20 ธันวาคม 2552
วันสุดท้ายของการเดินทาง...
ข้อเสียอย่างนึงของการเดินทางไปเที่ยวเมืองหนาวคือ เราพยายามประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าเดินทางด้วยการเอาเสื้อกันหนาวไปแค่ตัวเดียว...แล้วดูซิดู ถ่ายรูปออกมา ชุดเดิมๆ มันทู๊กวัน....คราวหน้าเราต้องเอา walk-in closet ไปด้วย (พูดจามุ่งมั่น ทำอย่างกับว่าไอ้ walk-in closet มีจริง)
เนื่องจากป๊าไป built กงไว้ว่ามาฮ่องกงทั้งทีไม่ไปกินติ่มซำกันได้ไง งานเลยเข้ากันแต่เช้า เราจะไปกินติ่มซำกัน พอหม่าม้าบ่นกะป๊า ป๊ามีหน้ามาพูดว่า ก็บอกไปงั้นแหละ ชั้นเฉยๆ ได้กินที่ดิสนีย์แลนด์แล้วไง....หนอยๆ
ตามลายแทงที่พิมพ์ไป เค้าบอกว่าร้านนี้เจ๋ง ตามไปชิมซะหน่อย ลายแทงบอกให้ไปก่อน 10 โมงเช้าเพราะราคาจะแพงขึ้นหลัง 10 โมง มะงุมมะงาหราจากสถานีรถไฟ ถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แถมหยิบโพยเราไปดูซะอีกแน่ะ โพยภาษาไทย จะอ่านออกมั้ยเล่า เดินวนถามไปถามมา อาแปะคนสุดท้ายส่งภาษาจีนกลางบอกมาว่า เดินออกจากโรงแรมพรูเดนเชี่ยลที่ยืนกันอยู่ออกไปนอกถนน แล้วค่อยขึ้นลิฟต์ (นี่แหละ เค้าเรียกภาษาจีนกลางว่าอันหยังหว่า) ไปที่ร้านอาหาร Golden Dynasty ชั้น 3 นะนังหนู นี่คือร้านติ่มซำที่เราไปกินกัน
หยิบแผ่นพับบนโต๊ะมา จัดแจงเขียนจำนวนที่จะสั่งไป รออีกชาติเศษ อาหารมาประมาณนี้เหมือนกับว่าจะไม่อิ่ม คิดว่าสั่งเพิ่มไปอีก 4 เข่ง ขนมจีบ 2 ซาลาเปา 2 งงๆ ได้กลับมา 6 เข่ง ได้ซาลาเปาหมูแดงมาอีก 2 ซะงั้น เค้าพลาดไปแล้นนนนน
ค่าเสียหายกินกันผู้ใหญ่ 8 คน เด็ก 2 คน ยังน้อยกว่าตอนไปกินที่ดิสนีย์แลนด์ซะอีก นี่แหละหนา Disney Magic 555
อิ่มหนำกับอาหารเช้าแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะส่งกงกะม่าไปเที่ยว Repulse Bay ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ไปๆ มาๆ ทุกคนมุ่งหน้าสู่ Ocean Park ร่วมกัน
ถึง Ocean Park มุ่งมั่นจะไปดูโชว์ปลาโลมามาก มากจนคิดว่า หรือเรานี่เองแหละที่อยากไปดูรำลึกความหลังฝังหุ่น เอ้ย! ฝังใจสมัยเด็กๆ ที่ชื่นชอบ555 ปรากฏว่าโชว์ปลาโลมาจบไปแล้วซะงั้น มีอีกทีบ่าย 2 โมง
โมอิ๊บอกธีร์ว่าให้ทำท่าหนาวถ่ายรูปซะหน่อย สมธีร์จัดให้ อนาคตน่าจะได้รางวัล fake ยอดเยี่ยม
สองหนุ่มดูแผนที่ หา clue จะไปแข่ง amazing race กันอีกแล้ว
หม่าม้าปรี่เข้าไปนั่งข้างนางเงือก ตอนแรกธีร์ทำท่าลังเลใจ เขินๆ ไปๆ มาๆ กระแซะตัวไปนั่งข้างเค้า แถมชู 2 นิ้วด้วยซะงั้น
สรุปว่าอย่างแรกที่เราได้เดินเข้าไปดูกันอย่างจริงจังก็คือ A-Toll Reef ซึ่งเป็น aquarium มีปลาในตู้ว่ายไปว่ายมา เหมือนกับที่พารากอน ส่วนธีร์ก็ไปเก๊กท่าถ่ายรูปกับฟันปลอมปลาฉลาม
มีรูปนี้ด้วย...เก๋ไก๋ชไนเดอร์ใช่ย่อย
ปลาหมึกหน้าตาง่วงนอน
ฝูงปลาว่ายวน
แล้วเราก็ไปดู Sea Jelly Spectacular กันต่อ อันนี้หม่าม้าชอบมาก ดูเป็นสัตว์อารมณ์ดี แดนซ์ตามเสียมเพลงได้ด้วย (คิดไปเอง) แต่เด็กๆ ดูเหมือนจะกลัว เร่งให้เดินออกเหอะซะงั้น
เดินดูโน่นดูนี่ไป อ้าวบ่ายโมงครึ่งซะแล้ว เราก็เลยไปจองที่นั่งรอดูโชว์ปลาโลมา สิงโตทะเล หม่าม้าบอกธีร์ว่าเค้ามีโชว์ปลาวาฬด้วย ตอนเด็กๆ ที่เคยมาดูมีปลาวาฬเพชรฆาตด้วยนะเออ
เด็กๆ ชอบใจกันมากกับโชว์ปลาโลมากับสิงโตทะเล แต่กลับไม่มีปลาวาฬซะงั้น หม่าม้าก็ตอบเด็กๆ ไม่ได้เพราะอะไรถึงไม่มี
พอดูจบ ธีร์ก็เรียกหาอี๊บีที่นั่งห่างกันไม่ขาดปาก พอเจอหน้าก็บอกอี๊บีว่า "ขอโทษนะอี๊บี เค้าไม่มีโชว์ปลาฉลามแล้วล่ะ" ถ้าหม่าม้าเป็นอี๊บี หม่าม้าจะตอบธีร์ไปว่า "ขอโทษนะธีร์ อี๊บีเคยเห็นปลาวาฬแล้วล่ะ" 555
จบโชว์ นั่งกระเช้าลงไปด้านล่าง ไปดู Giant Panda Adventure ตามคำเรียกร้องของเฮียปรานต์
ในโดมขนาดใหญ่ เค้าจัดแสดงแพนด้าแดง
หมีแพนด้า...ไหนบอกว่าเป็น Giant Panda Adventure แพนด้าหลับตลอดกาล...
จบจากการดูแพนด้าก็ไปดูปลาทอง แล้วก็มุ่งหน้าไปช้อปปิ้งกันก่อนไปสนามบิน
ปรากฎว่าสนามบินฮ่องกงใหญ่มาก ถามเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เช็คอินบอกว่าต้องใช้เวลาประมาณ 25 นาที ต่อรถไฟใต้ดิน 2 ต่อ กว่าจะไปถึง Gate 44 อุแม่เจ้า คนผ่านตม. ล้านแปด ไปถึง Gate มีเวลาหาอาหารกินอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง รวมกับเดินดูของมลังเมลืองล่อตาล่อใจล้านแปด ประตูเปิดแล้ว หันไปสบตาเจ้าหน้าที่ ถามว่า Can we bring Starbucks on board? เจ้าหน้าที่บอกว่า Yes, you can. ดีใจน้ำตาไหลพราก ป๊าไปสอยมาให้ 1 แก้ว
ไฟลท์เต็มมาก ดีเลย์เล็กน้อย ในที่สุดเฮียปรานต์ก็หลับไป ส่วนธีร์ยังมีอารมณ์โพสต์ท่าถ่ายรูป
ในที่สุดเราก็เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ และเหนื่อยอ่อน ขอบคุณกงและม่าที่สนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้เป็นอย่างดี หวังว่าเราจะมีโอกาสเดินทางเช่นนี้อีกในเร็วๆ นี้ 555
ในโดมขนาดใหญ่ เค้าจัดแสดงแพนด้าแดง
หมีแพนด้า...ไหนบอกว่าเป็น Giant Panda Adventure แพนด้าหลับตลอดกาล...
จบจากการดูแพนด้าก็ไปดูปลาทอง แล้วก็มุ่งหน้าไปช้อปปิ้งกันก่อนไปสนามบิน
ปรากฎว่าสนามบินฮ่องกงใหญ่มาก ถามเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เช็คอินบอกว่าต้องใช้เวลาประมาณ 25 นาที ต่อรถไฟใต้ดิน 2 ต่อ กว่าจะไปถึง Gate 44 อุแม่เจ้า คนผ่านตม. ล้านแปด ไปถึง Gate มีเวลาหาอาหารกินอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง รวมกับเดินดูของมลังเมลืองล่อตาล่อใจล้านแปด ประตูเปิดแล้ว หันไปสบตาเจ้าหน้าที่ ถามว่า Can we bring Starbucks on board? เจ้าหน้าที่บอกว่า Yes, you can. ดีใจน้ำตาไหลพราก ป๊าไปสอยมาให้ 1 แก้ว
ไฟลท์เต็มมาก ดีเลย์เล็กน้อย ในที่สุดเฮียปรานต์ก็หลับไป ส่วนธีร์ยังมีอารมณ์โพสต์ท่าถ่ายรูป
ในที่สุดเราก็เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ และเหนื่อยอ่อน ขอบคุณกงและม่าที่สนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้เป็นอย่างดี หวังว่าเราจะมีโอกาสเดินทางเช่นนี้อีกในเร็วๆ นี้ 555