว.หญิง 2 นางชาวไทยเป็นแน่แท้ อยากรู้อยากเห็นมาก ถือวิสาสะมาก เดินมาเปิดผ้าที่คลุมรถไว้ออก อยากดูว่าในรถเข็นมีอะไรอยู่
พออี๊บีเล่าให้หม่าม้าฟัง หม่าม้าปรี๊ดจี๊ดขึ้นมาทันที หงุดหงิดๆ โวยเสียงดังไปว่าเปิดดูทำไม ของตัวเองก็ไม่ใช่ ไม่มีมารยาท ทั้งที่ในใจนั้นอยากจะแว้กให้มากกว่านี้แต่สงบสติได้ก่อน (อันนี้เล่าให้ป๊าฟังแล้ว ป๊าว่าสมควรจะลด ละ เลิก อาการปรี๊ดแตก เพราะมันจะเป็นสาเหตุของการตายก่อนวัยอันควรได้ 555) มานั่งคิดดูตอนนี้ หม่าม้าก็ยังโกรธ 2 คนนั่นไม่หาย ของตัวเองก็ไม่ใช่ จะอยากรู้อยากเห็นอะไรกันขนาดนั้นนะคนเรา
ธีร์ตื่่นมาอีกทีก็ตอนขึ้นรถมุ่งหน้าออกจากแม่สายกันได้ซักพักถึงไร่สตรอเบอรี่พอดี ตื่นมาปุ๊บ ธีร์ก็ได้เดินลงไปชมสวน จิ้มสตรอเบอรี่ กินน้ำลิ้นจี่ น้ำสตรอเบอรี่ สตรอเบอรี่อบแห้ง ลิ้นจี่อบแห้ง...แล้วนมล่ะ กินรึยังเนี่ยลูกกกกก!
ออกจากไร่สตรอฯ เราก็มุ่งหน้าขึ้นดอยตุงกัน อากาศบนดอยก็เย็นกว่าข้างล่างอีกหลายองศา ระหว่างทางเราก็ต้องเปิดกระจกให้เครื่องยนต์ทำงานขึ้นเขาอย่างแข็งขัน อากาศเย็นๆ มีกลิ่นป่า กลิ่นต้นไม้นี่ดีจัง...อยากย้ายบ้านไปอยู่บนดอยบ้าง 555
คืนนี้เราจะพักที่ดอยตุงลอดจ์ (บ้านต้นน้ำ 31) วิวสวย ห้องพักดีทีเดียวเชียว แถมมีห้องส่วนกลางไว้ให้อ่านหนังสือ จิบกาแฟด้วยเหมาะกับสภาวะอากาศเป็นอย่างยิ่ง
เราเช็คอิน เอาของไปเก็บในห้องพักแล้วก็ไปเดินเล่น ถ่ายรูป...ต้นขาวๆ นี่เป็นมุมมหาชนมากๆ อี๊บีมีต้นนึงที่คอนโดฯ เห็นตั้งใจว่าจะปลูกให้ได้ต้นขนาดบนดอยตุง ตอนนี้ลำต้นของต้นไม้ของอี๊บีประมาณนิ้วก้อย...ส่วนของดอยตุงประมาณข้อมือกู๋คิม...
แล้วก็ไปเดินกาดดอยตุงกัน ที่กาดก็มีขายใบชา ขนม ผลไม้ เสื้อผ้าโดยชาวเขาตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่ชาวเขาแต่เสื้อผ้าที่กาดดอยตุงนี่เอง...หม่าม้ามีรูปคู่กะกงแล้ว (เท่าที่จำได้ เหมือนจะไม่เคยมีแฮะ!!!) กงต่อเขาเล็กๆ ให้ด้วย ไงเล่าๆ
ช้อปปิ้งกันพอควร ก็นั่งพักกินกาแฟ...คุณชายเค้าก็กินด้วย บอกแล้วทุกคนกินกาแฟ ธีร์มีส่วนร่วมกินโกโก้เย็นทุกคราวไป ส่วนหม่าม้าก็ได้รับอานิสงส์ได้กินโกโก้ (ฟรี) กับธีร์ไปด้วย ธีร์กินวิปป์ครีม หม่าม้ากินโกโก้ 555
กินกาแฟเสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็นของกงกันพอดี เย็นนี้เราก็กินข้าวที่ครัวดอยตุงนี่แหละ ระหว่างรออาหาร เราก็นั่งมองซ้าย มองขวา และกลายเป็นเหยื่อทางเลนส์ของกู๋คิมกัน
วันนี้จบลงด้วยการชมดาว ชมจันทร์แบบหนาวๆ
2 comments:
สมธีร์ ดู หนาวมากเลย ตอนชมจันทร์ ... ธีร์ ไปตัดผมทรงน้องคูณเถอะ ... ผมสั้น ... อิ อิ อิ ... เจอกันพรุ่งนี้นะ
ช่างเป็นครอบครัวที่สุดแสนน่ารักจัง
Post a Comment