Tuesday, May 26, 2009

จู๋จี๋...จับตา

วันศุกร์ที่ผ่านมา หม่าม้าไปตรวจร่างกายประจำปี (นี้) มา หลังจากไม่ได้ตรวจมาหลายปี ก่อนจะไปตรวจ อาทิตย์นั้นเราก็ไปกินชีสซี่แม๊กซ์ พิซซ่า พร้อมกับสปาเก็ตตี้กุ้งโรเซ่ของโปรดของธีร์กันมาหลายครั้ง....ผลการตรวจเลือดของหม่าม้าปรากฏว่าระดับคลอเลสเตอรอลพุ่งกระฉุดไปที่ 230 ไตรกลีเซอไรด์ LDL พุ่งทะยาน ส่วน HDL ก็เตี้ยติดดิน นอกจากนี้ผลอัลตราซาวน์ยังบอกว่าท่อน้ำดีในตับโตเล็กน้อย มีนิ่วเล็กๆ ในไต และไตบวมน้ำเล็กน้อย คุณหมอแนะนำให้ไปพบคุณหมอเฉพาะทางอีกทีวันจันทร์

วันอาทิตย์ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี พลพรรคบ้านสายสี่ได้รับแรงกระตุ้นให้ไปกินร้านแดง แม่กลอง (อีกแล้วเหรอ) คราวนี้ชวนป๊าแต่เนิ่นๆ ป๊าจะได้เตรียมตัวทัน ออกเดินทางกันจากบ้านสายสี่ตอนสิบโมงนิดๆ ไปถึงร้านก็ 11 โมงน่าจะได้ สั่งอาหารมากินกันแบบลืมตัว (เหมือนกับทุกครั้ง 555) อิ่มกันขนาดที่ไม่เหลือที่สำหรับผลไม้หลังอาหารได้อีก ทั้งๆ ที่ปกติแม้จะอิ่มขนาดไหนก็ยังมีกระเพาะเหลือสำหรับของหวานๆ ได้เสมอ....หม่าม้าก็กินแบบลืมตัวว่าระดับคลอเลสเตอรอลพุ่งขนาดไหน...ไปกินผักหญ้าวันอื่นก็แล้วกัน แหะ แหะ แหะ

กินอาหารเสร็จสรรพ ก็เช่นเคยเราต้องแวะตลาด...บ้านสายสี่เป็นพวก เลี้ยวซ้ายผ่านตลาด...แวะ เลี้ยวขวาผ่านตลาด...แวะ ไม่แวะมีงอน 555 ไม่มีที่จอดรถ ส่งกงกะม่าลงไปสำรวจเส้นทางก่อน ธีร์บอกว่า "กงกะม่าไปจู๋จี๋กันในตลาด" เอ่อ คุณลูกครับ ไปเอาคำศัพท์ "จู๋จี๋" มาจากไหนเนี่ย

หลังจากได้ที่จอดรถ พระยาน้อยทั้งหลายก็ลงไปชมตลาดกัน แน่นอนว่าคุณชายอย่างธีร์ ตลาดเฉอะแฉะคุณชายไม่เคยเอาเท้าสัมผัส อี๊บีรับหน้าที่คู่หูอุ้มชูกันเข้าตลาดไป แวะร้านขายน้ำ ซื้อกาแฟเย็นกะโอวัลตินเย็นซะหน่อย (แก้วไหนของใคร เดาได้ ไม่น่าพลาด) หลังจากป้าคนขายส่งน้ำให้ ธีร์ก็บอกอี๊บีว่า "อย่างนี้แหละเค้าเรียกว่าจู๋จี๋" สรุป จู๋จี๋แปลว่าไปซื้อของ 555

หลังจากแยกย้ายกันชมตลาด เหลือป๊ากับหม่าม้ารั้งท้าย เดินกลับไปที่รถ อี๊บีรายงานว่า ธีร์บอกว่าป๊ากะม้าไปจู๋จี๋กันในตลาด...

ป๊ากับหม่าม้าเดินกลับมา กงกับม่าที่กลับมาถึงรถแล้วก็เดินกลับไปใหม่ ยังจะซื้อของเพิ่มอีก เปิดท้ายรถไว้ เนื่องจากกู๋คิมรักโลก ไม่สตาร์ทรถทิ้งไว้ ทำให้ผู้โดยสารจำนวน 3 รายได้แก่ ธีร์ อี๊บี และโมอิ๊ ที่ติดอยู่ในรถ ถูกปิ้งย่างกลางวันแสกๆ กู๋คิมผู้รักโลกก็ออกไปเดินดูว่ามีอะไรน่าสนใจ เราเลยเปิดท้ายรถทิ้งไว้จะได้ไม่ตายนึ่งให้เป็นที่อนาถ....

เปิดท้ายรถทิ้งไว้เฉยๆ สิ่งของด้านหลังอาจจะอันตรธานหายไปได้ อี๊บีและโมอิ๊เลยมอบภารกิจสำคัญให้ธีร์ บอกธีร์ให้จับตาดูของท้ายรถไว้ ถ้าใครมาหยิบไปให้กรีดร้อง....ธีร์ก็จับตามองอย่างจริงจังแบบนี้...
หลังจากซื้อของเสร็จสรรพเราก็เข้ากรุงเทพฯ ไปเยี่ยมเหล่ากง เหล่าม่า ซื้อสรรพสินค้าต้อนรับอาทิตย์ที่จะมาถึง...

และที่เล่าไปตั้งแต่ต้นว่าหม่าม้าจะไปหาหมอเฉพาะทาง ไม่ต้องคิดมากกัน หม่าม้าไปมาแล้ว หมอว่าไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วง ท่อน้ำดีในตับ...คุณหมอให้ตรวจอีกทีปีหน้า ส่วนไตบวมน้ำเล็กน้อยและนิ่วเล็กๆ นั้น ไม่ซีเรียส อีก 3 เดือนมาตรวจใหม่ ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรเพราะหม่าม้าไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น จบข่าว!!!

Friday, May 22, 2009

วันไปวัด

วันศุกร์เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ยะฮู้....

โรงเรียนธีร์เป็นโรงเรียนที่แปลกประหลาด (ในความเห็นของหม่าม้า) ไปโรงเรียนอาทิตย์ละ 5 วัน มีชุด 4 ชุด จำกันไม่หวาดไม่ไหว ใส่ผิดใส่ถูกไปโรงเรียน หม่าม้าเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนหม่าม้าสรุปว่า หม่าม้าสอบตกในความเป็นแม่ ไม่ใส่ใจ 555

อาทิตย์ที่ผ่านมาเราไปโรงเรียนทันแบบฉิวเฉียดทุกวัน...ตอนแรกนึกว่าจะต้องเอาเงินไปบริจาคให้โรงเรียนสลักชื่อธีร์ติดบอร์ดเด็กมาโรงเรียนสาย แทนที่เค้าจะพิมพ์กระดาษมาแปะซะแล้ว หุ หุ หุ ต้องคอยดูกันต่อไป

ธีร์ยังคงร้องไห้อยู่ทุกวัน แต่คุณครูว่าพอตกเย็นโรงเรียนเลิก สมธีร์เล่นเพลินไม่อยากจะกลับบ้านซะงั้น ทุกๆ เช้าธีร์จะร่ำร้องว่านี่ไม่ใช่วันไปโรงเรียนนะ วันนี้วันไปวัดต่างหาก...

จะใส่ชุดนักเรียน คุณหนูก็ลีลาท่ามาก อาการ "รังเกียจ" ชุดนักเรียนยังคงอยู่ กว่าจะล่อลวงกันได้ก็นานโข พอไปถึงโรงเรียน อาการรู้มากของธีร์ก็ทำงาน ทุกวันเปลี่ยนชุดตลอด ไม่เคยใส่ชุดนักเรียนได้จนถึงบ้าน ไม่ฉี่ราดบ้าง ก็ทำเสื้อเปียกต้องเปลี่ยนเสื้อบ้าง...

ออกจากบ้านไปโรงเรียนก็ยังมีปัญหา....ธีร์จะไปวัด ไปวัดไม่ได้ไปทางนี้ ทางโน้นต่างหาก ธีร์ไม่ไปทางนี้....นสรุป คุณหนูจำทางได้ หม่าม้าก็เลยเปลี่ยนทางขับรถไปโรงเรียนทุกวัน สร้างความสับสน 555
รองเท้านักเรียนไม่ใส่...ธีร์จะใส่คุณขาว
ไม่กินข้าว....กินแต่ขนม ของหวาน หลานโมอิ๊ชัดๆ
ไม่ยืนให้ถ่ายรูปดีๆ เดินไปเดินมา กว่าจะถ่ายได้ต้องทำตาโตใส่อยู่หลายคราว
พอไปถึงโรงเรียน...หม่าม้าไปจอดรถริมคลองสิ วันนี้จะมี monitor รึเปล่า (สัตว์เลื้อยคลานจำพวกจระเข้น้อย...) เพราะหลายวันก่อนตอนไปส่ง เราจอดรถริมคลอง ตอนเช้ามี monitor ว่ายน้ำเล่นอย่างเริงร่า พอตกเย็นป๊าไปรับ ก็มี monitor เล่นในเย็นใจอยู่ ไม่รู้ตัวเดียวกันรึเปล่า ธีร์ถึงขั้นติดใจ....จะดูอีกว่ามีรึเปล่า

ไปถึงโรงเรียนวันนี้ เดินผ่านหน้าห้องอนุบาล 1 เจอคุณครูจากโรงเรียนเก่าย้ายมาสอนที่นี่ หม่าม้าบอกให้ธีร์สวัสดี ธีร์หันหน้าหนี คุณครูอีกคนที่ไม่เคยรู้จักบ่นกับครูที่รู้จักกันว่า อะไรกันเจอหน้าครูทำหันหนี...ครูที่รู้จักกันแก้ตัวให้ว่า เค้าเป็นแบบนี้แหละ (แบบว่าเลวคงที่แหง) แล้วก็เข้ามาคุยซักถามพัฒนาการที่คงที่ของธีร์ ยกเว้นทางด้านอารมณ์ที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

จบการรายงานข่าววันนี้แต่เพียงเท่านี้นะเคอะ...แล้วหม่าม้าจะมาเล่าวีรกรรมของธีร์ใหม่!!!

Tuesday, May 19, 2009

กุ๊กไ่ก่ไปโรงเรียน ภาค2

เอารูปนี้ก่อน วันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปกินข้าวกันกับกง ม่า กู๋คิม และโมอิ๊ กินเสร็จจะกลับบ้าน (รีบหนีฝนกันอย่างรวดเร็ว) ธีร์ก็จูงป๊าไปนั่งที่เก้าอี้แล้วบอกว่า "ถ่ายรูปกัน" ทุกคนงงงันว่าธีร์มาอารมณ์ไหนเนี่ยจะให้ถ่ายรูป ก็ถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานดังนี้...(ไม่ชัด 555) เมื่อวาน ป๊าขับรถไปรอรับธีร์ตั้งแต่บ่ายสองโมงกว่าๆ โทรกลับมาบ่นๆ ว่าไม่มีที่จอดรถเลย...หม่าม้าบอกให้ป๊าคุยกับคุณครูด้วยว่าธีร์เป็นไงบ้าง

กลับมาบ้าน ป๊าบอกว่า...ธีร์เป็นคนเดียวในห้องที่เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกะกางเกงขายาวที่เตรียมไปจากบ้านกรณีฉี่ราด กินข้าวเที่ยงเสร็จเป็นคนสุดท้าย และนอนที่โรงเรียนเหมือนกัน

หม่าม้าเปิดกระเป๋าดู...อุแม่เจ้า ชุดที่เตรียมไปทั้งหมด กางเกง 2 ตัว เสื้อ 1 ตัว ชุดว่ายน้ำ 1 ชุด (อันนี้ในใบของคุณครูว่าให้เอาชุดว่ายน้ำไปด้วยวันจันทร์) คุณหนูธีร์ใส่ซะเกลี้ยง ดีนะที่กางเกงตัวสุดท้ายรอดกลับมาบ้านได้ มิฉะนั้น คุณหนูคงได้ใส่ชุดว่ายน้ำพุงเต่งกลับมาบ้านเป็นแน่แท้

ป๊าถามธีร์ว่าทำไมปวดฉี่ไม่บอกคุณครูล่ะ ธีร์ตอบว่า "ก็ธีร์ไม่ชอบชุดนักเรียน ธีร์'รังเกียจ'ชุดนี้ ธีร์อยากใส่ชุดนิ่มๆ"

หม่าม้าถามธีร์ด้วยคำถามเดียวกัน ธีร์ตอบหม่าม้าว่า "ก็ธีร์พลาด!!!"

กลับมาบ้าน ธีร์ก็นอนดูการ์ตูนนิ่ง ง่วง เนื่องจากเป็นเด็กที่ไม่สามารถอยู่นิ่นๆ (ภาษาธีร์) ได้ ธีร์ก็เลยตกจากโต๊ะเตี้ยหน้าทีวี เอาหัวปักพื้นโหม่งโลกไป 1 ที ร้องไห้จ๊ากๆ อยู่ แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที ธีร์ก็ปีนป่ายและหล่นจากโซฟาไปกองอยู่กับพื้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ร้อง แต่ลูกขึ้นมาบ่นๆ ว่าตกอีกแล้ว ขาเจ็บเลย (เป็นพวกปลาทองความจำสั้น หรือไม่ก็เจ็บไม่จำ)

เย็นวานธีร์กินข้าวไปมาก...มากกว่าปกติ ไม่รู้ว่าไข่พะโล้ที่อยากกินนักหนาอร่อย หรือว่าหิวโซหัวโตมาจากโรงเรียนกันแน่ แล้วก็งอแงเพราะง่วงนอนมาก แต่พอให้นอนธีร์ก็ไม่ยอมนอนจนกระทั่ง 3 ทุ่ม

05.30น. โดยประมาณ ธีร์ตื่นมาถามหม่าม้าว่าตื่นได้แล้วหรือยัง ธีร์ตื่นแล้ว แต่ตบๆ ก้นแล้วไหงหลับต่อไปได้ไม่รู้

06.40น. ปลุกให้ธีร์ตื่นนอน ธีร์ไม่ตื่นครับหม่าม้า....อารายของธีร์ ทุกครั้งที่ตื่นคุณหนูจะต้องถาม schedule ประจำวันว่าวันนี้เราจะไปไหนกัน ได้รับคำตอบว่าไปโรงเรียน ธีร์ตอบว่า...วันนี้วันไปวัดนะ ธีร์จะไปวัด!!!

วันนี้ครูเขียนว่าให้ใส่ "ชุดพละ" อาบน้ำแต่งตัว กินข้าว เสร็จ เอานมไปกินบนรถ เนื่องจากวันนี้หมดโปรโมชั่นจากป๊าแล้ว เรา 2 คนก็เลยต้องไปโรงเรียนกันเอง ถึงโรงเรียนประมาณอีก 5 นาที 8 โมง


พาไปที่ห้องเรียน ปรากฎว่า "ชุดพละ" ในความเป็นจริงและชุดพละในความคิดของหม่าม้าแตกต่างกัน พี่เลี้ยงที่ห้องบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ มีคนใส่ผิดมาหลายคนเหมือนกัน 555

พาธีร์ไปส่งคุณครูที่แถว คุณครูมากระซิบว่า คุณแม่คะ ชุดนี้ต้องใส่พรุ่งนี้ค่ะ....แป่ว แป่ว แป่ว แล้วธีร์ก็ถูกคุณครูชาวฟิลิปปินส์ล๊อคคอไว้ บอกธีร์ว่า "Mama will go." หม่าม้าก็วิ่งหนีออกมาโดยพลัน ดังนั้นคำถามที่ใครๆ ถามว่า "ธีร์ร้องไห้รึเปล่า" วันนี้ได้รับคำตอบว่า... ร้องสิ จะพลาดได้ไง๊ หุ หุ หุ

Monday, May 18, 2009

กุ๊กไก่ไปโรงเรียน

17 พฤษภาคม 2552 เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง

หม่าม้า: (ตรู๊ด ตรู๊ด โทรศัพท์ไปหาคุณครูประจำชั้นของธีร์) สวัสดีค่ะ คุณครูเกดนะคะ นี่แม่ของธีร์ค่ะ
คุณครู: ค่ะคุณแม่
หม่าม้า: เอ่อ คุณครูคะ พรุ่งนี้โรงเรียนเปิด ใส่ชุดอะไรไปโรงเรียนคะ
คุณครู: ชุดนักเรียนค่ะคุณแม่ ตามที่เขียนไว้ในใบที่ให้ไปน่ะค่ะ
หม่าม้า: ค่ะชุดนักเรียน แต่ชุดนักเรียนนี่ชุดไหนคะ ใน 3 ชุดที่โรงเรียนให้มาน่ะค่ะ
คุณครู: อ๋อ ชุดนักเรียน ชุดเสื้อสีขาวกางเกงสีกรมท่าค่ะ เป็นชุดที่ผู้ปกครองต้องซื้อเพิ่มเองน่ะค่ะ
หม่าม้า: ตึง! ต้องซื้อเพิ่มเองเหรอคะ??? ไม่เห็นมีใครบอกเลยค่ะ ถ้าพรุ่งนี้ธีร์ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนไปเป็นอะไรไหมคะ
คุณครู: ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใส่ก็ใส่ชุดอื่นมาก่อนก็ได้ แต่ใส่เป็นเสื้อขาวดีกว่านะคะ จะได้ไม่แตกต่างจากคนอื่นมากค่ะ

หม่าม้าวางสายจากคุณครูด้วยความตระหนก...แว้กกกก ชุดนักเรียน ยังไม่ได้ซื้อ นี่ถ้าไม่ชะล่าใจโทรถามคุณครูแต่เนิ่นๆ ก็ไม่ต้องมานั่ง งง งง ก่งก๊งแบบนี้ โทรหาป๊า ป๊าก็ได้รับความงง ก่ง ก๊งด้วยกัน ไม่รู้เหมือนกัน พรุ่งนี้จะเปิดเทอมแล้ว พ่อแม่อย่างเราเตรียมตัวพร้อมมาก

หม่าม้าตัดสินใจไปบางลำภูไปซื้อชุดนักเรียนทันที โทรปรึกษาคุณครูตลอดว่าชุดนักเรียนหน้าตาเป็นไง 555 ไปซื้อชุดนักเรียนให้ธีร์ กง ม่า อี๊บี โมอิ๊ ไปกันหมด ซื้อชุดนักเรียน 1 ชุด ใช่รึเปล่าก็ไม่รู้ โรงเรียนอยู่ไกลจัด ร้านขายชุดนักเรียนในกรุงเทพไม่รู้จัก 555

หลังจากซื้อเสร็จ ก็มีเสียงลอยมาว่า แล้วธีร์มีรองเท้านักเรียนรึยัง....ยังไม่มี ซื้อไปด้วยเลยสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีใส่ (นะยะ)

ทุ่มกว่าๆ หลังจากปรึกษาหารือกะป๊า ตัดสินใจแวะบิ๊กซีนครปฐม ซื้อชุดนักเรียนอีกชุด คราวนี้แน่ใจได้ว่าเป็นชุดนักเรียนอนุบาลของธีร์แน่ ร้านนี้เค้าขายชุดนักเรียนของเด็กโรงเรียนในจังหวัด รอปักชื่อ ปักกระเป๋าเสร็จ กลับบ้านซักชุดใหม่ซิงๆ ซักซ้อมกับธีร์มาหลายวันว่าวันจันทร์เปิดเทอมแล้วนะหนู ต้องไปทำอะไรที่โรงเรียนบ้าง แม้ว่าจะได้รับคำตอบว่า "ธีร์ไม่อยากไปโรงเรียน อยากอยู่บ้านดูการ์ตูน..." ก็ต้องเออ ออ ห่อ หมก ไปว่า ได้กลับมาดูหลังเลิกเรียน

18 พฤษภาคม 2552
06.45น. เริ่มต้นปลุกธีร์ไปอาบน้ำแต่งตัว กว่าจะลากลู่ถูกังกันไปได้ ...ตื่นมาวันนี้ ทำไมหัวตั้งเป็นกุ๊กไก่อีกแล้ว (ฟระ)
07.40น. ธีร์กรุณาสวัสดีทุกคน เอาแซนวิชไปกินในรถนะลูก เดี๋ยวไปสาย (ทำตัวเป็นเด็กในเมือง กินข้าวในรถ) แว้กกกก ธีร์ไม่ไปโรงเรียน ไม่ไป แต่ก็ล่อลวงกันออกมา
กัดแซนวิชหน้าบ้านโชว์ ธีร์ไม่ไปโรงเรียน
ธีร์ไม่ไปโรงเรียน พร้อมกับกินแซนวิชในมืออย่างละเลียดสบายอารมณ์
รถติดก็เคี้ยว รถไม่ติดก็เคี้ยว แต่เคี้ยวเอื้อง
นอกจากเคี้ยวเอื้องแล้ว กุ๊กไก่ก็ยังทำหน้าแบบนี้ได้ด้วย ถอดรองเท้าทิ้งแล้วร้องแควกๆ ปากก็บ่นว่าคัน ชุดคัน....
รูปสุดท้ายในรถก่อนจะพุ่งลงจากรถเดินเข้าไปในโรงเรียน ส่วนป๊าก็ขับรถไปวนหาที่จอดรอหม่าม้าส่งธีร์ไปที่ห้องเรียน

ไปถึงห้องเรียน กุ๊กไก่น้อยก็ยังกินแซนวิชไม่เสร็จ พี่เลี้ยงบอกว่าเค้าไปเข้าแถวกันแล้วค่ะคุณแม่ พากันเดินไปเข้าแถว เจอคุณครู คุณครูบอกให้กินเสร็จก่อนค่อยไปเข้าแถว หม่าม้าก็เลยต้องนั่งรอธีร์ไปก่อน ระหว่างกิน หม่าม้าก็บอกธีร์ไปว่า เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปเข้าแถวนะครับ หม่าม้าก็จะกลับไปรอธีร์ที่บ้าน ได้ยินเช่นนั้น ธีร์ก็เกาะหนึบเป็นลูกลิงทีเดียว

กินเสร็จ หม่าม้ากินนมหมดกล่อง ล่อลวงธีร์ไปหาคุณครู เอาคุ้กกี้ไปฝากโทษฐานโทรไปรบกวนวันหยุด ล่อลวงธีร์อีกครั้งว่าจะเอากล่องนมไปทิ้งแล้วจากมา ไม่ทันได้รู้ว่ากุ๊กไก่ร้องไห้รึเปล่า....
ผ่านไปอีกเช้านึง วันนี้วันแรกโรงเรียนเลิกบ่าย 3 โมง คุณครูว่าวันอื่นๆ จะเลิก 4 โมงครึ่ง...ธีร์คงกลับมาบ้านในสภาพหิวโซเป็นแน่แท้ กลับมาวันนี้แล้วจะเป็นอย่างไร กรุณาอดใจรอติดตามตอนต่อไป.....

Sunday, May 10, 2009

แต่งงาน

เมื่อคืนวาน ม่าหยิบอัลบั้มรูปหม่าม้าตอนเด็กๆ ออกมาให้ธีร์ดู ชี้ไปที่รูปม่าอุ้มหม่าม้าเวอร์ชั่นเบบี๋อายุ 1 เดือน ถามธีร์ว่านี่รูปใคร...

ธีร์ดูแว้บแรกก็บอกว่ารูปหม่าม้า กับธีร์...ดูอีกทีก็อ้ำๆ อึ้งๆ แล้วก็วิ่งหนีไป จนในที่สุด ม่ากับหม่าม้าเฉลยว่าเป็นรูปของม่ากับหม่าม้า ธีร์ก็เข้ามาดูใกล้ๆ อีกที สงสัยจะงง ทำไมหม่าม้าตัวเล็กได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็เป็นหม่าม้าธีร์เลยเหรอ....เซนส์ด้านการเจริญเติบโต และเวลายังทำงานได้ไม่ดี 555

อ่านนิทานเสร็จ ปิดไฟ เตรียมตัวเข้านอน เดี๋ยวนี้ธีร์จะมีอาการไม่อยากนอน พอเป็นแบบนี้สมธีร์ก็มักจะชวนคุยสารพัดสารพัน คุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ คุยไปเรื่อย

แล้วเราก็คุยกันเรื่องรูปที่ธีร์ดูไปเมื่อตอนก่อนนอน หม่าม้าก็เล่าว่าหม่าม้าเป็นเบบี๋ แล้วหม่าม้าก็โตขึ้น แต่งงานกับป๊า แล้วก็มีธีร์ อีกหน่อยธีร์ก็โตขึ้น ธีร์ก็จะแต่งงาน แล้วก็เป็นป๊าของใครซักคน แล้วหม่าม้าก็จะกลายเป็นม่า...

ธีร์ได้ยินดังนั้นก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย....แล้วธีร์จะแต่งงานกับใครล่ะครับหม่าม้า

หม่าม้าก็ไม่รู้เหมือนกันลูก ก็คงเป็นใครซักคนที่เป็นคนดี ที่ธีร์ชอบน่ะครับ...

ธีร์ก็นิ่งไปแป๊บนึง บ่นออกมาว่า ทำไปหม่าม้าแต่งงานกับป๊าล่ะ แล้วธีร์จะแต่งงานกับใคร ธีร์ไม่ชอบเลย ธีร์แต่งงานกับหม่าม้าก็แล้วกัน...อ้าว ธีร์แต่งงานกับหม่าม้าแล้วใครจะเป็นม่าละครับ

เจอมุขนี้ไป ธีร์ก็บ่นอีกว่า แต่ธีร์ยังไม่มีสาวเลยนะ ธีร์ต้องไปหาสาวก่อน...ต้องเป็นเด็กผู้หญิงผูกโบว์ซักคนนึง

หม่าม้าบอกธีร์ว่า ไม่เป็นไรหรอกครับ มันอีกนาน เป็นเรื่องของอนาคต แปลว่ายังมาไม่ถึง ธีร์คงต้องรออีกหลายสิบปีแหละกว่าจะแต่งงาน ธีร์ก็ยังคงฝังใจ...ว่าธีร์จะแต่งงานกับใครล่ะ

หม่าม้าก็เลยชวนคุยต่อ ธีร์จะไปหาสาวเหรอครับ ใครดีล่ะ แล้วหม่าม้าก็ไล่ชื่อเด็กผู้หญิงที่เรา 2 คนรู้จัก คนนั้นไงธีร์ คนนี้ไงธีร์ เค้าก็ผูกโบว์นะ ธีร์ก็ส่งเสียง "ฮึ่ย" ไปทุกชื่อ แล้วก็หลุดออกมาว่า "เอาสวยๆ หน่อยซี๊"

อ้อ...ที่ส่งเสียงไม่พอใจ ฮึ่ยๆ นี่เพราะแต่ละชื่อที่ไล่มาสวยไม่ถูกใจซะงั้น หม่าม้าขำจนทนไม่ได้ โทรไปเล่าให้ป๊าฟัง ธีร์ก็บอกป๊าไปว่าธีร์ต้องไปหาสาว ก่อนที่เราจะออกทะเลกันมากมาย หม่าม้าก็เลยตัดบทบอกธีร์ไปว่า เอางี๊แล้วกันธีร์ ธีร์ไปนอนก่อนนะลูก แล้วเราค่อยให้ป๊าช่วยหาสาวให้ธีร์นะ...ธีร์ชอบเด็กผู้หญิงผูกโบว์สีอะไรล่ะครับ ป๊าจะได้ไปหาให้ถูก....

ธีร์ตอบว่า เด็กผู้หญิงผูกโบว์สีชมพูครับป๊า

เช้าวันนี้หม่าม้าเล่าให้ม่า กับโมอิ๊ฟัง ทุกคนขำมาก โมอิ๊ถามว่าโมอิ๊ผูกโบว์สีชมพูได้มั้ยครับ ธีร์ก็ฮึ่ยๆ เราก็เลยสรุปกันว่า งั้นเอาเป็นอี๊บีผูกโบว์สีชมพูแล้วกันครับ หุ หุ หุ

Thursday, May 07, 2009

พ่อหนุ่มนักแปลงเรื่อง

ระหว่างป๊ากำลังนอนปวดหัว..ธีร์ที่อาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ ก็หยิบหนังสือนิทานขึ้นมาปึนป่าย แล้วบอกว่า ป๊าครับ อ่านนิทานให้ธีร์ฟังหน่อย...

ป๊าก็ปฏิบัติตามโดยดี หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านให้ธีร์ฟัง เป็นเรื่องของหนอนตัวหนึ่งที่อยากบิน..และมีตัวเบาเหมือนดอกแดนดีเลี่ยนที่ลอยไปในอากาศ จบท้ายด้วยความสมหวัง.. ที่หนอนตัวนี้กลายร่างเป็นผีเสื้อในที่สุด

ยังอ่านไม่ทันจบดี ธีร์ก็คว้าหนังสือเล่มต่อไปขึ้นมาเตรียมไว้ทันที ป๊าครับ.. อ่านเรื่อง"หมีพูน"ให้ธีร์ฟังหน่อย (หึหึ) หมีพูนเหรอ? โอเค๊ มะ! ป๊าอ่านให้ฟัง หมีพูห์เดินตามผึ้งมาหาเพื่อนที่บ้านของแรบบิท ไหน! หมีพูห์มีเพื่อนชื่ออะไรบ้างครับ ธีร์ก็ทันควันตอบเสียงดังแบบกวนๆทันที "ทิกกุ้ย" ธีร์ชอบทิกเกอร์นะ แต่ทิกเกอร์ไม่เดินเลย เอาแต่กระโดดๆ (ธีร์ไม่มีหาง) ธีร์คงต้องใช้ก้นกระโดดๆให้เหมือนทิกเกอร์นะ ว่าแล้วก็ทำท่ากระโดดๆบนเตียง ไม่ฟังนิทานต่อ

ธีร์ครับ.. ถ้าธีร์ไม่ฟัง งั้นป๊าไม่เล่าต่อแล้วนะ... ธีร์เงียบไปสักพักใหญ่ๆ แล้วบอกว่า ธีร์อยากตัวเบาเหมือน"ดัลเมเชี่ยน"ที่ลอยไปในอากาศครับป๊า ~ ~

ปล.ทั้งหมดนี้ ธีร์เปลี่ยนชื่อแซ่ให้ตัวละครด้วยความตั้งใจกวนจริงๆ ป๊าเจอแบบนี้แล้วหายปวดหัวทันทีเลยครับ :-)

Tuesday, May 05, 2009

เขาค้อ ฉบับย้อนหลัง

27-28 เมษายนที่ผ่านมา (แปลว่าเรื่องนี้เป็นของหมักดองนั่นเอง หุ หุ หุ) ธีร์กะหม่าม้าติดสอยห้อยตาม กง ม่า แล้วก็กู๋คิมไปเขาค้อมา กงกะม่ามีภารกิจต้องไปทำ หม่าม้าเห็นว่าอยู่บ้านธีร์ก็คงนั่งดูการ์ตูนแบบ non-stop ไปนั่งรถเล่นซะหน่อย

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เดือนเมษายนสมควรเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุด กลับกลายเป็นว่าฝนตกปรอยๆ ไปตลอดทั้งขาไปและขากลับ 

เราออกจากบ้านกันตั้งแต่สายๆ กงบอกว่าให้ไปเรื่อยๆ ฝนก็ตกไปเรื่อยๆ ตลอดทางเช่นกัน แวะเบี้ยบ้ายรายทางกันไปตลอด เดี๋ยวแวะอึ (ธีร์) เดี๋ยวแวะซื้อกาแฟ (กู๋คิม) เดี๋ยวแวะ บลา บลา บลา....บ่ายโมงกว่าก็เพิ่งจะถึงวิเชียรบุรี เพื่อไม่ให้เสียชื่อชาวบ้านสายสี่อย่างเรา ก็แวะกินกัน ไก่หมดไปตัวกว่า อาหารอีกหลายอย่าง ธีร์ผู้ซึ่งถูกสกัดดาวรุ่งตั้งแต่ในรถด้วยขนมจีบเลยกลายเป็นเด็กคีบน้ำแข็งไปซะงั้น
กินอิ่ม เราก็นั่งรถกันต่อไป ธีร์ก็สลบสิ้นสติไปชั่วครู่ ก่อนทางแยกบ้านนางั่ว (ซึ่งภายหลังกงเรียกไปเรียกมาเป็นแยกน้ำเงี้ยวไปซะงั้น) มีการแวะซื้อขนมจีบ-ซาลาเปาไว้เป็นเสบียง ทั้งๆ ที่เพิ่งกินข้าวเที่ยงกันมาไม่เท่าไหร่ แต่ซาลาเปาจิ๋วทั้ง 6 ลูกก็หมดไปโดยพลันพร้อมขนมจีบอีก 1 กล่อง พลังการทำลายล้างสูงลิบ

ขึ้นเขา - ลงเขา - ขึ้นเขาไปเรื่อย มีการแวะที่เนินมหัศจรรย์ทดสอบรถไหลไปเองได้เล็กน้อย...ตรงนี้มีป้ายริมถนนปักไว้ประมาณว่า จงระวัง ข้างหน้ามีรถจอดทดสอบเนินมหัศจรรย์ กรุณาหลบหลีกตามอัธยาศัย ที่จุดชมวิวแวะพักริมทาง ธีร์ก็ตื่นมาชมวิว ชี้มนุษย์ต่างดาว ทำหน้าแป้นแล้น หม่าม้าก็ซื้อมะขามชิมซะหน่อย เค้าแกะเปลือกแล้ว ซื้อเสร็จม่าก็บ่นว่าแกะแล้วแบบนี้จะสะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้...กู๋คิมกะหม่าม้าเห็นตรงกันว่า กินมะขามจะสะอาดรึไม่สะอาด ผลลัพธ์ก็คงที่
ไปต่อไป...แวะอีกทีก็พระตำหนักเขาค้อ ฝนเพิ่งหยุดตก เดินเล่นได้แค่รอบๆ ถนน ถ่ายรูปกันมาเล็กน้อย โปรดสังเกตว่ากงและกู๋คิมหายไปจากรูป เพราะกง...เดินหายไป ส่วนกู๋คิมนั้นไซร้ ก็เป็นตากล้องนั่นเอง
ออกจากพระตำหนักเขาค้อ ก็ขับรถไปอีก...ออกจากบ้านสายๆ ตกเย็นจะ 5 โมงเย็นแล้วยังไม่ถึงที่พัก คิดสะระตะไปมา สรุปว่าเราไปขับรถอ้้อมเขาค้อมา 1 รอบ แทนที่จะมุ่งหน้าไปที่พักเลย....ไงล่ะ ไปเรื่อยๆ

ที่พักคืนนั้นของเราเป็นบ้านหลังใหญ่บิ๊กเบิ้ม อยู่กันแค่ 5 คน พักได้จริงๆ เป็น 10 กลางคืนฝนตก อากาศกำลังดี ไม่หนาว ไม่ร้อน คุณเจ้าของบอกว่าช่วงนี้เขาค้อจะอากาศดีสุด หน้าหนาวจะหนาวเกินไป

วันรุ่งขึ้นหลังจากกงกะม่าทำธุระเสร็จเรียบร้อย เราก็กลับมุ่งหน้ากลับบ้านสายสี่โดยไม่ลืมคติประจำบ้าน "เลี้ยวซ้ายผ่านตลาด" และ "เลี้ยวขวาผ่านตลาด" ที่บอกกันว่าไม่มีไรซื้อกลับถึงบ้าน ที่นั่งด้านหลังกู๋คิมพลขับเต็มไปด้วยขนม อาหาร และผักสด นี่ถ้ามีใครไปอีกคงต้องไล่ให้ไปนั่งบนหลังคารถแทนเป็นแน่แท้ 555

Monday, May 04, 2009

บ้านใหม่

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเราไปงานขึ้นบ้านใหม่ของอี๊อันกันมาครับ พลพรรคประจำรถของเราประกอบด้วยกง ม่า อี๊บี ป๊า หม่าม้า แล้วก็ธีร์ จริงๆ แล้วก็เป็นเหมือนงานรวมญาติกลายๆ เลยครับ ญาิติของหม่าม้าไปกันเกือบครบ ขาดไปแค่ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือกู๋คิมที่ตะแล้นๆ ไปภูเก็ตกับเดอะแก๊งค์ของเค้านั่นเอง

ญาติเยอะมากจนหม่าม้า อี๊บี ธีร์ แล้วก็ป๊าต้องไปนั่งกันบนบันไดระหว่างพระสวด
โฉมหน้าอันยิ้มแย้มของป๊าที่นานๆ ถ่ายได้ที (เดี๋ยวเค้าจะหาว่าไม่มีรูปอีก)
งานนี้หลวงตาทวดมาด้วย ถ่ายรูปหมู่กันหน่อย ในรูปนี่ไม่ครบ แค่บางส่วนเท่านั้นเอง
ครอบครัวเรากะหลวงตาทวด
งานนี้ธีร์มีวีรกรรมอันเลวร้ายมากมาย หม่าม้าไม่อยากบันทึกไว้ให้เป็นรอยร้าวในชีวิตหม่าม้า ขอให้เป็นแค่เรื่องเล่าในครอบครัวก็แล้วกัน (แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยใจกับลูกดื้อเจรงๆ)

เรื่องเด็ดประจำวันนี้....ธีร์เดินไปเดินมาในบ้าน ไปหยุดที่โต๊ะหน้าทีวี นิ่งซักพักก็ตะโกนบอกหม่าม้าว่า..."หม่าม้าครับ มีคนหัวแตก เค้าบอกในหนังสือพิมพ์" หม่าม้าก็เออ ออ ห่อ หมก ไปตามเรื่อง แต่ก็สงสัย ใครหัวแตกฟระ...ปรากฏว่าธีร์ก็วิ่งหยิบมติชนสุดสัปดาห์ หน้าปกสนธิ ลิ้มทองกุลนอนอยู่บนเตียงมีผ้าก๊อซปิดแผลบนหัวมาให้หม่าม้าดู ย้ำอีกครั้งว่า คนนี้เค้าหัวแตกครับ แล้วมือนี่มือใครครับ แถมเปิดไปหน้าใน มือแม่นซะอีก เห็นอีกรูปที่คุณหมอเย็บแผลไว้โดยไม่มีผ้าก๊อซปิดซะด้วย พอหม่าม้าอธิบายว่าเค้าหัวแตก คุณหมอก็เลยต้องเย็บแผลปิดไว้...ธีร์ทำหน้างงๆ แล้วก็วิ่งต่อไป...พลังงานเหลือเฟือทั้งๆ ที่วันนี้ไม่ยอมนอนกลางวัน ดื้อ ต่อต้านอย่างรุนแรงมาก ทำหม่าม้าน้ำตาไหลพรากด้วยความเซ็งไปแล้วหลายรอบ เฮ้อออออ