เอาครับ...where where ก็ where where หม่าม้าก็จะเป็นผู้เรียงร้อยถ้อยกระทง ส่วนป๊าก็มีหน้าที่เอารูปมาแปะๆ ประกอบเรื่อง แบ่งหน้าที่เสร็จสรรพก็เริ่มเรื่อง
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันบริโภคแห่งครอบครัว เราแดก เอ้ย! กินกันอย่างมโหฬาร นันสต๊อปปุ เริ่มวันด้วยการเอาอาหารเพลไปถวายหลวงกู๋ของสมธีร์ที่วัด พระรูปอื่นๆ ลงศาลากันหมด เพลวันนั้นก็เลยเหลือแต่หลวงกู๋รูปเดียว กับข้าว 5 อย่าง ญาติ 13 คนนั่งเมาท์รอหลวงกู๋ฉันเพลเสร็จ ให้พรแล้วก็มุ่งหน้าไปกินติ่มซำกันที่ร้านข้างๆ พันทิพ
ติ่มซำที่ร้านนี้เป็นแบบ all you can eat ภาษาญี่ปุ่นเรียก tabehoudai ภาษาจีนกลาง...ไม่เคยรู้แฮะ (ใครรู้ช่วยบอกหน่อย) หรืออีกนัยหนึ่งกินได้ไม่มีจบมีสิ้น จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมแพ้ไปนั่นเอง หม่าม้านั่งกินติ่มซำกะบรรดาญาติพร้อมกล่องทิชชู่ประจำตัวที่ขนมาจากในรถ กินกันอิ่มท้องแทบแตก ธีร์ก็ใช่ย่อย มีการถือช้อนถือส้อม กินโน่นกินนี่กะเค้าเองอย่างเอร็ดอร่อย ถึงแม้ว่าจะยังไม่หายดีนักก็ตาม
บ่ายคล้อยหลังกินกันเสร็จ ก็ยกร่างพะยูนของพวกเราไปเกยตื้นกันที่บ้านอาเหล่าม่าของธีร์ เยี่ยมเสร็จก็กลับบ้าน หม่าม้าตัดสินใจว่า ถ้ากลับนครปฐมไปรบกะธีร์โดยลำพัง ไร้กองหนุนแล้วไซร้ อาจตายคาสนามรบได้ เลยทำสัญญาฝากบ้านไว้กับโจร เอ้ย! จดหมายลาป่วยส่งให้ป๊า ขออยู่ต่อที่สายสี่จนกว่าจะหายดี ระหว่างการขับรถกลับบ้าน อากงของธีร์ยังคิดจะกินอาหารเย็นกันต่อ (นั่นเป็นเวลาเพียงสองสามชั่วโมงหลังจากเสร็จภารกิจติ่มซำ) เอาก็เอาฟระ ป๊าที่ขับรถตามมาก็ได้รับเสียงเพรียกจากสรวงสวรรค์ให้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันต่อแถวศาลายา
ร้านสายลมสายน้ำที่เราไปกินกันอยู่ริมคลองทวีวัฒนา อีกข้างติดกะทุ่งนา เลยนาไปเป็นทางรถไฟ บางทีกินๆ อยู่รถไฟก็ปู๊นๆ ผ่านมา บรรยากาศใช้ได้ อาหารก็อร่อยดี ลงหนังสือมาแล้วหลายเล่ม นัยว่าแม่ครัวเป็นชาวเมืองกาญจนบุรี อาหารเผ็ดก็เผ็ดกันไฟแล่บ ไม่ค่อยเหมาะกะคนจืดชืดอย่างหม่าม้าเท่าไหร่
ระหว่างรออาหาร ธีร์ก็ถูกหม่าม้าจับไปเดินเล่นบนพื้นหญ้าด้วยเท้าเปล่า นี่เป็นครั้งแรกที่เท้าธีร์สัมผัสกะหญ้า พอวางธีร์ลงพื้น ธีร์ถึงกับยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เกือบนาทีเชียว พอเริ่มได้เดินก็เดินไม่หยุด สนุกใหญ่ ป๊าถ่ายรูปธีร์เดินบนพื้นหญ้ามาได้หลายรูป ดังนี้....
555 ในที่สุดป๊าก็ทำสำเร็จ blogger ไม่ support gif file แต่ถ้าใครอยากดู ธีร์ อ้าปากกว้างๆ แบบ animated gif ตามมาที่ linkนี้ เลยครับ http://allaboutthee.multiply.com/
กินข้าวเสร็จเราก็แยกย้าย ป๊ามุ่งหน้ากลับนครปฐม หม่าม้า กง ม่า โมอิ๊ (อันนี้มีที่มาไว้ค่อยเล่าทีหลัง เรื่องมันยาวไปแล้ว) ก็กลับสายสี่แปลงร่างจากพะยูนมาเป็นปลาวาฬยักษ์เกยตื้นกัน
เรื่องสั้นขนาดยาวของหม่าม้าที่พล่ามเรื่อยเปื่อยไร้สาระมานานก็สมควรจบลงแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าตอนป๊าเอารูปมาลงคงไม่ตัดตอน ทำตัวเป็นฤาษีแปลงสารไปซะล่ะ
3 comments:
ท่าไม้ตาย อ้าปากกว้าง น่ากลัวสุดๆ (-*-) จ๊ากกกก
เอิ๊กกก ฮ่าๆๆ ไม่เห็นใจคนกำลังทำงานเครียดๆ แอบอ่าน blog เลย ดูท่าปากกว้างของน้องธีร์ แล้วหัวเราะจนคนในออฟฟิศเค้ารู้เลยว่าอู้ ^^
โห... ปากกว้างจริงๆ ด้วย ท่าทางน้องธีร์จะทานเปลืองมิใช่เล่นนิ
Post a Comment