Sunday, November 21, 2010

Walking with Pran and Thee to Loy Krathong

21 พฤศจิกายน 2553 วันนี้ที่รอคอย จองตั๋วมาแล้ว 3 เดือน จะได้ไปดู Walking with Dinosaurs ซักที ธีร์พร้อม เสื้อผ้า รองเท้าครบ หน้าปกติ ผมมีน้อยไม่ต้องทำไรมาก
ป๊ากะเฮียปรานต์มารับที่บ้านสายสี่ เติมพลังกันด้วย McBreakfast (เค้าใช้ชื่อนี้กันมั้ย แบบว่าตั้งเอง งงๆ) เฮียปรานต์จัดไปชุดใหญ่ Big Breakfast กันเลยทีเดียว
หลังจากขับรถด้วยความสับสน ถูกลูก หลาน และปั๋วกดดัน ในที่สุดก็เดินทางไปถึงอิมแพ็คกันซักที การแสดงเริ่มตอนสิบเอ็ดโมงนิดๆ เจ้าตัวนี้ออกมาตัวแรก liliensternus ตัวนี้กำลังจะกินเนื้อตัวเล็กๆ อยู่
ต่อมาตัวนี้ Stegosaurus
Brachiosaurus ตัวนี้เก๋ไก๋ใช่ย่อย ตัวเล็กกว่า (ตัวไหน งงล่ะสิ ตัวที่หันก้นมาน่ะ) เป็นตัวลูก อีกตัวเป็นพ่อหรือแม่นี่แหละ หัวยาวเฟื้อย สงสัยว่าเวลาก้มหัวมาข้างนี้แล้วหางจะไปฟาดหน้าคนฝั่งขะโน้นรึเปล่า ทำท่ารักกันๆ ด้วยนะ
การแสดงชุดนี้ทำเพื่อเด็กมากๆ มีการพักครึ่งให้เข้าห้องน้ำ กินขนมซะด้วย ธีร์เลยกินหญ้า อุ้ย! ผิด กินฟิชโช่รอ
ถ่ายรูปรอ

กินไข่ต้มรอ
20 นาทีผ่านไป ตัวต่อมาก็คือ Ornithocherius ตัวนี้บินกันมาราธอนมาก เนื่องจากโลกตอนนั้นแผ่นดินยังไม่ได้แยกออกมาเป็นทวีปมากมายเหมือนในตอนนี้ บินผ่านมหาสมุทรทีคงบินกันเป็นวัน ไม่มีเกาะให้พัก ธีร์ดูแล้วก็บอกว่า หม่าม้าดูสิ เค้ามีเชือกผูกไว้ ธีร์เห็น
สามตัวนี้คือ Utahraptor แสดงการกินซากไดโนเสาร์ด้วยนะเออ
Torosaurus ตัวนี้ออกมาดูตื่นเต้นสุดสำหรับพวกซาดิสม์แบบหม่าม้า มันมีการแย่งชิงการเป็นหัวหน้าฝูงด้วย สู้กันเสร็จ สรุปว่าอีกตัวเขาหัก แพ้ไป....เขาหัก!!! ไม่มี scene แบบกัดกันเลือดกระฉูด กระโดดใส่กันให้ตื่นเต้นเล้ยยยย
Ankylosaurus ตัวนี้เป็นไดโนเสาร์ใส่เกราะ หางเป็นลูกตุ้ม เค้าว่ามันค่อนข้างโง่ 555
ตัวนี้คือ T-rex มี baby t-rex ด้วย แม่มันร้อง มันก็ร้องตามบ้าง พอมีอะไรขำๆ เล็กน้อย แต่เด็กๆ ก็ไม่ขำ สงสัยไม่เก็ท
แม่ลูกรักกันก่อนอุกาบาตถล่มโลก
จบการแสดง เด็กๆ ทุกราย ขอย้ำว่าทุกรายต้องมุ่งหน้าไปร้านขายของที่ระทึก ที่ว่าระทึกคือระทึกใจพ่อ-แม่ ผู้ปกครองมาก ลุ้นสุดๆ ว่าเด็กๆ จะเลือกซื้ออะไร สาธุ! อย่าเลือกแพงมาก พยายามเกลี้ยกล่อมให้ซื้อพวงกุญแจ แต่เดี๋ยวก่อน...เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ต้องเป็นเด็กบ้านนี้ เลือกตุ๊กตาไซส์ใหญ่มาคนละตัว เด็กบางคนไม่ได้ของก็ร้องไห้กระจองอแงอยู่แถวนั้น ป๊าธีร์บ่นว่าเด็กพวกนี้เหมือนกันหมด พามาดูแล้วไม่พอ ต้องซื้อของเล่นให้ด้วย เหอ เหอ เหอ
แดดตอนเกือบบ่ายโมงร้อนใช่ย่อย เด็กๆ ก็เลยทนถ่ายรูปกับป้ายมาได้แค่รูปเดียว ก่อนโอบกอดตุ๊กตาแสนรัก (แค่ช่วงบ่ายวันนี้เท่านั้นกระมัง) กลับรถไปหาอาหารบรรจุพุงแฟ่บๆ ของพวกเรากัน
ร้อนวุ้ย กับป้ายอิมแพ็คคคค
ตุ๊กตาลูกรักกกกก
ในที่สุดก็เลือกได้ว่าไปกินข้าวที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะเถิด เย็นดี กินข้าวราดแกงกระหรี่กันเรียบร้อยก็ได้เวลาของหวาน ดูสายตาพ่อหนุ่มซิ...ทายได้ป่ะว่าตาเยิ้มจ้องอะไรอยู่
ไม่ได้คิดจะกินไอติมถ้วยนั้นหรอก...อยากจะได้ร่ม ของสองหนุ่มเค้าต้องรสนม
กินกันเรียบร้อยก็นั่งรถกลับนครปฐมกัน สามหนุ่มก็หลับไป พลขับก็ขับไป กลับบ้านมาได้ไม่นาน วันนี้วันลอยกระทง ธีร์ได้กระทงขนมปังมาจากโรงเรียนเมื่อวันศุกร์ วันนี้เลยกระเหี้ยนกระหือรือจะนำไปปล่อย เอ้ย! ไปลอยกะเค้าบ้าง คุณครูบอกว่าอย่าใช้กระทงโฟมนะ ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เราไปลอยกระทงกันที่วัดหนองดินแดง...ไปไกลมาก ขับรถไปแบบแอร์ยังไม่ทันเย็นทั่วรถก็ถึงแล้ว
เฮียปรานต์และอึ้มก็ไปด้วยกัน
อาม่าก็ไปด้วย
ลอยกระทงกันเสร็จก็ไปทำบุญ บริจาคเงินมุงกระเบื้องหลังคาวัดบ้าง อะไรบ้าง
ที่วัดมีขายกระทงของนักเรียน-ครูของโรงเรียนวัดหนองดินแดง กระจายรายได้สู่ชุมชน
สาธุๆ

ลอยกระทงเสร็จแล้วทุกคนก็ไปกินข้าวเย็นกัน เนื่องจากทุกคนยังงงๆ เลยเสร็จธีร์ที่ร้องเพลงสะกดจิตให้ไปกิน MK กัน กินข้าวเสร็จก็กลับบ้านแล้วก็หมดไปอีกวัน....วันที่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับวันลอยกระทงนะคร้าบบบบบ

Friday, November 19, 2010

Time flies : )

เผลอไปชะแว้บเดียว ไม่ได้อัพบล๊อกมา 2 อาทิตย์แล้วเลยทีเดียวเชียว

วันอาทิตย์ที่ 7 ธีร์ก็ไปทอดกฐินกับที่บ้านสายสี่ เหล่าม่าเป็นเจ้าภาพที่อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี วัดโคกบ้านเป็นวัดเล็ก ที่หม่าม้าแปลกใจก็คือมีรูปปั้นหลวงตาช่วงอยู่ที่วัด เหล่าม่าเล่าว่า หลวงตาช่วงนี่แหละ เป็นตาแท้ๆ ของเหล่าม่านี่เอง...อืมมม ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย

วันเสาร์ต่อมาเราก็ไม่ได้ไปบ้านสายสี่ อาม่า ณ หนองดินแดงเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพระ เณรที่มาอบรมนักธรรมเอก ที่วัดพระปฐมเจดีย์ และช่วงอาทิตย์นั้นแหละที่ธีร์เรียนเรื่องพระปฐมเจดีย์ เราเลยถือโอกาสหลังเลี้ยงเพลแล้วไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์กัน

พิพิธภัณฑ์ที่พระปฐมเจดีย์เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ สิ่งของที่แสดงก็จะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา และดินแดนสุวรรณภูมิซะเป็นส่วนใหญ่ เดินกันซักพัก ธีร์ก็บอกว่าจะไปเที่ยวสวนชื่นฯ ด้วย เดินหากันอยู่นาน เจ้าหน้าที่บอกว่าสวนชื่นฤทัยปิด ไม่ให้เดินลงไป (แต่ทำไมมีคนนั่งๆ นอนๆ อยู่ด้านในได้ฟระ) ให้ชะโงกมองดูได้

ส่วนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเราก็ไปทอดกฐินกันที่วัดของหลวงปู่ที่หนองกวางกัน ผู้คนล้นหลาม ดูรูปธีร์สิ...เหมือนอยู่ในทะเลรองเท้ายังไงยังงั้น
ทำหน้าแสตนดาร์ดหมูตู้ 555

ตัดผมทรงใหม่ ใจกล้าใส่เสื้อส้ม เช้าวันนั้นป๊าบอกว่า เลียนแบบพระ 555 ดูรูปนี้แล้วเหมือนจะได้อยู่นะเนี่ย



ตั้งแต่เปิดเทอมมา ธีร์ก็เริ่มมีการบ้านมากขึ้น จากเดิมมีแค่วันละ 1 หน้า ก็เพิ่มเป็นวันละ 2 หน้า ที่เพิ่มมาก็คือการบ้านคัดไทย แล้วก็เขียนชื่อ+นามสกุลตัวเอง คุณครูจะให้ตราประทับทุกวัน ถ้าได้หมีพูห์ก็คือดีมาก ทิกเกอร์ ดี แรบบิต (หรือที่ธีร์เรียกว่ากระต่ายเน่า) แปลว่าพอใช้ ส่วนอียอร์ (ลาโง่ของธีร์) คือไม่ได้เรื่องกระมัง

ตั้งแต่เปิดเทอมมา ธีร์ก็คัดได้ทิกเกอร์บ้าง แรบบิตบ้าง ความฝันอันสูงสุดคืออยากได้หมีพูห์ กลับถึงบ้าน พอบอกให้ทำการบ้าน ธีร์ก็จะหยิบการบ้านมาเปิดดูแล้วก็บ่นว่า ได้ทิกเกอร์/กระต่ายเน่า อีกละ หม่าม้าก็พยายามให้กำลังใจบอกให้สู้ต่อไปเถอะเจ้าไข่ต้ม แต่ธีร์ก็ได้แต่บ่นว่าก็พยายามแล้วก็ไม่ได้ซักที....ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น 555

ดูการบ้านธีร์แล้วก็นะ...เขียนโย้ไปเย้มาตามสไตล์เด็กหัดเขียน คุณครูก็ให้คะแนนตามจริงเสียนี่กระไร บางวันป๊าถึงกับบอกว่า ไปบอกครูเหอะ ให้หมีพูห์มาเป็นกำลังใจเด็กบ้าง 555 (หม่าม้าบอกธีร์ว่าเดี๋ยวปั๊มหมีพูห์ให้เองเลยได้มั้ย ธีร์บอกว่าได้...โกงจริง อะไรจริง หุ หุ หุ

จบการรายงานข่าวแบบแหว่งๆ วิ่นๆ ไปก่อนแต่เพียงเท่านี้ เจอกันคราวหน้า ตามอารมณ์อยากอัพบล๊อกจ้า

Monday, November 01, 2010

ปิดเทอมที่ผ่านไป

อาทิตย์ก่อน คิดจะอัพบล๊อกเรื่องค่ายศิลปะวันที่ 18-22 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ว่าพอกลับจากบ้านสายสี่มาบ้านหนองดินแดง ธีร์ก็ไม่สบาย หาคุณหมอแล้วสรุปว่าเป็นคออักเสบ ทำให้วุ่นวายดูแลเรื่องไข้ และอาการป่วย ทำให้เรื่องค่ายศิลปะก็ลืมๆ ไปก่อน

ค่ายศิลปะทั้ง 5 วันนั้นไปเรียนกันกลางสวน วันสุดท้ายธีร์ขนเอากล่องดนตรีที่ด้านบนเป็นเซรามิครูปไดโนเสาร์ที่ธีร์ปั้นเอง เซรามิครูปเสือ (ทั้ง 2 ตัวนี้ถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้ว่าตัวอะไร) รูปวาดขนาดยักษ์...ที่เราตั้งชื่อว่า "ธีร์โดนผีหลอก" ตุ๊กตาผ้าหัวเขียวกางเกงในแดง กังหันกระดาษขนาดใหญ่ รถไม้ แล้วก็ม้านั่งที่ธีร์วาดรูปไดโนเสาร์ระบายสีสวยสดงดงามกลับมาบ้าน

วันแรกๆ ที่ไปค่าย ธีร์บ่นๆ ว่าไม่อยากไป ได้ความว่าไม่มีเพื่อน อาการลูกคนเดียวก่อให้เกิดปัญหาที่ธีร์ไม่ยอมไปเล่นกับใคร รอให้เพื่อนเข้ามาเล่นด้วย หรืออาการคุณชาย ที่ไม่ยอมเลอะดินเลอะโคลน หรือเลอะสีกับใครเค้า คุยกับคุณครูประจำค่ายแล้วในวันสุดท้ายธีร์ก็ดูร่าเริงมีความสุขมากขึ้น แต่ก็หมดเวลาสนุกกับค่ายศิลปะไปซะแล้ว

ตุ๊กตาหัวเขียว เสื้อลายจุด และกางเกงในแดง : )
รูปธีร์โดนผีหลอก!!!
ม้านั่งของธีร์ อยู่มุมขวาด้านบน ที่มีตัวคล้ายๆ ยีราฟสีน้ำเงินนั่นแหละ เจ้าตัวบอกว่าเป็นไดโนเสาร์ที่กำลังปล่อยสายฟ้าออกมา
รวมผลงาน (ไม่ทั้งหมด) จากค่ายศิลปะ
หลังจากที่บ่นหงุงหงิงอยู่ตลอดว่าอยากกลับบ้านหนองดินแดง เราก็ได้กลับบ้านกันซักที อาทิตย์นั้นจริงๆ มีนัดจะไปเที่ยวสวนสามพรานกับเจแอล แต่ธีร์ก็เกิดป่วยไข้ไม่สบาย เลยต้องยกเลิกนัด (ทำให้เจแอลถึงกับออกปากว่าพี่ธีร์หักหลังกันอีกแล้วทีเดียว) ไปหาคุณหมอ แล้วกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านสายสี่

วันศุกร์ที่ผ่านมา...นึกขึ้นได้ตอนทุ่มกว่าว่าคิดจะไปตัดผมกัน ธีร์บอกว่าอยากตัดผมทรงหัวเหม่ง ในที่สุดก็ได้ทรงนี้ออกมา
เจ้าตัวชอบมาก ม่าสายสี่ถึงกับเคืองไปพักใหญ่ ผู้ใหญ่หลายคนก็ถามว่าทำไมถึงตัดผมทรงนี้ จริงๆ แล้วก็แค่ตัดผม ธีร์อยากมีผมทรงเดียวกับเพื่อนในห้อง หม่าม้าก็คิดว่าตัดได้ เพราะมันก็ไม่ได้ทรงนี้ตลอด เดี๋ยวผมก็ยาวขึ้นมาใหม่ ส่วนม่าบ้านหนองดินแดงถึงกับขำกลิ้งกับผมทรงใหม่ของธีร์ บอกว่าเหมือนไอ้หนุ่มซินตึ้ง 555

วันเสาร์เราฉลองผมทรงใหม่ด้วยการไปว่ายน้ำ พอขึ้นจากน้ำปุ๊บ พาธีร์ไปล้างตัวสังเกตุหน้าธีร์ถึงกับตกใจ ธีร์ปากเขียวเลยทีเดียว เจ้าตัวถึงกับออกปากว่า เราควรจะเลิกไปว่ายน้ำตอนอากาศเย็น ไว้ค่อยไปอีกทีตอนหน้าร้อนก็แล้วกัน

ถึงแม้จะบอกให้เตรียมตัวเตรียมใจมาหลายวัน ธีร์ก็บ่นไม่อยากไปโรงเรียนอีกจนได้ ก่อนนอนก็ถามว่าธีร์ไม่อยากไปโรงเรียน ธีร์ต้องไปโรงเรียนถึงเมื่อไหร่กันแน่ ตอนเช้าหม่าม้าเลยอธิบายเรื่องระบบการศึกษา (ไปจนถึงขั้นดอกเตอร์โน่น 555) และก็เล่าเรื่องเด็กบางคนที่อยากเรียนหนังสือแต่ไม่ได้รับโอกาสนั้น...หลังจากฟังจบ ธีร์ก็บอกว่า "งั้นธีร์เรียนถึงแค่ป.3 พอ"...ลูกชายชั้น ช่างรักเรียนเสียนี่กระไร 555