Sunday, January 20, 2008

หัวหิน...again

14 มกราคม วันจันทร์
ระหว่างที่หม่าม้ากำลังกินข้าวเช้า (เมื่อตอนเกือบจะเที่ยงมั้ง) จู่ๆ กงก็ส่งข้อความมาทาง msn (ไงล่ะ...เดี๋ยวนี้เค้าปั๊ดตะนาแล้นนา ใช้ msn ด้วย) ถามว่าเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงว่างมั้ย ไปหัวหินกันมั้ย หม่าม้าไม่แน่ใจ ผลัดไปถามป๊าก่อน สรุปว่าวันจันทร์ได้ความว่าเราจะไปหัวหินกัน วันเสาร์-อาทิตย์ หม่าม้าไปจัดการจองโรงแรม

15 มกราคม วันอังคาร
หม่าม้าถูกท่านกงกงติดตามถามไถ่ว่าจองโรงแรมได้รึยัง หม่าม้าพยายามจอง และโบ้ยๆ ให้กู๋คิมกะโมอิ๊ไป สรุปว่าโมอิ๊ไปจองโรงแรมได้แล้วสำหรับที่เราจะไปพักผ่อนกัน ราคาพอสมควรแก่อัฐ-กะภาพ(สะกดผิดโดยตั้งใจ เด็กคนไหนอ่านเจอ อย่าเอาเยี่ยงอย่าง) บอกข่าวว่าจะไปทิเลกะอี๊บี ได้คำตอบกลับมาว่า "พวกทรยศ"!!!

18 มกราคม วันศุกร์
ระหว่างกล่อมธีร์เข้านอนตอนกลางคืน หนังสือเด็กเล่มเล็กๆ ที่เราอ่านกัน (ทำจากกระดาษแข็ง ขนาดพับแพ็ค) พลาดจากมือ หล่นใส่หน้าธีร์ เลือดไหลซิบ...ตกใจกันทั้งแม่ทั้งลูก ธีร์ค้าบบบ หม่าม้าเสียใจ ไม่ได้ตั้งใจเลยครับ ขอโทษนะครับลูก ธีร์มีตำหนิอีกหนึ่งจุด

19 มกราคม วันเสาร์....ออกเดินทางโลด
ประมาณ 9 โมงครึ่ง กง ม่า หม่าม้า ธีร์ โมอิ๊และกู๋คิมพลขับ พร้อมออกเดินทางสู่นครปฐม ไปรับป๊า ไปกันทั้งหมด 7 คน มีกล้องไป 3 ตัว หอบหิ้ว...กระเตงกันไปหัวหิน ขาดสมาชิกไปหนึ่งคน ไว้ไปใหม่อีกคราวหน้าเนาะ....รถออกจากบ้านนครปฐมไม่เท่าไหร่ หม่าม้าหิวข้าวจะขาดใจ ขอแวะโพธารามกินบะหมี่เจ้าอร่อยรองท้องก่อน คนอื่นๆ ทั้งๆ ที่บอกว่าจะเก็บท้องไว้กินแต่ของอร่อยเท่านั้น ก็กินกันคนละชามสองชาม...บะหมี่เจ้านี้ก็อร่อยนะ...จะบอกให้

ระหว่างทาง ธีร์ถูกล่อลวงให้นอนหลับพักผ่อนซักเล็กน้อย กว่าจะหลับได้ หม่าม้าคอแห้ง ร้องเพลงไปหลายเพลง ธีร์ตื่นมาอีกที เราถึงสะพานปลาที่ชะอำ กินอาหารเที่ยง (ซึ่งก็ปาเข้าไปบ่ายกว่าแล้ว) อาหารทะเลมื้อแรกของเราประกอบด้วย กุ้งแม่น้ำ (ทะเลยังไง!!! แต่ขอบอกว่าอร่อยเด็ด) ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว ปลากระพงนึ่งมะนาว หอยเชลล์ผัดฉ่า ไข่เจียวปู ข้าวผัดปู ขอบอกว่าอาหารสดมาก มากขนาดที่เจ้าปลากระพงตัวที่สิ้นชีพในกระทะนึ่งมะนาวนั้นถูกคนขายช้อนขึ้นมาถามว่าตัวนี้โอเคป่ะ...หม่าม้าที่กำลังยืนชี้ชวนให้ธีร์ดู กุ้ง หอย ปู ปลา เบือนหน้าเล็กน้อย ตอบกลับไปว่า "ยังไงก็ได้ค่ะ" อย่ายัดเยียดความเป็นฆาตกรให้เรานา

กินอาหารเที่ยงเสร็จ ทุกคนลงมติให้ไปเดินย่อยก่อน กู๋คิม ตากล้องอ้วนของธีร์ ก็เลี้ยวรถเข้าไปพระราชนิเวศน์มฤคทายวันก่อน กู๋คิมมีจุดมุ่งหมายที่จะมาเดินถ่ายรูปสวยงาม คนอื่นๆ ไปเดินย่อยอาหารที่กินกันพุงจะแตก...ระหว่างทางคุยกันกับธีร์ ถามว่าคราวก่อนมาทะเลกับใคร ธีร์ตอบว่า อี๊บี แล้วก็คุยๆ กัน ธีร์พูดต่อว่า "อี๊บีไปทำงานเมลเบิร์น ไม่ได้มา" ม่า โมอี๊ กะหม่าม้าฟังแล้วถึงกะอึ้งๆ มันพูดเองได้แบบนี้เลยวุ้ย กลัว...กลัว ถ่ายได้รูปมาประมาณนี้ จากกล้องพอลล่า กล้อง 350D ของป๊า และ 40D ไฮโซของกู๋คิม

เล็งซ้ายเล็งขวา ท่า Pocoyo มากๆ

ธีร์กะพ่อแม่ที่แท้จริง... พอเดินเสร็จ ธีร์ก็มานั่งกินไอติมแบบนี้...ขอบอกว่าไอติมผลไม้ที่เค้าขาย scoop ละ 40 บาท รสสตรอเบอรี่อร่อยมาก รสชาดเหมือนแห่กันแดกทีเดียวเชียว ระหว่างที่หม่าม้าซื้อไอติมสตรอเบอรี่ก็แอบได้ยินลุงฝรั่งคุยกะป้าว่ารสเสาวรสก็อร่อยเหมือนกัน ไปซื้อมาลองชิม ปรากฏว่ามีม่ากะหม่าม้าที่บอกว่าอร่อย (เปรี้ยวมาก และหอมเสาวรสมากเช่นกัน) ส่วนป๊าว่าไม่โอนา กินไอติมกันไปคนละถ้วย...ไหนว่าอิ่มจะตายแล้ว ยังกินขนมกันได้อีกแฮะขากลับไปที่รถ กู๋คิมถ่ายรูปนี้มาได้ มานั่งดูแล้วบอกว่า หน้าตาร้อนพอกัน...เจ้าลูกอ้วนหน้าตาไม่เอนจอยมาก ประมาณว่าร้อนจะตายแล้วค้าบบบบ มาทำไมกันเนี่ยยยย

รูปล่างนี้จากกล้องพอลล่า (แยกกันออกแล้วใช่ป่ะว่ากล้องไฮโซน่ะ สีท้องฟ้าเป็นฟ้าแบบไหน) โปรดสังเกตด้านขวาของรูป...ใครเอ่ยยย
ที่แท้ก็ม่านี่เอง ปั่นจักรยานซะด้วย คริ คริ
เดินทางต่อไปที่โรงแรม นี่คือหน้าตาโรงแรมที่เราไปพักกัน รูปถ่ายดูดี หน้าตาไฉไล...ของจริงก็ไม่ขี้เหร่หรอก แต่รูปมันสวยเว่อร์ไปประมาณ 50 เปอร์เซนต์
หอบสัมภาระไปกันเอง (โรงแรมนี้เป็นแบบ self-service พนักงานเห็นว่าเราแข็งแรง มีความสามารถ ขนของเอง แล้วก็เดินไปห้องเองได้ ไม่หลงทางแน่)สำรวจห้อง คราวนี้เราไปพักห้องแบบหนึ่งห้อง ข้างในมีห้องนอน 3 ห้อง ธีร์สนุกสนานกับการวิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องโน้นห้องนี้มาก พอเก็บข้าวเก็บของเล็กน้อย กงก็ชักชวนธีร์ไปเล่นน้ำกัน....กงกะธีร์กะเวิ้งฟ้าอันกว้างไกล ไม่มีผู้คนมาเกะกะเราสอง...
จริงๆ ก็ไปกันหมดแหละ แต่เลือกเอารูปมาลงไง...ดูประมาณว่าเป็นพ่อแม่แสนดี พาลูกมาเล่นน้ำทะเล แต่จริงๆ แม่มันก็แค่ถ่ายรูปเสร็จก็ไปยืนเฝ้าสมบัติ คนอื่นก็พาธีร์ไปว่ายน้ำเล่น...รูปครอบครัว
โมอิ๊ กะธีร์กำลังเก็บหอยทับทิมเป็นๆ มาพิจารณากัน หาดทรายหน้าโรงแรมมีหอยทับทิมตัวเล็กๆ เป็นๆ อยู่เยอะมาก ตอนแรกหม่าม้านึกว่าตายแล้วจะเก็บมาให้ธีร์เล่นซะหน่อย ปรากฏว่าหอยกระดุ๊กกระดิ๊กให้เห็น...อยู่ทะเลต่อไปก็แล้วกันนะจ๊ะ
พอเล่นน้ำทะเลเย็นๆ กันไปซักพัก ธีร์ก็ขึ้นไปเล่นน้ำในสระต่อกะป๊า ม่า และโมอิ๊ หม่าม้าเดินกลับไปหากู๋คิมที่กำลังโทรศัพท์ เอ้ย! เดินจัดฉากเก็บภาพเด็ดของตัวเอง ไปเอากล้องพอลล่า ปรากฏว่าลื่นตะไคร่ ไหล 3 step ลงหาดทรายไป ได้แผลมายาวตั้งแต่หัวเข่าไปถึงปลายเท้า กู๋คิมบอกว่า แกจะต้องโดนตัดขาทิ้งเพราะถูกเชื้อโรคจากตะไคร่เข้าแผล...เวร! เดินกลับเอากล้องมาส่ง ได้รูปใครๆ เล่นน้ำกะธีร์ในสระ ไม่เอามาลง กลัวถูกโวย หาว่าเอารูปมาลงโดยไม่ได้รับอนุญาต!!!

เล่นน้ำเสร็จ ทุกคนขึ้นห้องไปอาบน้ำ ธีร์ถูกโมอิ๊อุ้มกลับไปหากู๋คิมไปถ่ายรูปกันตอนพระอาทิตย์จะตก...ได้รูปเด็กหลงมา (โมอิ๊เค้าว่าธีร์เค้ากำลังเล่นจ๊ะเอ๋กะพระอาทิตย์ต่างหาก)
แล้วก็ได้รูปนังร่าเริง เอ้ย! รูปแบบนี้มาด้วย โมอิ๊บอกต้องเอามาลงบล๊อกให้ได้...รูปตอนพระอาทิตย์ตกของธีร์สวยมั่ก...
ทุกคนพร้อม...ทุ่มนึงออกเดินทางไปหาข้าวกิน ไม่รู้จะกินอะไรกันดี อี๊เจี๊ยบแนะนำร้านให้โดยไม่รู้ชื่อ สรุปว่าร้านชื่อ "โกทิ" ไปถึงร้านปรากฏ ไม่มีที่ว่างแถมถ้ารอ ต้องรออาหารนานถึง 45 นาที ร้านไหนๆ ก็คนเยอะ สรุปไปกินกันในตลาดโต้รุ่ง กินกันไม่ค่อยมากเพราะว่าแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายหลังอาหารเย็นกันหมด โมอิ๊เล็งข้าวโพดปิ้งกะไอติมไว้ กู๋คิมอยากไปกินฮากิ (ซึ่งก็ไม่ได้ไป 555) ป๊ากะม้าโทรไปสั่งพิซซ่ากะสปาเก็ตตี้เส้นดำจากลา วิลล่าไว้แล้ว กินกันไปงั้นๆ คนที่อร่อยที่สุดคือธีร์ ละเลงได้สุดๆ ไปเลย
ธีร์กะป๊าในตลาดโต้รุ่ง หน้าตาป๊าอ่อนโยนมั่กๆ ส่วนธีร์หน้าตาไม่เอนจอยตามฟอร์ม พอบอกให้ถ่ายรูปทีไร ทำหน้าเหมือนตรูดทู๊กที
รูปนี้กู๋คิมบอกว่าเป็นรูปภูเขา เรียงลำดับความสำคัญจากสูงที่สุดไปต่ำที่สุด หม่าม้าว่ามันควรจะเรียงลำดับความสำคัญจากหน้าสุดไปหลังสุดนะ
ส่วนรูปล่างนี่ กู๋คิมว่าเป็นจุดเกิดเหตุของเรื่องต่อไปนี้...

ระหว่างที่หม่าม้า ม่า และโมอิ๊ช้อปปิ้งอยู่ ป๊าเดินมาบอกว่า ลูกเธอตอแหลมาก...ยังไงเหรอ คือว่า ป๊า ธีร์ และกู๋คิมไปยืนรอจะข้ามถนนอยู่โดยไม่รู้ว่า 3 สาวประจำก๊วน แวะช้อปฯ ระหว่างที่รอ มีสาวฝรั่งสองคนกำลังข้ามถนน แล้วรถก็จะไปกันแล้ว เค้าก็ร้องกันด้วยความตกใจว่า "Oh! my God!" ธีร์ที่กำลังเล็งด้วยความสนใจอยู่ พอได้ยินดังนั้น ธีร์ก็ร้อง "a b c...." ซึ่งก็คือเพลง abc นั่นเอง หึ หึ หึ เอากะเค้าสิ ป๊าถึงกะบอกว่า ธีร์แยกออกได้วุ้ย ว่าเค้าพูดภาษาอังกฤษกัน..หึ หึ หึ
วันนั้นจบการกินแบบ non-stop ของธีร์ลงที่ประมาณสี่ทุ่ม ธีร์ไปนอนหลังจากได้ชิมพิซซ่า และสปาเก็ตตี้จากลา วิลล่า ปลาหมึกแดดเดียวทอดของกง เกือบๆ จะขอชิมไวน์ของกู๋คิมด้วย อันนี้ไม่นับของที่กินไม่หยุดตั้งแต่มื้อเที่ยงที่สะพานปลาเป็นต้นมา เช่น สตรอเบอรี่อบแห้ง วิตะมินซี อาหารเย็น ไข่นกกระทา ไอติม ข้าวโพดปิ้ง ชอคโกแลตร้อน กินมากจนไม่น่าเชื่อว่าเด็กอย่างธีร์เอาท้องที่ไหนมาใส่ของกินที่กินเข้าไปฟระ

เช้าวันอาทิตย์ ธีร์ตื่นมาด้วยความสดใส พุ่งลงเตียงไปดูน้ำทะเลที่ระเบียง ตอน 7 โมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลานานแล้วเหมือนกัน หลังจากที่กู๋คิม โมอิ๊ และม่าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันมาแล้ว ส่วนกงนั้นล้ำหน้ากว่าใคร กินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ดี ส่วนครอบครัว "อุตุนิยม" ของเรา ตื่นกันมาแบบไม่สนใจพระอาทิตย์หรืออาหารเช้า ตื่นมาแบบว่า ต้องตื่นแล้วเหรอ ตื่นก็ได้ ธีร์ตื่นแล้วนอนต่อไม่ได้แล้วนี่นา (แง๊...หม่าม้าอยากนอน)
พอกินอาหารเช้ากันเรียบร้อย เราก็ไปเดินเล่นกัน ชายหาดหน้าโรงแรมหายไปพร้อมกับน้ำขึ้น ธีร์หมดโอกาสเล่นน้ำทะเลซะแล้ว ได้ไปเล่นชิงช้า ไม้ลื่นเล็กน้อย
จากนั้นก็เป็นตาของหม่าม้าที่จะต้องลงไปเล่นน้ำกะธีร์ คนอื่นๆ เค้าทำหน้าที่กันเรียบร้อย น้ำเย็นสุดๆ ธีร์บอกตอนแรกว่าธีร์ไม่เล่นน้ำ แต่ยอมใส่อุปกรณ์แต่โดยดี ไม่มีงอแง อุปกรณ์ดีเด่นมากมีทั้งห่วงยาง ปลอกแขน เสื้อ กางเกงว่ายน้ำ จากเฮียปรานต์ ทาครีมกันแดดพร้อม...มุมซ้ายของรูปเป็นส่วนหนึ่งของขาโมอิ๊ ระหว่างการตัดต่อรูป หม่าม้ากะกู๋คิมคุยกันว่าตัดขาโมออกยังไงดี กู๋คิมเสนอให้ทำส่วนขาของโมอิ๊ให้เป็นกางเกงสีดำไปซะ หม่าม้าตัดรูปได้เป็นแบบนี้แล้วก็บอกว่า "ไม่เป็นไร ไม่มีใครรู้หรอก ดูๆ ไปก็เหมือนแขนเหมือนกัน" กู๋คิมบอกว่า โมรู้คงเสียใจน่าดู 555 ไม่บอกใครจะไปรู้ใช่มะว่านั่นขา คริ คริ คริ
ธีร์ขายาว...papa long leg!การเล่นน้ำของธีร์ก็คือการไปยืนบนที่นั่งจิบเครื่องดื่มในสระ สลับกับการโดดลงน้ำเล็กน้อย มองเด็กคนอื่นว่ายน้ำเล่นด้วยความสนใจ เล่นน้ำกันได้ซักพักจนธีร์สั่นๆ เพราะน้ำหนาวเหมือนกัน ก็ได้เวลาขึ้น ตอนนั้นสระว่ายน้ำแทบแตก ฝรั่งหันมามองกันใหญ่นึกว่าธีร์ถูกประทุษร้าย ธีร์เสียงดังไม่ยอมเลิกซะนี่ แต่ก็โดนอุ้มขึ้นมาห่อผ้าเป็นมัมมี่ ไปเตรียมตัวกลับบ้านกัน

ออกจากโรงแรม เราแวะไปGolden Place ถ่ายรูปกะป้ายหัวหินกันอีกที รูปคราวก่อนหม่าม้ารับไม่ได้ ตัวเองพุงล้ำหน้า เอามาลงบล๊อกเดี๋ยวจะมีข่าวลือว่าท้องลูกอีกคน...คราวนี้โมอิ๊แนะนำให้แขม่วท้องก่อนจะกดชัตเตอร์555 ส่วนกู๋คิมที่ผอมอยู่แล้ว ทำปากกว้างไปกะหลานก็พอ ขำกันใช้ได้ สุดท้ายก่อนกลับบ้าน แวะไปกินข้าวเที่ยงกันที่เจ๊เขียว ธีร์กินนมชมพูไปขวดนึงแล้วได้แต่กินปูม้านึ่งของโปรด (มาก) เล่นๆ จบเรื่องราวขนาดยาวคราวนี้ด้วยรูปหมู่ริมทะเลที่ป้าฝรั่งใจดีตั้งใจเดินมาถ่ายให้ หลังจากที่เห็นเรานั่งรอกู๋คิมกดโน่นกดนี่อยู่ อี๊บีไม่ต้องเสียใจ...หัวหินอยู่แค่เนี้ยะ ไปเมื่อไหร่ก็ได้เนาะ
ไปล่ะ หม่าม้าหมดแรง ขอไปนอนก่อนล่ะ แล้วถ้าไม่ขี้เกียจจะมาเขียนเรียงความขนาดสั้นภาษาอังกฤษใส่เข้าไป...หรือป๊าจะใจดีเขียนให้น้อออออ

สรุปว่าป๊าไม่ใจดี หม่าม้ามาละเองเองอย่างกระชับสัดส่วน

The past weekend we, Grandpa, Grandma, Papa, Mama, Uncle Kim and Auntie Mo, went to Hua-Hin (means rock head). Hua-Hin is a famous weekend location...for at least 30 years or more. Hua-Hin has sea, horses and delicious foods.

We left Sai4 place on Saturday around 9.30hrs. and went to picked Papa up from Nakornpathom place.

We reached Uncle Kim's lunch destination at noon. The seafood is very fresh. We ate a lot...very big lot then we went to visit Maruekhathaiyawan Palace, the summer seaside palace. Thailand Tourism website describes the palace as follows:

"The summer seaside palace, often referred to as "the palace of love and hope is located midway between Cha-am and Hua Hin. It was built in 1923 under the royal command of King Rama VI using golden teakwood from the demolished Hat Chao Samran Palace. An Italian architect designed the palace with a dazzling composition of verandahs and latticework in regal proportions....

The palace is a two-storied wooden pavilion with a series of connecting halls and a long corridor leading to the sea...."

We walked around while Uncle Kim went around to take photos with his hi-so digital camera. Got several nice photos (as above).

After the palace, we checked-in at the hotel. Thee went to the sea and swimming pool soon after we got things in place.

We came back home on Sunday afternoon after lunch and shopping here and there.

This trip, we ate a lot especially seafood. Tiring but nice and fun trip. Not much to explain...all Mama's energy was gone with the wind, sand and Thee!

4 comments:

Anonymous said...

ประนาม ประนาม ทำหน้าน้องธีร์ มีแผล ... ประนาม ประนาม :P ดูดิ เค้าถ่ายรูป หน้าเลยไม่เนียนเลย

Anonymous said...

ทำมาไว เม้นท์ คนแรก ชิชิ...มารแม่ฝากบอกว่าของอย่างนี้ photoshop ช่วยได้คร๊าบบบบ ..ธีร์ ร้องเพลงของอี๊บีซิ...ก๊ากกๆๆ

Anonymous said...

เนื้อหายาวและน่ารัก ถูกใจแฟนๆ แถวนี้มากค่ะ

Anonymous said...

ว้าว ๆ เรียงความยาวสมกะที่รอคอย รูปน่ารักมั่ก ๆ เลย

อ่อ ร้านชื่อโกทินี่เอง อดกินกุ้งทอดกระเทียมสุดแสนอร่อย สินะ อิอิ