Saturday, January 30, 2010

แมวขี้เกียจ

ธีร์จะเล่านิทานเรื่อง "แมวขี้เกียจ" มีแมวตัวหนึ่งสีน้ำตาลสลับเทา หางยาวเท่าหมีเลย มันนอนทั้งวันเป็นแมวที่ขี้เกียจมาก...จบ อันนี้นิทานหลอกเด็กรึเปล่าธีร์ ไม่ใช่ครับ อันนี้นิทานหลอกผู้ใหญ่

Saturday, January 23, 2010

ท่าธีร์

วันนี้หม่าม้าเพิ่งเห็นรูปถ่ายงานแต่งงานของกู๋คิม...ซึ่งแน่นอนย่อมมีรูปธีร์น้อยมาก

หนึ่งในรูปน้อยๆ เหล่านั้น...คือรูปนี้ ดูแล้วขำจนต้องตัดมาแปะไว้ให้ธีร์ดูตอนโต ว่าธีร์ตลกมาก...ทั้งหน้าตา และท่าทาง แล้วธีร์จะเสียใจมั้ยตอนโต ที่มีรูปนี้ 555

Thursday, January 21, 2010

ทัศนศึกษา

วันนี้ที่โรงเรียนจัดให้เด็กๆ ออกไปทัศนศึกษากันที่พระราชวังสนามจันทร์ ธีร์บอกคุณครูไว้เมื่อวานว่า ธีร์จะไปถึงโรงเรียนตอน 7 โมงเช้า หม่าม้าบอกคุณครูไปเหมือนกันว่า 7 โมงเช้าธีร์คงยังไม่ตื่น

เมื่อคืน คุณผู้ชายตื่นมาตี 2 ตี 5 และในที่สุด 6 โมงครึ่ง ถามคำถามเดียว "ตื่นได้รึยัง" ไม่รู้ว่าตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวจริงรึเปล่า หรือกวนกันไปงั้นๆ แหละ

คุณครูบอกให้เอาหมวกไป คุณผู้ชายคุ้ยๆ กองของเล่นตอนเช้า ได้หมวกเสือของฝากจากเกาหลี ที่เค้าใส่กันตอนหิมะตกน่ะ...คุ้ยได้ก็ใส่หมับ บอกว่าหมวกนี้แหละที่ธีร์จะเอาไปด้วย หม่าม้าบอกแล้วว่ามันจะร้อนนะ ธีร์ก็ยืนยัน

8 โมงเช้า ถึงโรงเรียน เด็กๆ กำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ คุณครูกำลังเอาป้ายชื่อห้อยคอเอาไว้ กันเด็กหลง หม่าม้าส่งเสร็จก็ไปตลาด ลั๊นลาๆ

กินข้าวเช้าเรียบร้อย ช้อปปิ้งเสร็จสรรพ 9 โมงเช้า แวะไปที่พระราชวังสนามจันทร์หน่อยซิ ธีร์ไปถึงรึยัง จอดรถแล้วก็เห็นรถคันข้างๆ ของเพื่อนธีร์นี่นา สงสัยจะมากันแล้ว

สรุปว่าเด็กๆ ห้องธีร์มากันห้องเดียว นั่งรถตู้ของโรงเรียนมากัน คุณครูมากัน 4 คน พี่เลี้ยง 2 แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนมาอีก 3 คน เด็กๆ 40 คน เดินเกาะไหล่กันมาเป็นพวง เห็นธีร์มั้ยนั่น...จุดเล็กๆ ที่มีลูกศรสีแดงปักหัวอยู่น่านแหละ ที่เด็ดก็คือ คุณผู้ชายใส่หมวกเสือมาจริงๆ ด้วย 555 สงสัยกลับมาคงหัวล้านเป็นแน่แท้
ผู้ใหญ่เสื้อฟ้า 2 คนข้างหลังนั่นเป็นกองทัพพี่เลี้ยงของเพื่อนธีร์ที่ตามมาอารักขาเพื่อนธีร์นั่นเอง

จบข่าวการสอดแนมธีร์ไปทัศนศึกษาที่พระราชวังสนามจันทร์แต่เพียงเท่านี้ หม่าม้าไปเมียงมองอยู่ไม่ถึง 5 นาทีก็ขับรถกลับบ้านแล้วแหละ

Sunday, January 17, 2010

ไปหัวหิน

วันพฤหัสฯ ป๊าคุยกับธีร์ว่า ธีร์อยากไปเที่ยวทะเลมั้ยครับ ธีร์ตอบป๊าว่า ธีร์อยากไปโรงแรม...

วันศุกร์ หม่าม้าปลุกธีร์ให้ไปโรงเรียนตอนเช้า ธีร์ร้องไห้...ธีร์ไม่ไปโรงเรียน ธีร์จะไปโรงแรม ป๊าสัญญากับธีร์แล้วจะพาธีร์ไปโรงแรม ธีร์ไม่ไปโรงเรียน แง...

เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา อยู่ดีๆ ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เราก็ไปเที่ยวหัวหินกันซะงั้น ป๊าบอกว่าเป็นทริปแบบงงๆ รู้ตัวกันวันศุกร์ เอ้า...เราจะไปทะเลกันเหรอ

ออกจากบ้านกันเกือบ 10 โมงเช้า นั่งเจ้าโอโม่ (ชื่อรถ 555) ป๊าขับ แวะเป้าหมายแรก...ข้าวขาหมูบางหว้า (สำหรับผู้ที่ไม่รู้ ร้านห่างจากบ้านเราไปประมาณ 5 ลมหายใจเข้าออก) จอดรถปุ๊บ คุณหนูธีร์ถึงกับร้องไห้ไม่ยอมลงจากรถ ไหนว่าจะไปโรงแรมไงเล่า ร้องไห้จนคนในร้านข้าวขาหมูมองกันทั้งร้าน ขัดขวางการกินคากิเพื่อหน้าเด้งของหม่าม้า (กู๋คิมกะกิ๋มเจี๊ยบบอกหม่าม้าว่า เพื่อนเค้าบอกว่า...[บอกกันหลายต่อจริงวุ้ย] กินคากิแล้วหน้าจะเด้ง คอลลาเจนเยอะ...หน้าเด้งรึเปล่าหม่าม้ายังไม่ชัวร์ แต่ที่แน่ๆพุงเด้งแล้ว 555) คากิหมด จะเก็บเงิน ธีร์ที่เพิ่งรู้สึกตัว บอกว่าจะชิมคากิบ้าง....หาเศษให้ธีร์กิน ธีร์บอกว่า "เค็ม"

ขึ้นรถ จุดหมายต่อไป เติมน้ำมัน...ปั๊มอยู่ข้างๆ ร้านข้าวขาหมู...ออกจากบ้านมาเกือบครึ่งชั่วโมง ไปได้ไม่ถึง 2 กิโลเมตร

เติมน้ำมันเสร็จ คราวนี้ สมธีร์เข้าโหมด transformers ธีร์ดูหนัง ป๊าขับรถ ไปจอดอีกทีก็โน่น ปั๊มน้ำมันที่เพชรบุรี....ป๊าบอกว่า ปั๊มนี้เป็นที่นิยมมาก ใครๆ ก็แวะ ถ้าระหว่างทางที่ขับรถมา เขม่นหน้าใคร มาดักรอที่ปั๊มนี่แหละ แวะฉี่เสร็จก็จัดการคนที่เหม็นหน้าได้...ความคิดเริ่ดเจรงๆ

ป๊าถามว่า เราจะไปไหนกันก่อน หม่าม้าบอกว่าลองไปไร่องุ่นกันดูดีไหม แต่ขับรถไปค่อนข้างไกล เราลองไปที่ที่เราไม่เคยไปกันบ้างดีป่ะ ไปๆ มาๆ สรุปว่า ลองไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนก็แล้วกัน

ไปถึงโรงแรม เช็คอินได้แล้ว เราก็จัดการเอาของไปเก็บบนห้องพัก แล้วก็ออกรถเข้าหัวหินไปหาอาหารเที่ยงกินกัน ตามคอนเซปต์ ไปลองกินอะไรใหม่ๆ บ้าง คราวนี้เราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันมา

ป๊าสั่งไปหลายอย่าง จานนี้ข้าวปั้นหน้าปลาโอดิบ มาพร้อมกับแคลิฟอร์เนียโรล ธีร์ที่ถามมาตลอดทางว่าหิวมั้ย ตอบว่าไม่หิว เห็นปุ๊บก็คว้าหมับ
เริ่มต้นการกินด้วยการดูดปลาโอกระดุ๊บๆ เข้าปากไปเคี้ยวตุ้ย หม่าม้าผู้ไม่กินปลาดิบนั่งมองด้วยความตกตะลึง คิดในใจว่า จะดีเหรอธีร์....
เคี้ยวหมดเหลือแต่ข้าว ถามธีร์ว่าอร่อยมะ....ธีร์บอกว่าไม่อร่อย แต่กินข้าวปั้นที่เหลือในมือ เลียนิ้วเก็บข้าวให้หมดทุกเม็ด สรุปว่าไม่อร่อยจริงรึเปล่า หรือว่าหิวโซ

แล้วอาหารจานต่อไปก็มา เทมปุระโซบะ...กินไปกระจิดริด บอกว่าอิ่มแล้ว จะไปหาซื้อห่วงยางกับครีมกันแดดที่หม่าม้าลืมหยิบมา
แล้วธีร์ก็ออกเดินทางไปสู่เป้าหมาย....ที่ผิด ทางนั้นไปห้องน้ำครับลูก
กินข้าวเสร็จ ซื้อห่วงยางอันใหม่ ก่อนกลับโรงแรม แวะไปกินไอติมร้านที่ป๊าอยากไป ชื่อแปลเป็นไทยว่าต่ำกว่า 18 ระหว่างรอไอติม ถ่ายรูปไปพลางๆ
สั่งวาฟเฟิลกับไอติมวนิลา กินไปคำแรก วนิลาร้านนี้เปรี้ยวแฮะ เสีย หรือว่าเป็นรสแบบนั้น อดใจไม่ไหวถามพนักงาน ขอโทษค่ะ น้องเค้าตักผิด อันนี้เป็นไอติมเลม่อนชีสค่ะ....ไปสั่งใหม่ ไอติมวนิลา พนักงานเอามาเสริฟพร้อมขอโทษอีกครั้ง หม่าม้าถามว่า แล้วอันก่อนที่ตักมาผิดให้กินฟรีมะ...เค้าตอบว่าไม่ค่ะ เดี๋ยวพนักงานถูกหักเงิน ตกลงความโชคร้ายตกอยู่กับคนกินซะงั้น ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ไอติมวนิลาก็หน้าตาไฮโซ ใช้ฝักวนิลาทำไอติม มีหลักฐานเป็นเม็ดวนิลากระจายอยู่ทั่วก้อน ส่วนธีร์ ตามฟอร์ม ชอบของเปรี้ยว กินซัพเมอร์เบอร์รี่ เปรี้ยวปรี๊ด ปากแดงแปร๊ด
เห็นหม่าม้าใส่แว่นกันแดดก็อยากใส่บ้าง และสรุปว่าการลองของใหม่ครั้งนี้ธรรมดามาก เทียบกับการที่ต้องวกวน ขวนขวาย เดินทางไป คราวหน้ากลับกินไอติมร้านเดิมๆ ของเราก็ดีอยู่แล้วแหละ
ก่อนจะกลับโรงแรม ต้องเอาห่วงยางกลับไปเปลี่ยน อันที่ซื้อมาแบบไม่เป่าลม พอเป่าลมทิ้งไว้ในรถ ไปกินไอติม กลับมาห่วงยางเหี่ยวเฉา...ธีร์บอกว่า ก็ธีร์บอกหม่าม้าแล้วให้เอาอันที่เค้าเป่าลมแล้ว สีชมพูอันนี้นี่แหละ

ธีร์อยากเล่นน้ำใจจะขาด แม้จะบ่นว่า "จะไม่ให้ธีร์นอนเลยเหรอ" แต่พอบอกว่า ก็ธีร์บอกเองว่าจะไปเล่นน้ำ ไปรึเปล่าล่ะ ก็เสียสละการนอนตอนบ่ายเปลี่ยนชุด ทาครีมกันแดดไปว่ายน้ำตอน 3 โมงครึ่งแต่โดยดี
สระน้ำเย็นเล็กน้อย ตอนแรกก็รักห่วงยางดีอยู่ หลังๆ ทำซ่า ถอดห่วงยางออก เดินวนไปวนมา ใจกล้าเดินไปคนเดียว ว่ายน้ำก็ไม่เป็น หม่าม้าเตือนแล้วว่าระวังจะจมน้ำ....ไม่ทันขาดคำ ธีร์ก็หล่นปุลงขั้นบันไดในน้ำลงไปในส่วนน้ำลึก 90 ซม...ดีที่หม่าม้าอยู่ใกล้พุ่งไปคว้าทัน ส่วนป๊าก็ชักรูปลูกชายจมน้ำไว้ให้ธีร์ดูตอนโตได้ว่า...เกือบตายไปครั้งนึงแล้ว คราวหน้าอย่าซ่า
กว่าจะหลอกล่อให้ขึ้นจากน้ำได้ก็ปาเข้าไป 5 โมงกว่า บอกให้ไปอาบน้ำ...ก็ไม่ไป มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง ต้องการเปลี่ยนเสื้อและดูการ์ตูนรอหม่าม้าเท่านั้น รูประหว่างนอนดูการ์ตูนรอ...หน้าตาไร้เดียงสา ไร้พิษสงเสียนี่กระไร แล้วหม่าม้าก็ค้นพบว่า...เวรกรรม เอาของมาทุกอย่าง ยกเว้นเสื้อที่จะใส่พรุ่งนี้ แล้วจะใส่อะไรล่ะเนี่ย เสื้อธีร์ก็เล็กไป เสื้อป๊าก็คงใหญ่เกิ๊น ใส่ตัวเก่าก็ไม่ได้มั้ง ละอายแก่ใจ สมควรไปหาซื้อใหม่ 555
ธีร์หิวมาก พอไปถึงร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านประจำ ธีร์จัดการขนมปังไปคนเดียวเกือบหมดตะกร้า ตามด้วยพิซซ่าอีก 1 ชิ้น พาสต้าอีกครึ่งจาน
กินกันอิ่มพุงแทบระเบิด ระหว่างรอหม่าม้าจ่ายเงิน ป๊ากะธีร์ก็มุ่งหน้าไปเบอร์เกอร์คิง....ซื้อเบอร์เกอร์สำหรับป๊า ไม่รู้เอาไปใส่ไว้ตรงไหนของพุง

ธีร์ง่วงก็ง่วง แต่ขากลับ หม่าม้ากะป๊าก็พาไปแวะสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งใหม่ของหัวหินก่อน อี๊บีบอกว่าเสาร์-อาทิตย์เค้ามีงานวัด...
ตอนไปถึงคนยังไม่เยอะมากเท่าไหร่ เพลินวานก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจ มีความพยายามทำให้เหมือนตลาดสมัยก่อน มีร้านของชำ ร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า และเกมส์ตามงานวัด ซื้อตั๋วมา 2 ใบ ธีร์ไปเล่นยิงปืนลม พยายามยิงให้กอริลล่าแดนซ์ มีกระสุนมาให้ประมาณ 10 นัด ธีร์กะหม่าม้ายิงโดนกอริลล่าไป 1 ที

ส่วนตั๋วอีกใบเอาไปเล่นโยนห่วง...ได้ห่วงมา 3 อัน ธีร์ทำได้แค่ปาไปข้างหน้าให้แท่นล้มลงเท่านั้น
เดินไปเดินมา ซื้อเสื้อไว้ใส่พรุ่งนี้ได้ 1 ตัว น้ำ 1 แก้ว เล่นเกมส์ไป 2 เกมส์ จบข่าว กลับไปนอนกันเหอะ

เช้าวันอาทิตย์ ตื่นไปกินอาหารเช้า...ที่ไม่ค่อยจะเหลืออะไรให้กินแล้วประทังชีพไปก่อน ต่อมสร้างสรรค์ของธีร์บรรเจิดมาก พยายามทำตัวเป็นพ่อครัว หยิบโน่น ผสมนี่ จนชามโรงแรมแตกไป 1 ใบ

ธีร์อยากไปเล่นน้ำ แต่น้ำคงเย็นเกินไป เราไปเล่นในห้องของเล่นแทน ถ่ายรูปครอบครัวได้ 1 รูป
ติดลมจากการถ่ายรูปครอบครัว ได้รูปสัตว์ประหลาดเขาหงิกมาอีก 1 ตัว แดดเปรี้ยงเกินไป สัตว์ประหลาดตาปิดเชียว
สัตว์ประหลาดที่บางทีมีเขาข้างนึง 2 อันบ้าง 3 อันบ้างแล้วแต่นิ้วจะหงิกไหวถ่ายรูปกะป๊า ตาหยีพอกัน
เล่นของเล่นอยู่นานมาก เล่นตรงนี้
เล่นบ้านบอล ที่กำชับไว้อย่างชัดเจน ห้ามเอาหน้าลงไปคลุกลูกบอลเด็ดขาด เล่นเสร็จแล้วออกมาให้ล้างมือให้สะอาด
นอนลงไปถ่ายรูปหน่อยครับ แต่ห้ามเอาหน้าลงไปคลุกลูกบอลนะครับลูก
สุดท้ายได้เล่นเครื่องเกมส์แข่งรถไปประมาณ 2 นาที อยากเล่นอีกแต่ว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว เราจะต้องเช็คเอาท์กลับบ้าน น้ำตาไหลแทบนองห้องเล่นเกมส์ หม่าม้าอุ้มเดินอย่างทรหดอดทนกลับห้องไปพร้อมน้ำตา

ไปถึงห้องพักพบว่า ธีร์ผู้ซึ่งไม่ให้คราวร่วมมือในการอาบน้ำเมื่อเย็นวานหลังเล่นน้ำ หลังและหน้าอกมีผื่นคันขึ้นเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าแพ้ครีมกันแดดนี่แหละ อาบน้ำไปครั้งนึงก่อนนอนแต่ก็คงช้าเกินไป นี่แหละน้า ทำตัวซกมกก็ต้องตัวคันกันต่อไป

จบทริปหัวหินของเราด้วยการกลับไปกินพาสต้าแสนอร่อยของธีร์ พิซซ่าที่เขี่ย "ไอ้เค็ม" หรือแอนโชวี่ออก อิ่มหมีพีไปด้วยไขมันแล้วก็มุ่งหน้ากลับบ้าน หมดไปอีกหนึ่งอาทิตย์คร้าบ

Saturday, January 09, 2010

วันเด็ก

วันเด็กปีนี้ เป็นวันเด็กปีแรกของธีร์ที่ได้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน นัยว่ารู้เรื่องแล้ว (รึเปล่าหว่า)

หน่วยการเรียนของอาทิตย์นี้คือเรื่อง วันเด็ก พอถึงวันศุกร์มีการบ้าน ธีร์สามารถตอบได้ว่านายกฯ ชื่ออะไร คำขวัญวันเด็กปีนี้คืออะไร กิจกรรมที่เค้าทำในวันเด็กมีอะไรบ้าง

ระหว่างอาทิตย์ ธีร์บอกหม่าม้าว่าธีร์อยากไปดู และไปขับรถถัง เล่าด้วยว่าเค้ามีให้เด็กๆ ไปนั่งเก้าอี้นายกฯ ได้ด้วยนะ ธีร์จะให้ป๊าไปนั่งก็แล้วกัน หม่าม้าต้องพาธีร์เข้ากรุงเทพฯ ด้วย (ฟังดูตะเข็บชายแดนจริงๆ)

ทั้งอาทิตย์เราก็คุยกันเรื่องรถถัง อวกาศ การสร้างรถหมีพูห์ (เป็นเรื่องที่เกียวข้องกันตรงไหนเนี่ย) พอถึงวันศุกร์ หม่าม้ากะอี๊บีก็ตกลงกันเรียบร้อยเรื่องการไปดูรถถังของธีร์

เย็นวันศุกร์ หม่าม้าถามธีร์ว่าจะไปดูรถถังจริงเหรอ ถ้าจะไปจริง อากาศร้อน แถวยาว คนเยอะยังไง ธีร์ก็ต้องไม่บ่น และต้องเดินเองด้วย หรือธีร์จะไปงานถนนวิทยาศาสตร์ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์จัด (ซึ่งหม่าม้าว่าน่าสนใจมาก) ธีร์ตกลงว่าจะไปดูงานวิทยาศาสตร์....แบบที่ธีร์เห็นในทีวีเมื่อวันก่อน

เช้าวันเสาร์ เตรียมพร้อมออกเดินทาง รถสิบล้อของบ้านสายสี่จะไปส่งสินค้าที่โรงพยาบาลรามาฯ หม่าม้าเห็นดีว่าเราควรตามรถไป ไปเจออี๊บีในเมือง ขากลับก็กลับกับอี๊บี สะดวกง่ายดาย แต่ไหงไม่เป็นตามแผน ถูกสกัดดาวรุ่งจากผู้มีประสบการณ์ว่างานวันเด็กคนเยอะ ควรอยู่บ้าน (ซะงั้น) และรถก็ออกไปซะก่อน ไปๆ มาๆ ตกลงกันอีท่าไหนไม่รู้ สรุปว่า ไปฟาร์มจระเข้สามพรานก็แล้วกัน (ธีร์บอกว่าที่อยุธยา....สับสนด้านภูมิศาสตร์อย่างร้ายแรง)

คู่หูคู่ฮาอย่างอี๊บีก็ได้รับการแจ้งข่าวโดยพลัน สิบโมงครึ่ง พลพรรควันเด็กซึ่งประกอบด้วยอี๊บี โมอิ๊ หม่าม้า และธีร์ก็ออกเดินทางไปฟาร์มจระเข้กัน

ขับรถจากบ้านสายสี่ไปอย่างไกล (ประมาณไม่เกิน 10 นาที) เราก็ถึงที่หมาย รถเยอะพอควร เราถูกต้อนให้ไปจอดรถไกลๆ ใกล้ๆ ไม่ให้จอดซะงั้น อันที่จริง เรามาก่อน เราก็ควรจะได้จอดใกล้ๆ เซ่

เดินผ่านดงขี้ช้างไปซักพัก ถึงจุดขายบัตรผ่านประตู วันนี้เด็กๆ เข้าฟรี จุดแรกเราก็ไปดูเสือโคร่งฝาแฝดกัน ก่อนจะเดินดูปลา ธีร์จะให้อาหารปลา...ไว้ทีหลังแล้วกันลูก พร้อมคิดในใจว่า ถ้าให้ธีร์ให้อาหารปลา วันนี้คงอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ เดินผ่านจระเข้ มีให้อาหารจระเข้ ธีร์ก็จะให้อาหารจระเข้อีกแน่ะ แต่จากการสำรวจ จระเข้ไม่กินแล้ว มีคนโยนกระดูกหมูไปแหมะอยู่กลางหลังจระเข้ หรือไม่ก็จ่อตรงจมูก จระเข้ก็ไม่กิน เข้าใจว่าจระเข้ไม่มีประสาทรับกลิ่น หนังหนาไม่รู้สึก หรือไม่ก็ไม่หิว (เหตุผลข้อหลังนี่ผู้ใหญ่แถวนั้นหลายคนอธิบายให้ลูกหลานที่พามาฟัง จะได้ไม่ต้องซื้ออาหารเลี้ยงจระเข้ 555)

ส่งหน่วยลาดตระเวนโมอิ๊ไปดูว่ามีการแสดงอะไรบ้าง สรุปว่ามีการแสดงมายากล และแสดงช้าง เรามุ่งหน้าไปรอดูโชว์ช้าง รออยู่นาน ร้อนก็ร้อน ทุกคนล่อหลอกเด็กๆ ว่าช้างจะมาแล้ว เด็กคนอื่นก็ยอมสงบ และรอคอยแต่โดยดี แต่ธีร์ไม่ใช่....หม่าม้าบอกธีร์ว่า รอดูช้างก่อนสิ โชว์ช้างจะเจ๋งเหมือนปลาโลมารึเปล่าล่ะ ธีร์บอกว่า "ไม่หรอก ช้างมันก็เดินไป แล้วก็เดินมา เดินไป แล้วก็เดินมา" พร้อมโบกมือไปมาประกอบคำพูด หม่าม้า โมอิ๊ และอี๊บีออกจะขำ หม่าม้ากระซิบกับโมอิ๊ว่า ธีร์นี่รับรู้ความเป็นจริงของชีวิตได้รวดเร็วนัก

การรอคอยของเราสิ้นสุดลง ปรากฏว่าที่เรารอดู มันไม่ใช่โชว์ช้าง แต่เป็นโชว์มายากลซะงั้น ธีร์ที่ตอนแรกไม่สนใจ ดูบ้างไม่ดูบ้าง พอนักแสดงดึงนกพิราบ กระต่าย หรือปลาออกมาโชว์ได้ ธีร์ถึงกับทำหน้าตกตะลึงสุดชีวิต หลังดูจบสงสัยว่าเค้าหลอกเรา เค้าทำจริงๆ หรือไง แล้วเค้าทำยังไงล่ะครับหม่าม้า....

แต่นแต๊น...ในที่สุด ก็มาถึงรูปประกอบเรื่อง...หม่าม้าไม่ค่อยได้ถ่ายรูปซักเท่าไหร่ ได้มาเท่านี้จริงๆ ธีร์กำลังตื่นเต้น ดูมายากล
จบการแสดงมายากล ก็มีโชว์ช้าง เดินไป แล้วก็เดินมา เดินมา แล้วก็เดินไปอย่างที่ธีร์ทำนายไว้แต่ต้น ดูโชว์ช้างที่มันมีอะไรมากกว่าเดินไป แล้วก็เดินมา เดินมา แล้วก็เดินไป แนวๆ โลมั่ว โลโม่กะเค้าบ้าง
ดูเสร็จเราก็ไปรอดูโชว์จระเข้กันต่อ ธีร์มีการโยนเหรียญเข้าปากจระเข้ด้วย....มาโม้ว่าธีร์ได้โยนเหรียญเข้าปากจระเข้ด้วย พอถามว่าเข้ามั้ย ธีร์ตอบว่า มันก็หล่นลงน้ำไป...แล้วเค้าเรียกว่าโยนเข้าได้ไงเนี่ย

ก่อนกลับ ความใฝ่ฝันอันสูงสุด ธีร์อยากเข้าบ้านผีสิง งานนี้อี๊บีลงทุน 20 บาทเอาตัวเข้าเสี่ยง พาธีร์เข้าบ้านผีสิงโดยที่หม่าม้ากะโมอิ๊รออยู่ข้างนอก ระหว่างรอ หม่าม้าก็คิดว่าธีร์อาจจะร้องไห้ออกมา หรือไม่ก็เอาหัวซุกหลังอี๊บี ปรากฏว่าธีร์ออกมาด้วยสภาพปกติ อี๊บีบอกว่าธีร์เอาหัวซุกหลังอี๊บีตลอดทาง แล้วก็มีเด็กที่ยืนข้างๆ อี๊บีร้องไห้เอามือมาเกาะขาอี๊บีด้วย....ต้องน่ากลัวมากแน่ๆ

ก่อนกลับ ธีร์ขอให้หม่าม้าซื้อตุ๊กตาไดโนเสาร์ให้หนึ่งตัว ไม่ยักกะอยากได้จระเข้เป็นที่ระลึกแฮะ แวะไปกินเอ็มเคก่อนกลับมาสลบไสลที่บ้าน หมดไปอีกวัน วันเด็กปีแรกที่ได้ออกไปเที่ยว อย่าถามล่ะว่าธีร์ไปไหน อาจจะได้รับคำตอบว่า ไปฟาร์มจระเข้ที่อยุธยามาก็ได้ สร้างความสับสน หุ หุ หุ

Monday, January 04, 2010

สวัสดีปีใหม่ 2553

ไม่ได้อัพบล๊อกซะนาน...ช่วงหลังคริสมาสต์และปีใหม่ปีที่ผ่านวุ่นวายใช่ย่อย

คริสมาสต์อีฟ เราไปกินข้าวกับเหล่าม่า...ไม่ใช่ฉลองคริสมาสต์ แต่เป็นฉลองวันเกิดของเหล่าม่าที่ปีนี้ตรงกับวันคริสมาสต์พอดิบพอดี

จากนั้นก็มีงานคริสมาสต์ที่โรงเรียนของธีร์ หม่าม้าไปยืนดูการจัดงานที่โรงเรียน ก็มีการแสดงของพี่ๆ แจกของขวัญและขนมให้กับเด็กๆ ธีร์กลับมาเล่าว่ามีเล่นเกมส์เด็กโป๊ ให้เพื่อนใส่กางเกงในวิ่งไปรอบๆ อันนี้ไม่แน่ใจ ไม่เห็นกับตา ธีร์อาจจะมั่ว (อย่าไปบอกธีร์ล่ะ เดี๋ยวธีร์จะโวยวาย บอกว่า "หม่าม้าไม่เชื่อธีร์อีกละ")

วันที่ 28 ก็เป็นวันเกิดของม่าบ้านสายสี่ เราไม่ได้ไปกินข้าวกันนอกบ้านเพราะสมาชิกพากันหายหน้าไปหมด เหลือธีร์กะหม่าม้า แล้วก็ป๊าเท่านั้นที่เสนอหน้าอยู่เอาความดีความชอบ 555

29 ธันวาคม หม่าม้าก็มัวแต่เตรียมขนม อาหารให้ธีร์เอาไปฉลองปีใหม่กับเพื่อนที่โรงเรียน วุ่นวายใช่ย่อย แต่นั่นหลังจากไปกินข้าวเที่ยงกับรุ่นน้องที่มาเยี่ยมพร้อมของขวัญปีใหม่สุดเจ๋ง...แสตมป์พระ ต้องขอบคุณเก่งอีกครั้งด้วยนะจ๊ะ

30 ธันวาคม ธีร์มีงานเลี้ยงปีใหม่ที่โรงเรียน เลิกเรียนตอนเที่ยง

31 ธันวาคม พาป๊าไปเข้าค่าย เอ้ย! ไปส่งที่บ้านโพธารามเพื่อปฏิบัติภารกิจเฝ้าบ้านช่วงที่โกวโตและโกวปุ๊กออกเดินทางท่องเที่ยวไปเชียงใหม่ แล้วหม่าม้ากับธีร์ก็ไปบ้านสายสี่ รอดูพลุปีใหม่

ปรากฎว่าปีนี้เทศบาลแถวบ้านไม่จุดพลุปีใหม่ซะงั้น ธีร์เห็นพลุระยะไกลขนาดเท่าเหรียญบาทตอนเที่ยงคืน น่าเศร้าชะมัด วันปีใหม่เราก็ไม่ได้ไปไหน กลับจากบ้านสายสี่ไปบ้านโพธารามเฝ้าบ้านจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...

ยังไงก็ตามแต่ หวังว่าปีใหม่ที่ผ่านมาทุกคนคงมีความสุขกันถ้วนหน้า...แล้วก็ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ทุกคนมีความสุข ความสวัสดี สุขภาพแข็งแรง และกิจการงานเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปด้วยนะค้าบ....

สวัสดีปีใหม่ 2553 ค้าบ