Thursday, June 25, 2009

คุณชาย

ธีร์ไปโรงเรียนแล้ววันนี้...ไม่มีไข้ น้ำมูกเล็กน้อย ไอพอควร แต่เกรงว่าถ้าปล่อยไว้ที่บ้านหลายวัน ธีร์จะไม่ยอมไปโรงเรียน

เช้าไปสาย กว่าจะไปถึงเค้าก็นั่งสมาธิกันเรียบร้อย คุณครูที่คอยตรวจจับเด็กมาสายบ่นว่า เนี่ยถ้าจับ (ธีร์) ต้องร้องไห้แน่ วันอื่นมาส่งเร็วๆ ก่อนเข้าแถวด้วยนะคะ หม่าม้าบอกครูว่า ไม่สบายน่ะค่ะ ครูก็บอกว่า นั่นแหละค่ะ มาส่งเร็วๆ หน่อย

ไปส่งถึงแถว เพื่อนๆ ก็มองมา ประมาณว่าธีร์มาโรงเรียนแล้ว คุณครูประจำชั้นถามถึงสารทุกข์สุกดิบว่าหายแล้วหรือไง แถมขำด้วยว่าวันนี้พกหมอนข้างมาโรงเรียนเพิ่มอีกอัน

ตกเย็นไปรับที่ห้อง ป๊าเล่าว่า...เด็กผู้ชาย เด็กผู้หญิงหลายรายที่เห็นป๊าก็หันไปมองหาธีร์แล้วก็พูดว่า "คุณชายอยู่ไหน คุณชายพ่อมารับแล้ว"

อาทิตย์ก่อนที่มารับธีร์ หม่าม้าก็ได้ยินผู้ชายคนนึงพูดว่า "คุณชาย พ่อมารับแล้ว" แต่คราวนั้นหม่าม้าก็ได้ยินไม่ถนัด ถามป๊าว่าเค้าเรียกลูกเราว่าอะไร ก็ไม่ได้รับคำตอบ

คราวนี้ได้ยินกันชัดเจน หม่าม้าก็เลยถาม Teacher Janette ว่า "Why everyone calls Thee 'คุณชาย'?" Teacher Janette ตอบ+แปลว่า ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแต่ว่า คุณชายแปลว่าอะไร...spoiled child รึเปล่า หม่าม้าสับสนชีวิต หันไปถามป๊าว่าแปลว่าอะไร....

ทีนี้หันไปถามคุณครูเก๋ กับคุณครูเกดว่า "ทำไมใครๆ ก็เรียกธีร์ว่าคุณชายล่ะคะ" ด้วยความสงสัย...คุณครูขำๆ แล้วก็ได้คำตอบแบบสรุปๆ ผสมกับการคาดเดาของหม่าม้าว่า เพราะความเรื่องมาก นิสัยวุ่นวาย ไอ้โน่นไม่เอา ไอ้นี่ไม่เอา และการรักสะอาด มีความต้องการเป็นของตัวเองอย่างชัดเจนนี่เองทำให้ธีร์ได้ฉายา "คุณชาย" มาครองตั้งแต่อายุ 3 ขวบ

นอกจากนี้คุณครูยังบอกว่า "เค้าเองก็รู้ตัวนะคะ ว่าตัวเองคือ/เป็นคุณชาย" เวรกรรม!!!

อดรนทนไม่ไหวโทรไปเล่าให้ม่า โมอิ๊ กู๋คิม และอี๊บีฟัง ได้คอมเมนท์มาแล้ว กู๋คิมว่า โตกว่านี้คงต้องเรียกธีร์ว่า "คุณท่าน" โมอิ๊กับม่ามาแนว concern แย่แล้วจะทำยังไงดี ส่วนอี๊บีนั้นขำออกแนวชื่นชอบ 555
ถามธีร์ว่าธีร์ชอบเป็นคุณชายเหรอ ธีร์พยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ....ป๊าว่าลับหลังเรา 2 คน ทุกคนก็คงเรียกธีร์ว่าคุณชายด้วยความหมั่นไส้เป็นแน่แท้ ส่วนหม่าม้านั้นก็คิดว่า โธ่...พ่อแม่ก็ออกแนวซกมกปานนี้ แต่มีลูกเป็นคุณชายวุ้ย....

Tuesday, June 23, 2009

quick update

จะบอกแค่ว่าธีร์ไม่สบาย

วันอาทิตย์ไอค่อกแค่กนิดหน่อย หม่าม้าคิดว่า โถ..กะว่าวันจันทร์จะให้ไปว่ายน้ำเชียว อดอีกแล้วสิเนี่ย เปิดเทอมมาเดือนนึง ได้ว่ายน้ำแค่ 1 ครั้ง

วันจันทร์ ไอค่อกแค่กเหมือนเดิม ตอนก่อนนอนเห็นหม่าม้ากินยา บอกว่าจะกินบ้าง ธีร์ไอนะ...โอเค กินยาแก้ไอไป 1 dose

คืนวันจันทร์ งานเข้าเลยทีเดียวเชียว ธีร์ตัวร้อน ไอทั้งคืน กินยาลดไข้พร้อมเช็ดตัว โทรมทั้งพ่อ ทั้งแม่และลูก

เช้าวันอังคาร ไม่กินอะไรทั้งนั้น ธีร์บอกแล้วไงว่าธีร์ไอ ไม่สบาย จะไปหาหมอเมื่อไหร่ล่ะครับหม่าม้า

พาไปหาหมอ คุณหมอบอกว่า ถ้าเพิ่งเป็นเมื่อคืนนี่เร็วมากนะ เริ่มหอบแล้ว....เป็นอาการภูมิแพ้ แพ้อากาศครับคุณแม่

หม่าม้าถึงกับเอ๋อ ถามอะไรหมอไม่ออก ธีร์ไม่เคยแพ้อากาศนี่นา ยังไงก็ตาม ได้ไปพ่นยา ใส่หน้ากาก ร้องไห้จนเด็กๆ เดินวนมาดู เด็กในห้องนี้เป็นอะไร คุณหมอบอกว่าถ้ายังไอมาก พรุ่งนี้ให้ไปพ่นยาอีกที เอายากลับมากินที่บ้าน 3 ขวด ละลายเสมหะ ขยายหลอดลม และแก้ไอ

ก่อนกลับบ้าน แวะไปซื้อมะพร้าว 6 ลูก หม่าม้าเคยอ่านหนังสือเจอมาว่า น้ำมะพร้าวมีฤทธิ์เป็นน้ำเกลือแร่ตามธรรมชาติ ธีร์ไม่ยอมกินอะไรเลย กินน้ำมะพร้าวก็ยังดี ไม่งั้นได้แอดมิดเข้าไปนอนเป็นเพื่อนกับเจ้าหุ่นยนต์เสาน้ำเกลืออีกแน่...

ตอนนี้อาการดีขึ้น ไข้ลด ซ่าเหมือนเดิม คุณครูบอกหม่าม้าเมื่อเช้าว่า...รอให้หายดีก่อนค่อยมาโรงเรียนก็ได้ค่ะคุณแม่....คุณแม่ก็คิดแบบนั้นค่ะ เดี๋ยวไปติดโรคอื่นๆ และไปทำให้คนอื่นป่วยไปด้วยเราจะ...มิใช่น้อย เหอ เหอ เหอ

Saturday, June 20, 2009

มารยาท

เมื่อวานไปรับธีร์ที่โรงเรียน คุณครูแจกแผ่นพับการบ้านมาด้วย อาทิตย์นี้ธีร์เรียนเรื่อง "การทักทาย"

เนื้อหาหลักๆ ที่ครูสอนก็คือ การไหว้พระที่ถูกต้อง นิ้วหัวแม่มือจรดคิ้ว นิ้วชี้จรดไรผม การไหว้ผู้ใหญ่ นิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ปลายจมูก นิ้วชี้อยู่ที่หว่างคิ้ว ผู้ใหญ่ให้ของต้องไหว้ขอบคุณ ผู้ใหญ่นั่งอยู่ที่พื้น เด็กๆ ต้องคลานเข่าผ่านไป และถ้าผู้ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เด็กจะเดินผ่านต้องค้อมตัวไม่แกว่งมือเดินผ่านไป...ไงล่ะ หม่าม้าอ่านคร่าวๆ ว่าธีร์เรียนอะไรแล้ว นึกย้อนไปถึงสมัยอยู่โรงเรียน ชั่วโมงมารยาทยังไงอย่างงั้นเลยทีเดียว

ในแผ่นพับมีช่องให้พ่อแม่ทดสอบว่าลูกทำได้ตามที่ครูสอนรึเปล่า หม่าม้าถามธีร์ถึงการไหว้ที่ถูกต้อง การพูดจาให้สุภาพ (ข้อนี้สอบตกประจำ) ฯลฯ ธีร์ก็ตอบได้

บ้านสายสี่ได้ลูกหมา ยี่ห้อปอมฯ อายุ 1 เดือนมาใหม่ ธีร์ตื่นเต้นกับลูกหมาใหม่มาก มาถึง ใครๆ ก็ถามว่ามันจะชื่ออะไรดี...สรุปว่าหมาสีน้ำตาลตัวกลมๆ เหมือนลูกบอลได้ชื่อว่า "นุ่ม นุ่ม"

หม่าม้านั่งดูนุ่มนุ่มอยู่บนเก้าอี้ ธีร์ก็วิ่งไปวิ่งมา นุ่มนุ่มเฉียดจะเป็นแบนแบนอยู่หลายรอบเนื่องจากเล็กจัด นึกได้ว่าต้องทดสอบธีร์ซะหน่อยเรื่องมารยาท...ถามธีร์ว่า ธีร์ผู้ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เดินผ่านทำไง...ธีร์ก็เดินย่องๆ ห่อไหล่ผ่านไปอย่างน่าขำ อีกที หม่าม้าก็เลื่อนตัวลงไปนั่งที่พื้น ถามธีร์ว่าผู้ใหญ่นั่งพื้นจะผ่านไปทำไง ธีร์ก็ลงไปคุกเข่าที่พื้น แล้วก็คลานเข่ากระดุ๊กกระดิ๊กผ่านไปอย่างรวดเร็ว น่าขำอีกเช่นกัน...ระหว่างที่ยังชื่นชมว่า เออ ธีร์ก็ทำได้วุ้ยอยู่ในใจ ธีร์ก็วิ่งกลับมา ปีนขึ้นไปนั่งเก้าอี้ของหม่าม้าแล้วก็ถามว่า "หม่าม้า เด็กนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้ใหญ่ทำยังไง".....โกวโกวตอบธีร์ว่า ให้เทเด็กลงไป 555

Monday, June 15, 2009

เรื่องเล่าศุกร์...เสาร์ และ อาทิตย์

เช้ามาวันจันทร์ ป๊าเจอหน้าหม่าม้าแล้วก็พูดว่า "รูปอยู่ใน drive d อัพบล๊อกสิ...เรื่อง (บลา บลา บลา) น่ะ"

หม่าม้าคิดในใจอยู่ล้านแปด...ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เกรงว่าจะทำให้ครอบครัว (คนอื่น) ร้าวฉาน แล้วก็สรุปกับตัวเองว่า อัพก็ได้ ฮึ...

วันศุกร์ฝนตกพรำๆ ไปรับธีร์จากโรงเรียน ก่อนจะเข้าไปรับ ป๊าบอกว่า "ช่วยไปซื้อโกโก้ไม่เย็นให้ด้วยแก้วนึง" พูดซ้ำอยู่หลายครั้ง สรุปว่าสิ่งที่ต้องการคือ "โกโก้ไม่หวาน" แถวนี้ถ้าไม่พูดว่าไม่หวาน หรือหวานน้อย ชีวิตเราจะเข้าขั้นเลี่ยนเอียนกันได้ มันจะหวานขนาดที่ใส่น้ำตาลลงไปเพิ่มแล้วจะไม่ละลายอีก...เครื่องดื่มเข้าขั้นอิ่มน้ำตาล

เจอหน้าธีร์ในห้อง วันนี้เปลี่ยนมันทั้งชุด เสื้อก็เปลี่ยน กางเกงก็เปลี่ยน แปลว่าพลาดอีกแล้ว จับใส่เสื้อกันฝนสีเหลืองสดใสเดินออกมานอกโรงเรียน ธีร์บอกว่า "หม่าม้าครับ ฝนไม่ตกนี่นา" ใส่ไว้ก่อนเถอะธีร์ แล้วก็เดินข้ามคลองไปขึ้นรถ
วันนี้เจ้ามอนิเตอร์มาว่ายน้ำโชว์เด็กๆ เด็กอย่างธีร์ก็ทำท่าตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้นปนหวาดกลัวก่อนจะถูกชักชวนให้ขึ้นรถไป
คิดไปคิดมาว่าจะกินอะไรกันเย็นนี้ดี สรุปที่ฟูจิ หลังจากฝากท้องไว้ที่ร้านบรรยากาศไฮโซแถวบ้านสายสี่มาหลายอาทิตย์ กินกันแต่มักกะโรนีเบคอน เห็ดในครีมซอส หลังๆ นี่ถามว่าธีร์จะกินอะไร ตอบว่ามักกะโรนีแต่สั่งมาทีไร กินอย่างกับดมทุกที คลอเลสเตอรอลในกระแสเลือดของหม่าม้าพุ่งติดเพดานแทน
ไปกินฟูจิ คุณชายร่ำร้องด้วยความหิว จะกินข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้ง หม่าม้าล่อลวงให้กินไข่ตุ๋นด้วย กินไข่ตุ๋นเสร็จ ข้าวห่อสาหร่ายที่อยากกินมา...ธีร์เลาะกินแต่กุ้ง ข้าวกะสาหร่ายไม่เอา...กลับไปกินกุ้งต้มที่บ้านดีมั้ยลูก

วันเสาร์โมอิ๊กะอี๊บีแตะมือกันอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับธีร์ คนนึงกลับมา อีกคนก็ออกไป ตอนค่ำอยู่กันพร้อมหน้า ดูรายการญี่ปุ่นที่พาไปกินอาหารร้านต่างๆ เห็นเต้าหู้ราดซีอิ๊ว ธีร์ที่ถูกใครๆ ถามมาหลายอาทิตย์แล้วว่าจานนั้นจานนี้น่าอร่อยมั้ยล่ะ ก็พูดขึ้นว่า "น่าอร่อยมั้ยล่ะ" หม่าม้ากะอี๊บีพูดพร้อมกันว่า "เต้าหู้ราดซีอิ๊วเนี่ยนะ" ธีร์ตอบว่า "เต้าหู้ก็อร่อยนะ"

โมอิ๊กลับมา ธีร์ปีนขึ้นไปนั่งตักพร้อมกับพูดว่า "โมอิ๊" แล้วเงียบไปพักใหญ่ พูดต่อขึ้นมาว่า "อ้วน" โมอิ๊ซึ้งใจสุดๆ

คุยกันต่อไปว่าวันนี้กู๋คิมไปพันทิพ อี๊บีออกปากว่า "คิมไปพันทิพเหรอ น่าจะฝากซื้อ 'มอนิเตอร์' " เด็กชายธีร์ผู้ที่มีชีวิตผูกพันกับสัตว์ทั้งหลายหันมาทำหน้าตกใจแล้วพูดคำเดียวสั้นๆ "หา!" หลังจากตั้งสติได้ธีร์ก็บอกว่า "ธีร์จะเอานกฟลามิงโก" เราผองเลยต้องอธิบายให้ธีร์ฟังว่า อี๊บีหมายถึงจอคอมพิวเตอร์ต่างหาก ระหว่างนั้นอี๊บีก็ขำที่ธีร์ตกใจว่าอี๊บีจะซื้อมอนิเตอร์จนน้ำตาเล็ด

วันอาทิตย์ไป CTW พาธีร์ไปเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ที่กำลังแพร่หลาย หม่าม้าแยกตัวไปร้านหนังสือ ธีร์กะคนอื่นๆ ไปดูลูกโป่งเป่าเป็นรูปหนุมาน เจ๋งเป้งไปเลย กินข้าวกันเรียบร้อย ธีร์ร่ำร้องจะไปเที่ยวทอยส์อาร์อัส...มุ่งหน้าสู่ดงเบนเทนอย่างตั้งใจ ม่าเห็นราคาของเล่นแล้วก็เลยตัดสินใจให้ธีร์ว่า ซื้ออันที่ถูกที่สุด เพราะว่าซื้อแล้วธีร์ก็ทิ้งๆ ขว้างๆ ที่ได้มาหลายตัวก่อนหน้านี้ หายเป็นซากอยู่ตรงไหนของบ้านก็ไ่ม่รู้ อี๊บีบอกว่าดีใจสุดๆ ตอนได้รับของ มีแค่ moment นั้นเท่านั้นที่ธีร์ต้องการ แต่ถ้าเป็นหม่าม้า ธีร์คงไม่ได้เข้าไปในร้านตั้งแต่แรกแล้วล่ะ...

มาดูหน้าของเล่นเบนเทนที่ธีร์ได้มา กล่องมันหน้าตาแบบนี้ ขนาดประมาณ 2.5 นิ้ว x 3 นิ้ว เปิดกล่องออกมา ข้างในมีกลมๆ สีส้ม ขนาดเท่าลูกปิงปองหนึ่งลูก
อ่านแล้วได้ความว่า ต้องเอา alien rock ก้อนนี้ไปแช่น้ำให้ละลาย ถึงจะเจอเจ้าตัวที่ชื่อ JetRay ระหว่างทางกลับบ้านที่ว่าจะไปเยี่ยมเหล่าม่ากัน บรรดาผู้ใหญ่ก็เดากันว่าของเล่นจริงๆ คนขนาดแค่ 2 ข้อนิ้วก้อยแหละ

ก่อนกลับไปบ้านเหล่าม่า กง ม่า อี๊บี แล้วก็ธีร์ไปเยาวราชกันก่อน แล้วก็ไปรอเหล่าม่าที่ร้านลิตเติ้ลโฮม เพราะทุกคนไม่อยู่ออกไปข้างนอกกันกำลังจะกลับ ส่วนหม่าม้าก็ชะแว้บไปสำเพ็ง พาหุรัดซักเล็กน้อย

อี๊บีเล่าว่าระหว่างรอที่ลิตเติ้ลโฮมก็สั่งเครปมากิน ธีร์บงการอี๊บีว่างี๊ "อี๊บี ราดน้ำเชื่อมให้ชุ่มๆ เลยนะ" อี๊บีผู้ไม่เคยขัดใจธีร์ก็ปฏิบัิติตามอย่างเคร่งครัด พอราดเสร็จธีร์ก็บอกว่า "แต่ผมไม่สนใจของคุณหรอก" 555 แปลได้ว่าธีร์ไม่กิน ว่างั้นเหอะ

หม่าม้ากลับถึงบ้านเหล่าม่า เจอธีร์กำลังนั่งรอคอยอย่างใจจดใจจ่ออยู่ในห้องน้ำ พร้อมกับกาละมังเล็กๆ หนึ่งใบ อี๊บีบอกว่าแช่มาครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่เจอวัตถุต้องสงสัย หม่าม้าเดินเข้าไปดูปรากฎว่า ได้เจอกับ JetRay แล้วครับท่านผู้ชม....ตัวเท่าเนี้ย...
ถ้ายังไม่อิน...จากลูกปิงปอง ของเล่นที่ได้ออกมาขนาดเล็กเท่ากับหัวดินสอ....ทุกคนคุยกันว่าของเล่นราคา 5 บาท ส่วนอีก 190 นั้นเป็นค่าฟองฟู่น่าตื่นตาตื่นใจที่ละลายน้ำทิ้งไปนั่นเอง อี๊บีบอกม่าว่า...เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราควรซื้อของเล่นที่เห็นขนาดและหน้าตาของมันชัดเจนว่ามันเป็นยังไง!!!

จบเรื่องเล่าเด็ดๆ ประจำวันศุกร์-อาทิตย์ของเราแต่เพียงเท่านี้...

Thursday, June 11, 2009

ลีลา...วดี

วันพุธ...รับธีร์จากโรงเรียน ธีร์กินอาหารเย็นในรถเพราะกว่าจะขึ้นรถก็ 5 โมงซะแล้ว อยู่โรงเรียนน๊านนาน...ก่อนกลับบ้าน ป๊าพาไปกินข้าวกันก่อน ตะแรกว่าจะไปกินร้านข้างๆ แต่หม่าม้าดูๆ แล้ว รู้สึกว่าร้านมันไม่ค่อยดึงดูดใจให้เข้าไปนั่ง เลยไปนั่งกินกันที่สนามแทน

ตอนเดินไปว่าจะนั่งกินร้านนี้ยังไม่รู้ว่าขายอะไร แต่มีคนนั่งกินอยู่ 2-3 โต๊ะ...คงไม่เลวร้าย ได้นั่งกลางสวนซะด้วย พอไปใกล้ๆ ร้านเค้าขายส้มตำ ตัวร้านอยู่ด้านริมถนนข้างทาง แต่มีโต๊ะกลางสนามให้นั่งกินด้วย...สงสัยจะตกลงกับเจ้าของที่ได้ กลายเป็นส้มตำกลางสวน

ธีร์ตอนแรกจะไม่ยอมเดินมานั่ง แต่พอดูตุ๊กตาประดับสวน ต้นไม้ ดอกไม้ก็วิ่งไปวิ่งมาสนุกสนาน เห็นดอกลีลาวดีทีไร ต้องวิ่งไปเก็บมาทุกครั้ง บอกใครๆ ว่าจะเก็บมาให้หม่าม้า...เก็บมาได้ 2 ดอก เก็บมาแล้วต้องบอกหม่าม้าทุกครั้งให้เสียบหูไว้ แล้วหม่าม้าก็ต้องทำให้ธีร์ด้วย...ออกมาแบบนี้ ไงล่ะ
เป็นแม่ลูกกันก็ต้องทำอะไรเหมือนๆ กัน หม่าม้าไม่ได้รับอนุญาตให้เอาดอกไม้ออก บ้าด้วยกันไปก่อน เด็กๆ ทำก็น่ารัก แต่หม่าม้านี่...สงสัยป๊าคงไม่เดินด้วยแน่ถ้าเสียบดอกไม้เดินไปเดินมา
เมื่อวานนี้ธีร์เป็นเด็กดีจนน่าแปลกใจ ตกลงกันตั้งแต่อยู่ในรถว่าให้ดูการ์ตูนจบแค่เรื่องเดียว จบแล้วไปอาบน้ำ แปรงฟัน แล้วเข้านอน สามารถทำได้อย่างที่พูดจนเข้านอน....อารมณ์ไหนก็ไม่รู้

Tuesday, June 09, 2009

จงจุดพลุ!!!

วันจันทร์...

ตื่นเช้าไปอาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวโดยไม่มีร้องไห้เสียงดังโวยวายให้สะเทือนจิตใจของทุกฝ่าย...เป็นนิมิตหมายอันดี กินขนมปังไส้กรอก แทะเล็มอยู่นานไม่หมดซักที

ป๊าไปส่งธีร์ไปโรงเรียน มีร้องไห้บ้าง ป๊าวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะป๊าอุ้มธีร์ไปส่งที่ห้องเรียน ถ้าเดินไปเองคงไม่มีปัญหา

ตกเย็นไปรับที่โรงเรียน อุแม่เจ้า! ยังคงใส่ชุดนักเรียนอยู่เหมือนเดิม ไม่ฉี่ราด จุดพลุกันเถิด!!! กางเกงนิ่มหายไปหนึ่งตัว คุณครูบอกว่าให้เพื่อนยืมใส่กลับบ้าน เพื่อนฉี่ราด...โอเคค่ะ หุ หุ หุ กางเกงตัวละ 20 บาท หายไปก็ยังโอเค depreciation cost น่าจะหมดไปแล้ว ใส่มาเกินปีแล้ว หัวมีขนมติดผมมาเล็กน้อย มายังไงก็ไม่รู้

เดินกลับรถ...ยังคงเฝ้ามองหา monitor อย่างมุ่งมั่น...ไม่เจอซักที ธีร์เบื่อแล้วนะ กลับบ้านอยู่นั่นแหละ 555

สรุปว่าจะเล่าแค่ว่า ธีร์มี 1 วันแล้วที่ใส่ชุดนักเรียนกลับบ้าน ไม่พลาด ไม่ราด ฮูเร เฮฮา

Thursday, June 04, 2009

ไหว้ครู

เย็นวันพุธ 5 โมงเย็น ไปรับธีร์ด้วยความเครียด รถรามาจากไหนกันยุ่บยั่บ เด็กเดินออกมาจากโรงเรียนเหมือน (ผึ้ง/มด) แตกรัง คิดผิดมากๆ สำหรับการเล่นพิเศษตอนเย็น เด็กคนไหนก็เลิกเรียน 5 โมงเย็นวุ้ย....

สะระตะดูแล้ว เปลี่ยนคำว่า "เรียนพิเศษ" เป็น "เล่นพิเศษ" จะดีกว่า คำว่าเรียนพิเศษนี่มันความหมายเลวร้ายมากสำหรับเด็กเตรียมอนุบาลอย่างธีร์ จริงๆ แล้วธีร์ไม่ได้ไปนั่งโต๊ะ จับดินสอ มองกระดาน ฟังครูสอนอะไรทั้งนั้น ธีร์ไปทำกิจกรรมกับคุณครู มีแบบฝึกหัดง่ายๆ แค่ 1 แผ่น 3 ข้อเท่านั้นต่อวัน

ไปรับธีร์หลังจากตระเวนซื้อของ+อาหารเย็น กว่าจะไปถึงโรงเรียนก็ 5 โมงเย็นพอดี ซ้ำอีกครั้ง รถติด เด็กเลิกเรียน ใครๆ ก็เลิกงาน กว่าจะเสี่ยงชีวิตผ่านเด็กๆ ที่เล่นกันโดยไม่มองซ้ายขวา ผู้ปกครองพึงระวังตัวเองและบุตรหลาน อย่าให้ใครวิ่งชน กระโดดถีบโดนเราและลูกได้ ในที่สุดไปถึงห้องเรียนของธีร์โดยสวัสดิภาพ 555

2 วันมานี้ตอนไปรับธีร์จะมีเพื่อนธีร์คนนึง คอยมาป้วนเปี้ยนสนใจ ถามธีร์ว่าเพื่อนชื่ออะไร ธีร์ตอบไม่ได้ เลยถามเจ้าตัวซะเลย ได้คำตอบมาว่าชื่อม่อน เห็นเค้าว่าชอบเล่นด้วยกันอยู่ เล่นกันยังไงหม่าม้ายังสงสัย ธีร์ได้สนใจเพื่อนบ้างรึเปล่า ม่อนเข้ามาเตือนธีร์ให้บอกหม่าม้าว่าให้เอา "ดอก"มาด้วย

เด็กๆ 2 คนเล่นทายคำตอบกับหม่าม้าอย่างเมามัน สรุปว่าใจความก็คือ ทั้ง 2 คนต้องการบอกหม่าม้าว่า พรุ่งนี้คุณครูให้เอาดอกเข็มมาโรงเรียนด้วย เป็นวันไหว้ครู หม่าม้าถึงกับอึ้ง คิดในใจว่า แล้วจะไปหาดอกเข็มมาจากไหนฟระ ถามคุณครูเพื่อความแน่ใจ...ใช่ค่ะคุณแม่ พรุ่งนี้ไหว้ครู ถ้าไม่มีธูปเทียน เอาแต่ดอกไม้มาก็ได้ ถ้าไม่มีดอกเข็ม เอาดอกอะไรมาก็ได้ค่ะ ปีก่อนคุณครูได้ดอกกุหลาบ....หม่าม้าถามกลับ คุณครูเอาดอกบัวได้ไหมคะ....ครูมองหน้าว่าหม่าม้ามามุกไหน

ระหว่างทางกลับบ้าน รถติด เราสองคนหลงทางวนเวียนอยู่ในเมือง ธีร์ก็โวยวายว่าพรุ่งนี้ต้องเอาดอกเข็มไปโรงเรียนให้ได้นะ หม่าม้าปิ๊งไอเดียเด็ด เราก็แวะร้านต้นไม้ซื้อมันซักต้นสิเนาะ....ปิ๊งแล้ว ธีร์ก็โวยว่าเราต้องไปร้านต้นไม้ให้ได้ แต่นั่นจะ 6 โมงเย็นแล้ว ร้านต้นไม้ร้านไหนจะเปิดล่ะ

ระหว่างทางกลับบ้าน ร้านต้นไม้ปิดแล้วจริงๆ หม่าม้ามองสองข้างทางระหว่างกลับบ้าน เล็งดูว่าตรงไหนมีดอกเข็มบ้าง สิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ จะแวะตัดก่อนไปโรงเรียน....หรือแอบตัดนั่นแหละ 555

พอถึงบ้าน ไปเล็งๆ ต้นเข็มที่บ้านเรามี...มีต้นจริง แต่ไม่มีดอก เอาไงดีหว่า....ถามๆ ดู ปรากฏว่ามี (ยะฮู้ ฮูเร...) ได้ดอกเข็มสีชมพูมา 2 กิ่ง มีเท่านี้จริงๆ ได้ดอกเข็มแล้วเริ่มโลภมาก ไหนหญ้าแพรกล่ะ 555

ในที่สุด จอมแสบสมธีร์ก็มีดอกเข็ม หญ้าแพรก ธูป เทียนไปไหว้ครูวันนี้ หน้าตาแบบนี้ หม่าม้าปั้นอยู่นานสองนานกว่าจะได้
เช้าวันนี้ ธีร์ตื่นมา ถูกหม่าม้าลวงไปอึ...หลังจากปรับทุกข์กับพี่เลี้ยงที่โรงเรียนถึงพฤติกรรมเรี่ยราด หม่าม้าสรุปได้ว่า ธีร์ฉี่ราดบ่อยๆ ไม่ยอมเข้าห้องน้ำเพราะว่าห้องน้ำโรงเรียนพื้นแฉะ มีกลิ่นเหม็น คนเยอะ หม่าม้าก็เลยบอกธีร์ว่าทุกเช้า เราตื่นมาเข้าห้องน้ำกัน แล้วปวดฉี่ก็บอกใครก็ได้ให้พาไป รีบไปทำธุระให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องอยู่ในนั้นนาน ธีร์พยักหน้าพร้อม "เออ เออ" เข้าใจ
อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวเรียบร้อย ถ่ายรูปคู่กับดอกไม้ไหว้ครูซะหน่อย หน้าตาดีใจ เดี๋ยวนี้บอกให้ถ่ายรูปมียิ้มให้กล้องด้วยนะ ตาชี้เชียว
ขึ้นรถ...อ้าว เวลล์ คุณคาร์ซีทหายไปไหน วิ่งวุ่นหาทั้งในบ้านและที่ออฟฟิศ ปรากฏว่าคุณคาร์ซีทอยู่หลังรถ ฝนก็ตกปรอยๆ กว่าจะวิ่งไปถึงโรงเรียน...เข้าแถวเคารพธงชาติพอดี วันนี้เด็กเล็กๆ เข้าแถวกันในห้องเรียน ส่วนพี่ที่โตหน่อยก็ไปเข้าแถวที่ลานกลางโรงเรียน

บรรยากาศในห้องเรียน...วันนี้หม่าม้าแบกกล้องไปด้วย เด็กๆ มองด้วยความสนใจ...เสื้อยืดฟ้าในรูปคือ ครูเกด 1 ใน 3 ครูผู้โชคร้ายที่ต้องมาต่อกรกับสมธีร์ ส่วนคุณครูที่ใสเสื้อสีฟ้าแขนยาวลิบๆ นั่นคือ Teacher Janette ครูฟิลิปปินส์ สอนภาษาอังกฤษของธีร์ เคยถาม Teacher ว่าธีร์เป็นยังไงบ้างในห้อง Teacher ตอบว่า "He is very playful." ไม่รู้จะแปลในแง่ดีหรือแง่ร้ายดี 555
ขากลับ หม่าก็เลยถ่ายรูปรอบๆ โรงเรียนเล็กน้อย ถ่ายรูปสระว่ายน้ำขนาดจิ๋วของโรงเรียนมาด้วย...1/8 ของสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก 555
เด็กๆ กำลังนั่งสมาธิ ถ่ายจากหน้าประตูโรงเรียน ตรงร่มแดงๆ คือสระว่ายน้ำ ขวามือที่มืดๆ หน่อยจะมีเวทีพิธีไหว้ครูวันนี้
และก็จบการรายงานข่าวประจำวันแต่เพียงเท่านี้....

Wednesday, June 03, 2009

แม่มดหึ่ง

วันอาิทิตย์ที่ผ่านมาหม่าม้าหยิบซีดีนิทานที่โมอิ๊เคยเอามาทิ้งๆ ไว้ให้กลับมาบ้านด้วย กะว่าจะให้ธีร์ฟังในรถระหว่างทางไปโรงเรียน หลังจากอาทิตย์ก่อนนี้เปิดซีดีนิทานประกอบเพลงเรื่อง "มังกรไฟไม่เรียนหนังสือ" ของคุณประภาส ชลศรานนท์ให้ธีร์ฟังแล้วธีร์ชอบ ร้องเพลงมังกรไฟไม่เรียนหนังสือได้สนุกสนาน บางทีไม่ยอมลงรถเพราะยังอยากจะฟังต่อ

ซีดีนิืทานของโมอิ๊เป็นของแถมจากนมถั่วเหลืองยี่ห้อนึง ฟังแล้วก็มีโฆษณาแฝงกลายๆ ให้ธีร์อยากกินนมยี่ห้อที่ว่าชะมัด...แถมนิืทานก็เล่าอย่างรวดเร็วติดจรวจ แป๊บๆ ไม่ถึง 30 วินาทีก็จบไปเรื่องนึงแล้ว แต่ก็มีข้อดีคือ ฟังแล้วสามารถล่อลวงให้ธีร์ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง

เรื่องแม่มดหึ่งนี่ก็เป็นเรื่องเด็ดมาก เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า "วันหนึ่งแม่มดหึ่งคิดจะปรุงยาขนานวิเศษจึงสั่งให้กาสัตว์เลี้ยงไปจับเด็กๆ ที่ตัวเหม็น ฟันเหม็น และหัวเหม็น ไม่ยอมอาบน้ำ แปรงฟันและสระผมมา 10 คนเพื่อต้มเป็นยา เด็กๆ ที่ถูกจับต่างหวาดกลัว บังเอิญมีนางฟ้าบินผ่านมาพอดีจึงเสกให้เด็กๆ ตัวหอม ฟันหอม และหัวหอม แม่มดได้กลิ่นความหอมสะอาดก็แก่ลงอย่างรวดเร็ว และตาย" นิทานที่เล่าในซีดีมีเท่านี้จริงๆ....อ่านแล้วเร็วมั้ยล่ะ

ธีร์ฟังนิทานเรื่องนี้แล้วก็ท่าทางจะหวาดกลัวแม่มดหึ่งเป็นอย่างมาก อาทิตย์นี้พอหม่าม้าชวนไปอาบน้ำ สระผม หรือแปรงฟันแล้วธีร์ไม่ยอม แม่มดหึ่งก็จะใกล้มาทุกที...แล้วธีร์ก็ยอมไปอาบน้ำ สระผม และแปรงฟันแต่โดยดี บางวันถึงกับชวนหม่าม้าไปเลยทีเดียว บางวันที่หม่าม้าเห็นว่าดึกแล้ว เลยเว้นการสระผมไป ธีร์ก็ไม่ยอม บอกว่าต้องสระ จะนอนแล้วก็ยังคิดจะไปสระผม...ไงล่ะ

หลังๆ แม่มดหึ่งมีพัฒนาการไปถึงการอมข้าวด้วย ถ้าอมข้าวไม่ยอมเคี้ยวแล้วกลืน ฟันจะผุแล้วเหม็น แม่มดหึ่งจะได้กลิ่นแล้วมาจับไป....การกินข้าวก็รวดเร็วขึ้น 555

ไม่กินนม....ธีร์ก็จะเป็นเหมือนนกกระสาตัวสั้นในนิทานแผ่นเดียวกันนี้ ตัวเล็ก ขาสั้น ตกน้ำแล้วขึ้นมาเองไม่ได้ต้องให้ลิงต่อตัวกันลงไปช่วย...ธีร์ก็จะกินนมแต่โดยดี

เรื่องเรียนพิเศษ เมื่อวานหม่าม้าไปคุยกับคุณครูมาแล้ว ทุกวันจะมีแบบฝึกหัด 1 หน้า แล้วคุณครูก็จะมีกิจกรรมให้เด็กๆ เล่น ไม่ได้เป็นการเรียนพิเศษแบบโหดร้ายเกินไป เช่นเมื่อวานที่ไปนั่งดู คุณครูก็จะสอนเรื่องสูง-เตี้ย จับคู่สิ่งของกับเงา มีโอกาสคุยกับพ่อของเอมี ได้ความว่าเอมีก็เรียนพิเศษ เหตุผลหลักๆ ก็คือ ดีกว่ากลับไปนั่งดูการ์ตูนอยู่ที่บ้าน 555

สรุปว่า ด้วยเหตุผลของพ่อเอมี....สมธีร์เลยได้เรียนพิเศษไปด้วย ทดลองก่อน 1 เดือนก็แล้วกัน ดีกว่านั่งดูการ์ตูนอยู่บ้าน ระหว่างทางไปรับค่อยเอาเสบียงตุนไปสังเวยสมธีร์เอาก็แล้วกัน...

Tuesday, June 02, 2009

เรียนพิเศษ?

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ธีร์มีวีรกรรมมากมายยิ่งนัก...

หลังจากที่ธีร์บ่นอยู่นานว่าธีร์จะไปวัด หม่าม้าไม่พาธีร์ไปวัดซักที เช้าวันอาทิตย์ พลพรรค ณ บ้านสายสี่ก็ตื่นไปตักบาตรที่วัดญาณเวศกวัน แถวๆ พุทธมณฑลกัน

ระหว่างรอพระ ธีร์ก็เดินสำรวจในวัด เดินไปเดินมาเห็นกิ้งกืออยู่หลายตัว (2 ตัว 555) เจ้าตัวร่ำๆ จะไปให้อาหารปลาตั้งแต่ก่อนจะตักบาตร หม่าม้าห้ามไว้ก่อนว่าทำบุญเสร็จแล้วค่อยไปทำทานก็แล้วกัน ตักบาตรเรียบร้อยก็ขับรถออกจากวัดกะว่าจะไปหาอาหารเช้าไปกินที่บ้าน ข้างวัดมีร้านขายผักกับขนมไทยๆ เล็กน้อย โมอิ๊บอกว่าจะกิน "ข้าวต้มมัด" ส่งหม่าม้าลงไปซื้อ

ได้ข้าวต้มมัดมา 1 มัด ขนมใส่ไส้ 2 อัน ขนมกล้วย 2 อัน ยังร้อนๆ อยู่ในถุงแล้วรีบวิ่งกลับไปขึ้นรถ ธีร์ก็ร้องว่าจะกินข้าวต้มมัด โมอิ๊ถามธีร์ว่าเคยกินรึเปล่า ธีร์ตอบว่าไม่เคยกิน....

ไม่เคยกิน โมอิ๊เลยจัดให้ แกะใบตองออกมา ธีร์ตอบว่านี่ไม่ใช่ข้าวต้มมัด....ไหนบอกไม่เคยกินไงล่ะ ดิ้นรนไปหยิบขนมใส่ไส้ ทุกคนรีบร้องห้ามกลัวเละเทะ โมอิ๊ก็เลยแกะขนมกล้วยให้กิน ธีร์ก็ตอบว่านี่ไม่ใช่อีก....ไม่ใช่อะไรล่ะเนี่ย....ธีร์พูดว่า "มันต้องมีเผือกอยู่ข้างในสิ หม่าม้าซื้อมาผิดรึเปล่า"

หนอยๆ คนไม่เคยกินข้าวต้มมัดถามหม่าม้าว่าซื้อมาผิดรึเปล่า จะกินอันที่มีเผือกข้างใน....อันนั้นเค้าเรียก "ข้าวเหนียวปิ้ง" ย่ะ

แวะซื้อต้มเลือดหมูเจ๊กจุ่นที่มาเปิดร้านใหม่อยู่ที่สายสี่กัน ธีร์ว่าจะกินมะพร้าว หม่าม้าสั่งของตัวเองเสร็จก็เดินไปร้านข้างๆ ซื้อมะพร้าว คุณชายสมธีร์ยังลากโมอิ๊มาบงการ สั่งว่าเอา 2 นะ

กลับถึงบ้าน กว่าจะกินข้าวเช้าเสร็จวิ่งไปรอบบ้าน เหนื่อยทั้งคนป้อนคนกิน ระหว่างที่อี๊บีหลบไปหลับบนเตียงเด็กของธีร์ ธีร์ก็เล่น "แบดซ์ แมน" กับโมอิ๊อยู่ โมอิ๊ถึงกับน่วมเลยทีเดียวเนื่องจากถูกอุปโลกน์ให้เป็นผู้ร้ายให้ "แบดซ์ แมน" จัดการ จะเล่นทั้งทีก็ต้องมีอุปกรณ์ประกอบเป็นผ้าคลุมด้วย คลุมยังไงก็ไม่ถูกใจ โมอิ๊เลยถูกธีร์โวยไปว่า "โมอิ๊ดื้อ ดื้อ ดื้อ"....ใครกันแน่น้อ...

ในที่สุด ผู้ช่วยชีวิตโมอิ๊ก็ตื่นขึ้นมา ม่าที่นั่งทำงานอยู่ก็ช่วยธีร์ด้วยการหนีบผ้าคลุมไว้ บอกว่าคราวนี้ไม่หลุดแน่ แต่วิ่งไปวิ่งมา ผ้าคลุมของ "แบดซ์ แมน" ก็หลุดอยู่ดี เจ้าตัวบอกม่าว่า "ไอเดียม่าไม่เิวิร์คเลย" ไงล่ะๆ
วันจันทร์ เวลาแห่งการไปโรงเรียนอันแสนจะวุ่นวาย ส่งธีร์ที่โรงเรียนเรียบร้อยไม่มีการงอแงแต่อย่างใด เลิกร้องไห้ แต่ยังคงฉี่ราด "พลาด" อย่างสม่ำเสมอ

ขากลับป๊าไปรับธีร์ อารามที่กลัวฝนจะตก ป๊าที่เห็นว่าครูยังไม่ปล่อยเด็กๆ ซะทีก็เป็นแนวหน้า "บุก" เข้าไปรับลูก ได้ความ (จากที่ครูบอกคนอื่นๆ ว่า) เริ่มเรียนพิเศษแล้วตั้งแต่วันนี้ เรียนตั้งแต่ 4 โมง ถึง 5 โมงเย็น เรียนพิเศษก็จะเป็นการเรียนเรื่องวิชาการ ซึ่งปกติในห้องเรียนไม่ค่อยจะได้สอน...จะเป็นนันทนาการซะเป็นส่วนใหญ่

ระหว่างทางเิดินไปรถ ป๊ากะธีร์ก็เจอมอนิเตอร์ 4 ขาว่ายน้ำเล่นอย่างร่าเริงในคลองเหมือนเคย ป๊าเล่าว่ามีเด็กบางคนเอาอาหารไปเลี้ยงมันด้วย จ๊ากกกก ขึ้นรถได้ก็บอกป๊าว่าธีร์จะกลับไปเล่าให้หม่าม้าฟัง ป๊ากลับบ้านเร็วๆ พอมาถึงบ้านก็วิ่งบุกไปถึงห้องครัวเพื่อบอกข่าวเจอมอนิเตอร์กับหม่าม้าอย่างตั้งใจ 555 เจอทู๊กวัน ยังไม่ชินอีกเหรอเนี่ย

เช้านี้ ป๊าไปส่งธีร์ที่โรงเรียนโดยลำพัง โทรกลับมาถามว่าเอาไงเรื่องเรียนพิเศษ หม่าม้าคิดว่าเทอมหน้าค่อยเรียนก็ได้ ป๊าก็เกรงว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อนๆ....ยังคงตกลงกันไม่ได้ คิดไม่ตกอยู่ต่อไป กับพ่อแม่คนอื่น เค้าก็คงโอเค เพราะเลิกงานก็คงมารับได้พอดี แต่บ้านเรานี่สิ....เอายังไงดีน้อ

ป๊ายังโวยอีกว่า...ไหนเธอบอกว่าธีร์ไม่ร้องไห้แล้ว นี่ร้องดิ้นรนจะหนีออกมาให้ได้....นั่นสินะ...สงสัยจะรักป๊าขึ้นมากระทันหันน่ะครับ หุ หุ หุ